ช่างฝีมือของ Nanatzcayan เชี่ยวชาญในการหาความสมดุลระหว่างภาระงานที่หนักอึ้ง และชีวิตที่สะดวกสบาย
—คำอธิบายจากเว็บไซต์ทางการ[1]
อุปนิสัย[]
ช่างสลักนามของ Nanatzcayan เชี่ยวชาญในการหาความสมดุล ระหว่างภาระงานที่หนักอึ้ง และชีวิตที่สะดวกสบาย
—คำอธิบายจากข้อความหน้าโปรไฟล์ของตัวละครในเกม
(รอการเพิ่มเติม)
ลักษณะรูปร่าง[]
(รอการเพิ่มเติม)
บทแนะนำทางการ[]
Xilonen แว่นกันแดดที่ฉันขอให้เธอทำคราวก่อน ฉันยังมีรายละเอียดบางอย่างที่อยากจะปรับ โดยเฉพาะลวดลายตกแต่งที่ปลายขาแว่น... เอ๋? ไปไหนซะแล้ว นี่ยังไม่ใช่เวลาพักเที่ยงนะ... Xilonen! อยู่มั้ย? พวกเรามาคุยรายละเอียดการทำแว่นกันแดดกันอีกหน่อยเถอะ...
—ด้วยเหตุนี้ Mavuika ถึงได้ตะโกนอยู่หน้าเวิร์กช็อปของ Xilonen
ทั่วทั้ง Natlan ความเชี่ยวชาญด้านช่างฝีมือของ Xilonen นั้นมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว
ผู้คนจากหลายที่ต่างเดินทางมาเพื่อชื่นชมในทักษะอันยอดเยี่ยมของเธอ บางคนอยากจะขอให้ Xilonen สร้างอาวุธให้ แต่บางคนก็แค่อยากมาเห็นหน้าตาของช่างฝีมือผู้นี้ เพื่อจะได้มีเรื่องที่น่าสนใจไปพูดคุย
แต่ Xilonen ไม่สนใจเลยว่าลูกค้าของเธอคิดยังไง ไม่ว่าคนนอกจะให้ฉายาแปลก ๆ แบบไหนกับเธอ แต่ก่อนที่เกียรติยศทั้งหมดจะมาถึง เธอก็คือช่างฝีมือคนหนึ่งมาก่อน สิ่งที่เธอต้องทำก็คือทำตามคำขอของลูกค้า โดยการทำให้แร่ผ่านการเผาและตีอย่างพิถีพิถัน จนกลายเป็นวัสดุที่ต้องการ
ชื่อเสียงจอมปลอมไม่ได้ทำให้เธอทุบเหล็กได้แรงขึ้น และคำโจมตีก็จะไม่ทำให้ความร้อนในเตาของเธอลดลง
อย่างไรก็ตาม เมื่อลูกค้าก้าวเข้าสู่เวิร์กช็อป สิ่งที่ต้อนรับพวกเขาอาจจะไม่ใช่ความร้อนของไฟในเตา แต่เป็นแบบฟอร์มสอบถามที่เต็มไปด้วยช่องว่าง
"อยากสั่งทำของน่ะได้อยู่แล้ว แต่ก่อนหน้านั้น พวกเรามายืนยันรายละเอียดคำขอกันก่อนดีกว่า"
"สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ได้งานอย่างมีประสิทธิภาพ เรามาคุยกันก่อนเถอะ ว่าคุณต้องการอะไร"
เรื่องราวของตัวละคร[]
ข้อมูลตัวละคร
ทักษะการตีเหล็กอันยอดเยี่ยม และฉายา "ช่างสลักนาม" ของ Xilonen นั้น เป็นที่รู้กันไปทั่วทั้ง Natlan
ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศมาที่นี่ เพราะชื่นชมในความสามารถอันยอดเยี่ยมของเธอ บางคนก็มาเพราะอยากสั่งทำอาวุธกับ Xilonen บางคนก็ตั้งใจมายลโฉมหน้าของ "ช่างสลักนาม" ผู้นี้ เพียงเพื่อตัวเองจะได้มีเรื่องไปคุยต่อ
แต่ Xilonen ไม่สนใจความรู้สึกของแขกผู้มาเยือน ไม่ว่าคนนอกจะมอบฉายาวิจิตรพิสดาร ให้เธอมากมายแค่ไหน แต่ก่อนที่จะมีชื่อเสียงเกินกว่าผู้อื่น เธอก็เป็นเพียงช่างฝีมือคนหนึ่งเท่านั้น สิ่งที่เธอต้องทำมีแค่ ทำตามคำขอของลูกค้า นำแร่ไปชุบไฟให้อ่อนตัว แล้วหลอมเป็นวัสดุ ชื่อเสียงจอมปลอมนั้น ไม่ได้ทำให้เธอมีพลังมากขึ้น และคำพูดใส่ร้ายนานา ก็ไม่ได้ทำให้อุณหภูมิ ในเตาหลอมของเธอลดลง
แต่เมื่อลูกค้าก้าวเข้ามาในเวิร์กชอป สิ่งที่ต้อนรับพวกเขา อาจไม่ใช่คลื่นความร้อนจากเตาหลอม แต่เป็นแบบฟอร์มแบบสอบถาม ที่ว่างเปล่ามากกว่า
"ฉันไม่มีปัญหากับคำขอ ในการหลอมสร้างอยู่แล้ว แต่ก่อนอื่น เราต้องยืนยันรายละเอียดคำขอก่อนนะ"
"การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ จะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพ มา เรามาพูดคุยกันก่อนเถอะว่า คุณต้องการอะไรกันแน่?"
เรื่องราวของตัวละคร 1
ความประทับใจ Lv. 2
ในใจของผู้คนส่วนใหญ่ใน Natlan การขัดเกลาเรื่องราว และหล่อหลอม "นามโบราณ" ถือเป็นภารกิจที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด
"นามโบราณ" เป็นตัวแทนของการกระทำที่กล้าหาญ และจิตวิญญาณของผู้กล้านับไม่ถ้วน กล่าวได้ว่าเป็นรากฐานในการตั้งมั่นของ Natlan
และในฐานะ "ช่างสลักนาม" ที่สร้าง "นามโบราณ" เป็นเรื่องธรรมดา ที่ช่างสลักนามจะต้อง ถูกจินตนาการถึงความคิดแปลก ๆ มากมายเกี่ยวกับ "นามโบราณ" ต่าง ๆ เหล่านี้
พวกเขาอาจจะเป็น... นักบวชผู้โดดเดี่ยว ที่ใช้การฝึกตนอันทรหดและเดียวดาย เพื่อฝึกฝนจิตใจของตนเอง หรือเป็นทหารผ่านศึก ที่กรำศึกมาอย่างโชกโชน ซึ่งแบกรับทั้งชื่อเสียง และบาดแผลจากการต่อสู้นับไม่ถ้วน หรือเป็นผู้ถูกเลือกที่มีความสามารถ เรียนรู้ศาสตร์จากช่องทางลึกลับ และทำหน้าที่สลักนาม...
จริงสิ! ยังมีผู้กล้าบางคนที่ได้รับเลือกจาก Wayob ด้วยตัวเองอีกด้วย ภายใต้การชี้นำจาก Wayob เขาได้ผ่านการทดสอบ ที่เป็นดั่งตำนานมานับไม่ถ้วน เอาชนะศัตรูที่แข็งแกร่งมากมายเหลือคณา และเมื่อการเดินทางสิ้นสุดลง ในที่สุดเขาก็ค้นพบคำตอบ ที่ฝังลึกอยู่ในใจของเขามานาน...
"พี่ Xilonen! มันเป็นอย่างนี้จริง ๆ ใช่มั้ย! เรื่องราวพวกนั้น เป็นเรื่องจริงหมดเลยเหรอ? ช่างสลักนามได้รับพลังแบบนี้ กันหมดเลยรึเปล่า?!"
เมื่อพวกเด็กขี้สงสัยในเผ่า "บุตรแห่งเสียงสะท้อน" อุตส่าห์จับตัว Xilonen ได้ทั้งที "ช่างสลักนามคนปัจจุบัน" ที่หลบมานอนกลางวัน อยู่บนต้นไม้ก็หาวหวอด ตอบไปอย่างเสียไม่ได้ว่า:
"ก่อนอื่น การสร้าง 'นามโบราณ' นั้นเป็นปัญหาทางเทคนิคอย่างหนึ่ง"
"เอ่อ... แต่ว่า..."
"ถ้าอยากแก้ปัญหาทางเทคนิคให้ได้ละก็ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือตั้งใจศึกษา และลงมือทำจริง..."
คำพูดที่ไม่น่าฟัง แต่เปี่ยมด้วยเจตนาดีของช่างสลักนาม ยังไม่ทันจบ พวกเด็ก ๆ ก็ทำหน้ามุ่ยแยกย้ายหายไปหมดแล้ว จินตนาการอันงดงาม และบริสุทธิ์ของพวกเขา หล่นวูบดั่งแร่หินออบซิเดียนดำสนิท ที่ร่วงหล่นลงพื้น และจนกว่าพวกเขา จะค้นพบความคิดถัดไป ที่ช่วยส่งเสริมจินตนาการของพวกเขา ให้ทะยานเหนือขึ้นไปบนก้อนเมฆนั้น พวกเขาจะยังคงเรียนรู้ต่อไป ไม่ว่าจะสมัครใจหรือไม่ก็ตาม
"เฮ้อ ฉันไม่ได้หลอกพวกเธอสักหน่อย..."
ช่างสลักนามเอนกายลงนอนตามเดิม โดยมีกิ่งก้านเขียวชอุ่ม ช่วยบดบังแสงแดด ที่นี่เหมาะแก่การนอนมาก เวลาหลายสิบนาทีที่เหลืออยู่นั้น เพียงพอที่จะให้เธอ ได้พักสมองอย่างเต็มที่ เพื่อเตรียมรับมือกับงานหนัก ที่กำลังจะมาถึง
"มีแต่ต้องศึกษาให้ถ่องแท้ก่อน ถึงจะค้นพบวิธีที่ทำให้เรื่องราวพวกนั้น เป็นจริงขึ้นมาได้นะ"
เรื่องราวของตัวละคร 2
ความประทับใจ Lv. 3
ในบรรดาหลักสูตรการศึกษามากมาย เกี่ยวกับ "นามโบราณ" นั้น Xilonen สนใจแค่รายละเอียดทางด้านเทคนิคเท่านั้น
ทำยังไงจึงจะสามารถแกะสลักตราสลักโฟลจิสตัน ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดออกมาได้ จะใช้โฟลจิสตัน เพื่อขับเคลื่อนอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ยังไง และจะดัดแปลงภาพสลักที่มีอยู่แล้วได้ยังไง...
ทุกครั้งที่วิชาประเภทนี้เริ่มสอน พวกนักเรียนที่อยู่รอบ ๆ ก็มักจะหนังตากระตุก ปวดเศียรเวียนเกล้าอย่างอดไม่ได้ จากนั้นก็ทยอยฟุบกับโต๊ะ เข้าสู่ห้วงฝันไปตามเวลา
ในบรรดานักเรียนมากมายพวกนั้น สุดท้ายก็มีเพียง Xilonen ที่เป็นนักเรียนคนเดียวที่ไม่หลับ ภายใต้สายตาชื่นชมของช่างฝีมือ ที่เป็นผู้สอนวิชานี้ Xilonen ยังยกสมุดบันทึกในมือขึ้นมา ถามคำถามที่เธอสงสัยอีกด้วย
"การทำงานของตราสลักโฟลจิสตัน ขึ้นอยู่กับการไหลเวียนของโฟลจิสตันใช่มั้ย? แล้วถ้าหนูเข้าไปในสระที่มีแต่โฟลจิสตัน ภาพตราสลักโฟลจิสตันที่อยู่บนตัวหนูจะเคลื่อนไหว หยุดนิ่ง หรือว่าระเบิดคะ?"
"โฟลจิสตันมีสถานะที่เป็นก๊าซมั้ย ถ้ามี สมมุติว่าหนูเติมก๊าสโฟลจิสตันลงในปล่องไฟ แล้วโยนเนื้อชิ้นหนึ่งลงมาจากด้านบน ปล่องไฟจะต้องสูงแค่ไหน และโฟลจิสตันต้องหนาแน่นแค่ไหน ถึงจะทำให้เนื้อสุกพอดี ก่อนถึงด้านล่าง?"
"คนเราถ้าสูญเสียของเหลวในร่างกาย ประมาณ 20% ก็เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้แล้ว แล้ว Candlecap Mushroom จะต้องสูญเสียโฟลจิสตันเท่าไหร่ ถึงจะเหี่ยวเฉาหรือสูญเสียความร้อนไป"
คำถามอันเฉียบคม หรือแปลกประหลาดเหล่านี้ ไม่ได้ทำให้ Teyiz ช่างสลักนามผู้โด่งดัง หงุดหงิดแต่อย่างใด และเธอไม่รู้สึกว่า Xilonen กำลังหาเรื่องเธอเลยแม้แต่น้อย
Teyiz ที่ได้รับความเคารพอย่างสูง เพียงแค่รู้สึกประหลาดใจที่ Xilonen สามารถอดทนเรียนวิชาที่น่าเบื่อเช่นนี้ได้
เด็กส่วนใหญ่ไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลย วิชาที่พวกเขาชอบที่สุดก็คือ การฟังผู้อาวุโส เล่าตำนานของผู้กล้าในเผ่าต่าง ๆ จากนั้นก็จินตนาการว่าตัวเอง เป็นตัวเอกในตำนาน ก้าวข้ามผ่านความยากลำบาก และความเจ็บปวดพวกนั้น จากนั้นก็ได้รับดอกไม้และเสียงชื่นชม
Xilonen ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย แต่เพื่อให้สอบผ่านวิชาวรรณคดี และประวัติศาสตร์ เธอจึงใช้ลูกอมรสนม "ซื้อ" เพื่อนร่วมชั้น เพื่อจะยืมสมุดเลคเชอร์ มาลอกเนื้อหาอย่างละเอียด จากนั้นก็ท่องจำอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อให้เธอได้คะแนนแบบที่ไม่ถูกสงสัย
การจินตนาการบนความว่างเปล่า ไม่ใช่สิ่งที่เธอถนัดนัก หลักการและสมการที่ถูกต้อง และเที่ยงตรงต่างหากที่เธอชอบ มีเพียงสิ่งเหล่านี้เท่านั้น ที่จะเป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นหลัง และควรค่าแก่การศึกษาวิจัย
ส่วนเรื่องพวกนั้น... มันทั้งไม่เที่ยงตรง ไม่กระชับ ไม่มีคำจำกัดความ และไม่มีหลักการ ทั้งยังไร้ระเบียบให้ปฏิบัติตาม นอกเหนือจากเอาไว้ใช้ ให้ได้คะแนนในข้อสอบแล้ว ก็ไม่มีค่าให้สนใจอย่างสิ้นเชิง
ทั้งหมดนี้ล้วนอยู่ในสายตา Teyiz ทั้งสิ้น แต่เธอไม่ได้ห้ามปรามหรือตักเตือน Xilonen ในทันที
เพียงแต่เมื่อคาบเรียนต่อไปกำลังจะเริ่มขึ้น ขณะที่ Xilonen ตั้งท่าจะโดดเรียนด้วยข้ออ้างต่าง ๆ นานา ทั้งปวดท้อง เวียนหัว หรือเป็นหวัด Teyiz กลับจับโป๊ะข้ออ้างของเธอ ออกมาทีละอย่าง
"ฉันก็เคยคิดเหมือนเธอนะ Xilonen"
ช่างสลักนามผู้เมตตาตบสมุดบันทึกของ Xilonen ที่เต็มไปด้วยสูตรคำนวณเบา ๆ แล้วพูด:
"แต่สำหรับ 'ช่างสลักนาม' อย่างพวกเราแล้ว เนื้อแท้ของเรื่องราว และสูตรคำนวณไม่ได้แตกต่างกันเลย"
เรื่องราวของตัวละคร 3
ความประทับใจ Lv. 4
ในห้องเรียน เด็ก ๆ นั่งล้อมรอบ "ช่างสลักนาม" ที่ชื่อ Teyiz เพื่อฟังเธอเล่าเรื่องราวของผู้กล้า
Sundjatta, Menilek... และผู้กล้านับไม่ถ้วนที่ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อ Natlan และอุทิศตนเพื่อความยุติธรรมและคุณธรรม
พวกเด็ก ๆ นั่งฟังอย่างเคลิบเคลิ้ม แม้ว่าก่อนหน้านี้ พวกเขาจะเคยอ่านเรื่องราว ที่เกี่ยวข้องในตำรามาก่อนแล้ว แต่การบรรยายของคุณยาย Teyiz นั้นละเอียดและมีชีวิตชีวา กว่าบันทึกในตำราเสียอีก
ทั้งเรื่องที่ว่า ผู้กล้าคนนั้นดึงหินย้อยออกมา แล้วใช้มันเป็นหอก แทงดวงตาของมอนสเตอร์ได้อย่างไร และผู้กล้าอีกคนใช้เชือกเส้นเดียว ข้ามหุบเขาลึก และตามล่ามังกรชั่วร้าย เพียงลำพังได้อย่างไร...
รายละเอียดมากมายนับไม่ถ้วน ทำให้ผู้กล้าในเรื่องราวมีเลือดเนื้อ และมีชีวิตขึ้นมาในใจของเด็ก ๆ
แต่รายละเอียดที่หลากหลายนั้น ก็มักจะนำมาซึ่งความขัดแย้ง ที่หลากหลายด้วยเช่นกัน
เด็กคนหนึ่งเงยหน้าขึ้นมา ถามคำถามกับผู้เล่าเรื่องอย่างใสชื่อ เขาเคยอ่านหนังสือมามากมาย จึงมีคำถามมากล้น
"คุณยาย หนูมีคำถาม ในบันทึกของตำราในอดีต ผู้กล้าคนนี้พาเพื่อนไปล่าสัตว์ด้วยกัน ทำไมในเรื่องเล่าที่คุณยายพูดถึง เขาถึงได้อยู่คนเดียวล่ะ?"
Teyiz ตอบอย่างใจเย็น:
"ฉันเคยอ่านตำราเล่มนั้นแล้วเหมือนกัน งั้นเธอคิดว่า เรื่องเล่าที่พวกเราพูดถึงกันนั้น ฉบับไหนที่เป็นของจริงกันล่ะ?"
เด็กน้อยกะพริบตาปริบ ๆ แล้วพูดว่า:
"หนู... ก็อ่านเจอแบบนั้นแหละ..."
ช่างสลักนามอาวุโสยิ้ม แล้วพูดอย่างใจเย็นว่า:
"แบบนั้นก็เท่ากับเธอ สงสัยในข้อเท็จจริงของเรื่องราว โดยอาศัยแค่คำพูดส่วนตัว ไม่มีพยานหลักฐานหรือข้อพิสูจน์ใด ๆ มาสนับสนุนน่ะสิ"
เด็กน้อยยังคงไม่ยอมแพ้ ยืดอกตอบไปว่า:
"เรื่องราว... จะต้องการหลักฐานไปทำไม บนโลกนี้มีเรื่องราวตั้งมากมาย จะให้ไปหาหลักฐาน มาพิสูจน์ทั้งหมดน่ะไม่ได้หรอก"
ถึงยังไงเรื่องราวและตำนานส่วนใหญ่ ก็เล่าสืบต่อกันมาแบบปากต่อปาก ดังนั้นพอนานวันเข้า เรื่องราวและตำนานเหล่านั้น ก็ย่อมแปรผันไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถึงจะเป็นเรื่องเดียวกัน บุคคลเดียวกัน ก็อาจถูกเล่าขานต่างกันอย่างสิ้นเชิง ระหว่างชนเผ่าต่าง ๆ
ฝ่าย Xilonen ที่นั่งฟังอยู่ข้าง ๆ มานานนั้นหลับตาลงอย่างเบื่อหน่าย แล้วคำนวณสูตรใหม่ด้วยตัวเอง... ความคิดนี้ไม่ได้ต่างจากความคิดของเธอเลย สิ่งที่ไร้ระเบียบพรรค์นี้ไม่ควรค่าให้เธอ เหลือบแลแม้แต่น้อย
Teyiz พยักหน้า แสดงท่าทีว่าชื่นชมในคำพูดนี้ จากนั้นก็พูดว่า:
"เธอพูดไม่ผิดหรอก เรื่องราวของผู้กล้าแห่ง Natlan มีมากมายดุจหมอกในทะเลกว้าง บางทีอาจไม่มีทางพิสูจน์ เรื่องราวดังกล่าวได้จริง ๆ"
"ในเรื่องเล่าที่เล่ากันมาปากต่อปาก เรื่องราวนับไม่ถ้วนถูกบิดเบือน พูดเกินจริง พยายามยกย่องความสำเร็จของใครบางคน หรือไม่ก็ใส่สีตีไข่ และแอบลดทอนความสำเร็จของใครบางคนอย่างลับ ๆ..."
"แต่ในอนาคต พวกเธอจะชูค้อนขึ้นมา และได้รับมอบหมาย ให้สลักนามโบราณแด่วีรชนผู้พลีชีพ"
"ถึงเวลานั้น ถ้าเธอต้องจารึกวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ ของผู้พลีชีพด้วยนามโบราณ ก็จะมีเรื่องเล่าที่ไม่เป็นทางการ อีกนับไม่ถ้วนในประวัติศาสตร์"
"แล้วพวกเธอ ควรจะตัดสินใจอย่างไรล่ะ?"
ภาระหนักอึ้งที่ได้รับมากะทันหัน ทำให้เด็ก ๆ ที่เมื่อครู่ยังหัวเราะร่าเงียบเสียงลงทันใด
"ตำนานนั้นมีเส้นเรื่อง ส่วนเรื่องราวนั้นมีหลักการ"
"พวกเธอเคยฟังเรื่องราวมาตั้งมากมาย ทั้งยังเคยอ่านม้วนหนังสือมาหลายเล่ม"
"ตอนนี้ พวกเธอต้องเข้าเรียนวิชาถัดไปแล้วล่ะ"
Xilonen ลืมตาขึ้นมาเล็กน้อย
การอ่านเรื่องราวด้วยมุมมองแบบนี้ ก็น่าสนใจดีเหมือนกัน
เรื่องราวของตัวละคร 4
ความประทับใจ Lv. 5
การเรียนการสอนยังคงดำเนินต่อไป
ภายใต้การแนะนำของเธอ เด็กน้อยกำลังฟันฝ่ากับกองภูเขาหนังสืออย่างยากลำบากด้วยสีหน้าระทมทุกข์ อ่านเรื่องราวของผู้กล้า ซ้ำแล้วซ้ำเล่านับร้อยนับพันครั้ง และค้นหารายละเอียดทุกอย่าง โดยหวังว่าจะเจอเบาะแส ที่เชื่อมโยงกับเนื้อหาอื่น ๆ ในหนังสือ เพื่อเพิ่มหลักฐานที่คาดเดาไม่ได้ต่าง ๆ และหาข้อพิสูจน์ ความน่าเชื่อถือของเรื่องราวนี้
เด็ก ๆ ที่ก่อนหน้านี้ยังคิดว่า เรื่องราวของผู้กล้าเหล่านั้น น่าสนใจและฟังได้ไม่รู้เบื่อนั้น กำลังคิดหาวิธีหนีออกจากคาบเรียนวิชานี้เสียแล้ว
"ขืนเรียนต่อไปแบบนี้ ฉันคงไม่อยากอ่านเรื่องราวอะไรอีกแล้ว!"
"นั่นสิ ๆ! อะไร ๆ ก็ต้องตรวจสอบไปหมด น่าเบื่อจริง ๆ ไม่เหลือพื้นที่ให้จินตนาการเลย"
"Xilonen ทำไมเธอดูกระตือรือร้นจัง ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบอ่านเรื่องราวเลยไม่ใช่เหรอ?"
เมื่อเห็นสมุดบันทึกที่กองเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ของ Xilonen เพื่อนร่วมชั้นต่างพากันกะพริบตาปริบ ๆ พลางถามเพื่อนที่หัวดี แต่ดูเหมือนนิสัยจะเปลี่ยนไปปุบปับคนนี้
"ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบอ่านเรื่องราวหรอก ฉันแค่ไม่ชอบอ่านเรื่องราวที่ไม่มีหลักฐานน่ะ"
Xilonen เอามือเท้าคางตอบเสียงเนือย
จินตนาการนั้นเป็นเหมือนสายลม ที่พัดผ่านกำแพงหิน เบาบาง เย็นเฉียบ และแทรกซึมทั่วทุกพื้นที่ แต่ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่า ลมมีรูปร่างเป็นอย่างไร และไม่อาจรั้งให้มันอยู่ข้างกายนาน ๆ ได้
แต่ถ้าหาทางทำให้ลมตกลงมาที่พื้นได้ แล้วเปลี่ยนลมให้กลายเป็นหินสีดำที่ทั้งแข็งแกร่งและไร้เสียง เพื่อให้เรื่องราวที่ไร้รูปร่าง ยอมรับการหลอมตีให้มีรูปร่างขึ้นมาได้... สำหรับ Xilonen แล้ว การทดลองทางความคิดแบบนี้ ความจริงก็น่าสนใจดีเหมือนกัน
แต่ Xilonen ไม่ต้องการเป็น "ช่างสลักนาม" อย่างจริงจัง เธอไม่ได้สนใจจะคว้าจับสายลมอ่อนที่พัดโชย และไม่สามารถรวบรวมพลังเพื่อยกก้อนหินหนัก ๆ ได้
"ฉันไม่อยากจะสร้างนามโบราณ ในเผ่ามีคนตั้งเยอะแยะ เลือกใครก็ได้สักคนมาสร้าง ก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?"
Xilonen เคยสังเกตผู้เป็นพ่อในยามปกติว่า เวลาเขาคุยเรื่องธุรกิจกับคนอื่น มักจะมีสีหน้ายิ้มแย้มเสมอ แต่พอถึงเวลาที่ต้องเหวี่ยงค้อนตีอย่างจริงจังแล้ว ก็มักจะเผลอทำหน้าตาบึ้งตึงเป็นประจำ งานมักจะทำให้ผู้คนเหนื่อยล้าทั้งกายและใจเสมอ
"พ่อคะ ทำไมพ่อถึงอยากเป็นช่างสลักนามเหรอ เพราะมีเหตุผลที่สำคัญมากใช่รึเปล่า?"
"ก็ไม่ได้มีเหตุผลสำคัญอะไรหรอก พ่อแค่รู้สึกว่า คนที่ฟังเรื่องเล่า ก็มีหน้าที่ที่ต้องถ่ายทอดเรื่องเล่า ให้สืบทอดต่อไปเหมือนกัน" พ่อของเธอวางค้อนในมือลง เช็ดเหงื่อแล้วพูด
"แบบนั้นก็ง่ายเลยไม่ใช่เหรอ? แค่บันทึกเรื่องราวลงในม้วนหนังสือ หรือไม่ก็จารึกลงในก้อนหินก็ได้แล้ว"
"อืม การถ่ายทอดเรื่องราวก็ง่ายจริง ๆ นั่นแหละ"
แม่ของ Xilonen หยิบหวีออกมา เตรียมจะทำผมทรงใหม่ให้เธอ
"แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เต็มใจจะถ่ายทอดเรื่องราวที่แท้จริงหรอกนะ"
"แล้วคุณยาย Teyiz ละคะ?"
"คุณยาย... เป็นแค่หนึ่งในไม่กี่คนที่ยินดีทำแบบนี้น่ะ"
เรื่องราวของตัวละคร 5
ความประทับใจ Lv. 6
พิธีศพของคุณยาย Teyiz จัดขึ้นบนเนินเขาเตี้ย ๆ ที่อยู่นอกเผ่า ที่จริงการจากไปของช่างสลักนามผู้นี้ ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว
เธอแก่แล้ว จึงมักจะบอกคนที่ดูแลเธอเสมอว่า เธอได้ยินเสียง Wayob กระซิบพูดกับเธอในความฝัน
แต่เธอยังไม่สามารถจากไปได้ เธอยังมีเรื่องที่ต้องฝากฝังกับคนที่เหมาะสมอีก และก่อนที่จะถึงตอนนั้น เธอจะไม่สามารถตอบรับเสียงเรียกของ Wayob ได้
"...เลือดของขุนเขา ดวงตาแห่งหุบเขา"
"จงเผาผลาญสิ่งสกปรกให้หมดไป เพื่อดวงวิญญาณทั้งหลาย จะหวนคืนสู่เปลวไฟ"
Xilonen จรดคบเพลิงในมือลงไป แล้วฟืนก็ติดไฟขึ้นมา
เธอรออยู่ที่นั่นทั้งคืน จนกระทั่งเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น เธอก็เก็บอัฐิของคุณยายใส่ลงในโถ และนำไปฝังไว้ในถ้ำหิน ที่คุณยายพูดถึงอยู่ตลอดอย่างสงบ
ทว่าภายนอกถ้ำนั้น เรื่องราวของคุณยาย Teyiz กลับยุ่งเหยิงขึ้นมาราวกับพายุในหุบเขา
มีคนบอกว่า Teyiz ได้ถ่ายทอดวิชาหลอมนามโบราณที่แท้จริงให้แก่ตน และตนก็มีตำราที่มีลายเซ็นของ Teyiz เป็นเครื่องพิสูจน์ บางคนก็บอกว่า Teyiz ได้ทิ้งเวิร์กชอปของเธอไว้ให้กับตน และตนก็เป็นผู้ถือกุญแจของเวิร์กชอปนั้นไว้... การทะเลาะวิวาทเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์พวกนี้ไม่ได้คู่ควรให้ Xilonen ใส่ใจ สิ่งที่ทำให้เธอสนใจจริง ๆ ก็คือ คำพูดโกหกที่ร้ายกาจยิ่งกว่าต่างหาก
"ฉันได้ยินมาว่า ตอนที่ Teyiz สอน บางครั้งเธอก็ตั้งข้อสงสัยถึงความจริงของเรื่องราวผู้กล้าพวกนั้นด้วย..."
"คุณก็ได้ยินมาเหมือนกันเหรอ? ฉันก็... เฮ้อ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นปัญหาทางวิชาการ แต่แบบนี้จะทำให้เด็กมีอคติรึเปล่านะ?"
"ใช่ ๆ ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินมาว่า Teyiz สมัยวัยรุ่นนะ มักจะมุ่งเน้นไปที่การวิจัยทางเทคนิคอย่างเดียวมาตลอด คนแบบนี้มาเป็นอาจารย์สอนหลอมนามโบราณงั้นเหรอ... อืม..."
เรื่องราวของคุณยาย Teyiz ถูกบิดเบือนไปตามคำพูดที่ถ่ายทอดกันปากต่อปาก บางครั้งเธอก็ดูเป็นคนยิ่งใหญ่ที่ไม่เห็นแก่ตัว บางครั้งก็มีเป้าหมายอื่น เธอกลายเป็นผู้กล้าจากปากของคนคนหนึ่ง แล้วจากนั้นก็กลายเป็นคนเลว ที่น่ารังเกียจในชั่วพริบตา
ผู้คนไม่สามารถจับลมได้ จึงพยายามทำกล่องหลากหลายรูปแบบ โดยโกหกว่ารูปร่างของลมก็เป็นเช่นนี้
แต่เรื่องราวที่แท้จริงนั้นเป็นได้เพียง... เป็นได้เพียง... ก้อนหินที่หนักอึ้งและดำสนิทก้อนนั้น
วันรุ่งขึ้น ผู้คนในเผ่าต่างตกตะลึงที่พบว่า Xilonen ที่ปกติเกียจคร้าน ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน คล้ายกับว่าเธอมีกำลังวังชาอันไร้สิ้นสุด เธอเดินทางไปทั่วเผ่า "บุตรแห่งเสียงสะท้อน" เพื่อสัมภาษณ์ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับคุณยาย Teyiz และอ่านข้อมูลทั้งหมด ที่เกี่ยวข้องกับคุณยาย Teyiz การทำเช่นนี้ไม่ได้ทำให้ Xilonen หยุดอยู่แค่นี้ เธอออกจากเผ่า และไปสอบถามข้อมูลจากผู้ส่งสารของเผ่า "พงศ์พิดานพฤกษา" ไปเยี่ยมเยียนนักดนตรีของ "เหล่าวารี" และขอให้ "จ้าวแห่งลมราตรี" ยอมให้เธอเข้าไปอ่านม้วนหนังสือ จากนั้นก็ปีนขึ้นไปบนหน้าผาของ "วงศ์ปีกบุปผา" และก้าวเข้าไปในประตูของ "ผองสรรพสิ่ง"... ร่องรอยที่คุณยาย Teyiz ทิ้งไว้บนโลกใบนี้ ล้วนถูกเธอจดบันทึกไว้ทั้งสิ้น
ข้อมูลพวกนี้เพียงพอแล้วที่ Xilonen จะใช้หักล้างคำพูดใส่ร้าย และข่าวลือที่ไม่ดีเกี่ยวกับคุณยาย Teyiz ทั้งยังช่วยให้เธอเตะโด่งฉายาแปลก ๆ ที่คนบางพวกตั้งให้คุณยายทิ้งไปได้อีกด้วย
สิ่งที่ Xilonen ต้องการทิ้งไว้ก็คือ คุณยาย Teyiz ตัวจริงที่ไร้มลทินด่างพร้อย
มีเพียงแร่ที่ไม่มีรอยแตกร้าว และแข็งแกร่งที่สุดเท่านั้น ที่จะสามารถนำไปชุบไฟ ผ่านการหลอมอันยาวนานจนเป็นวัสดุได้
...
"พี่ Xilonen ทำไมพี่ถึงมาเป็นช่างสลักนามล่ะ? ดูเหนื่อยมากเลยนะ..."
เสียงค้อนตีเหล็กดังสะเทือน เหล่าลูกศิษย์ที่กำลังดู Xilonen ทำงานหลอมอยู่ด้านข้าง เอามือเท้าคางแล้วถาม
Xilonen หยุดตีเหล็กแล้วปาดเหงื่อ
"ฉันก็ไม่ได้อยากเป็นช่างสลักนามชื่อดังหรอก แต่ใครใช้ให้พ่อฉัน แม่ฉัน กับยายของฉันเคยทำมาก่อนล่ะ?"
"อีกอย่าง..."
Xilonen ยกค้อนขึ้นอีกครั้ง
"ยังไงก็ต้องมีใครสักคน รับหน้าที่เล่าเรื่องอยู่ดีละนะ"
"มิกเซอร์แดนซ์สุดเร่าร้อน"
ความประทับใจ Lv. 4
Xilonen ชอบสร้างอุปกรณ์ที่ใช้งานได้จริง และละเอียดอ่อน มากกว่าการหลอมสร้าง "นามโบราณ" ตัวอย่างเช่น เครื่องฉีดโฟลจิสตันแบบบีบอัด ที่สามารถสลักโฟลจิสตันในระยะไกลได้ เครื่องร่อนเวหาที่บินขึ้นลงในแนวดิ่ง ซึ่งใช้โฟลจิสตันเป็นเชื้อเพลิง และปืนสไนเปอร์ขนาดยักษ์ ที่สั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับบางคน...
และในบรรดาสิ่งประดิษฐ์มากมายของเธอ สิ่งที่ "บุตรแห่งเสียงสะท้อน" รู้จักดีที่สุด ก็คือ "มิกเซอร์แดนซ์สุดเร่าร้อน" ที่เธอดัดแปลงขึ้นมาเป็นพิเศษ
ในตอนนั้น การแข่งขัน "เต้นสว่านสุดร้อนแรง" ประจำวันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น เหล่านักเต้นพากันขึ้นเวที เต้นรำด้วยจังหวะที่ดุเดือด ราวกับลาวาที่เดือดพล่าน ทำให้คนบนเวทีและล่างเวที ฮึกเหิมกันอย่างสุดเหวี่ยง
แต่ในขณะที่การแข่งขัน กำลังถึงจุดไคลแมกซ์นั้นเอง จู่ ๆ "มิกเซอร์แดนซ์สุดเร่าร้อน" ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานาน ก็สูญเสียการควบคุม จังหวะดนตรีและเสียงตีกันวุ่นวายไปหมด เสียงดนตรีแหลมสูงดังขึ้น จนเกือบทำให้นักเต้น ที่กำลังจะทำท่ายากสะดุดล้มอย่างแรง ผู้ชมที่อยู่ข้างล่างเวทีต่างรีบปิดหูกันพัลวัน
ในขณะที่นักดนตรีที่คุมเวที กำลังลนลานทำอะไรไม่ถูก เสียงดนตรีที่วุ่นวายจู่ ๆ ก็สงบลง และ "มิกเซอร์แดนซ์สุดเร่าร้อน" ก็กลับมาทำงานอีกครั้ง เสียงทดสอบเบา ๆ ดังขึ้นเนิบ ๆ ผู้คนเห็น Xilonen เอามือจับคาง ในมือถือสายไฟพวงหนึ่งไว้
"ฮัลโหล ฮัลโหล ๆ ฮัลโหล ๆ ๆ... ได้ยินรึเปล่า?"
เหล่านักเต้นรำพยักหน้าตอบกลับตามสัญชาตญาณ
"โอเค ถ้าได้ยินแล้วก็เริ่มเลยเถอะ" Xilonen โยนสายไฟในมือลงบนพื้น แล้วตบนักดนตรีที่กำลังกะพริบตาปริบ ๆ อยู่เบา ๆ
"เพลงต่อไปก็ให้ฉันจัดการเองละกัน"
"Xilonen... เธอรู้วิธีคุมแผ่นเสียงรึเปล่า?"
"ฟังเอาเองละกัน"
พอพูดจบ ท่วงทำนองที่ทรงพลัง อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนก็ดังขึ้นบนเวที หลังจากอึ้งงันไปชั่วขณะหนึ่ง ผู้ชมก็ส่งเสียงเชียร์อย่างกระตือรือร้นมากขึ้นกว่าเดิม
เมื่อการแข่งขัน "เต้นสว่านสุดร้อนแรง" สิ้นสุดลง ผู้จัดงานก็ได้ไปหา Xilonen เพื่อเชิญเธอมาเป็นที่ปรึกษาด้านอุปกรณ์ และดีเจพิเศษในการแข่งขัน "เต้นสว่านสุดร้อนแรง" ทั้งยังเสนอค่าตอบแทนก้อนโต ให้อย่างสมน้ำสมเนื้ออีกด้วย
แต่ Xilonen กลับปฏิเสธทั้งเงินทั้งตำแหน่ง ยอมตกลงเพียงแค่ว่าเวลาว่าง เธอจะไปดัดแปลง "มิกเซอร์แดนซ์สุดเร่าร้อน" และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้เท่านั้น
เมื่อการสนทนาสิ้นสุดลง ผู้จัดงานเกาหัวแล้วถามว่า:
"Xilonen เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า... เธอจะคุมแผ่นเสียงเป็นด้วย ไปเรียนมาจากไหนเหรอ?"
"ก่อนหน้านี้ตอนที่ฉันไปขอคำแนะนำ เกี่ยวกับการสร้างแผ่นเสียงที่ 'เหล่าวารี' ฉันได้เรียนรู้เทคนิคการคุมแผ่นเสียงมาด้วย แต่เพราะงานยุ่งมาก ก็เลยไม่ค่อยได้ลองเล่นเท่าไหร่ อยากเรียนเหรอ? ฉันสอนให้ก็ได้นะ"
"ไม่ ๆ ๆ ฉันเรียนไม่ไหวหรอก..." ผู้จัดงานโบกมือพัลวัน:
"แต่เธอไม่เอาอะไรเลยจริง ๆ เหรอ? เรื่องยุ่งยากซะขนาดนี้ แถมปกติเธอก็ยุ่งมากอยู่แล้วด้วย..."
"อืม... จริง ๆ ฉันก็มีคำขออย่างนึง อยากให้คุณช่วยพิจารณาหน่อย"
"พูดมาสิ ว่ามาได้เลย!"
"รอให้ฉันไม่ต้องสร้าง 'นามโบราณ' อีกเมื่อไหร่ ให้ฉันไปเป็นดีเจอย่างเป็นทางการ ของพวกคุณ ดีมั้ย?"
วิชั่น
ความประทับใจ Lv. 6
มันควรจะทุบครั้งแรกยังไงกันแน่นะ?
ครั้งแรกที่ Xilonen สร้าง "นามโบราณ" เธอถือค้อนรีรอด้วยความลังเล ไม่รู้ว่าจะใช้ค้อนทุบลงไปตรงไหนดี
Xilonen อ่านข้อมูลมากมาย เพื่อเตรียมพร้อมในการสร้าง "นามโบราณ" เมื่อไม่กี่วันก่อน เธอเพิ่งจะตามทีมขุดเหมืองของชนเผ่า และได้พบกับแร่ที่มีคุณภาพดีที่สุด เธอได้ขอให้พ่อของเธอ ช่วยดัดแปลงเตาหลอม เพื่อให้มันสามารถบรรจุโฟลจิสตันได้มากขึ้น จะได้ให้ไฟที่แรงและร้อนมากขึ้น ซึ่งไฟนี้สามารถหลอมละลายแร่ชนิดใดก็ได้ เธอได้ทำการบันทึกภาพตราสลักโฟลจิสตันทั้งหมดในเวิร์กชอปใหม่อีกครั้ง และในระหว่างกระบวนการหลอมสร้าง เปลวไฟที่ปะทุออกมาจากเวิร์กชอปแต่ละครั้งล้วนอยู่ในการควบคุมของเธอ
เอาล่ะ Xilonen ทุกอย่างพร้อมแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาทุบแล้ว ค้อนแรกจะทุบลงไปที่ตรงไหนดี? จะหลอมสร้างลวดลายแบบไหน? และต้องทุบกี่ครั้ง?
ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วเวิร์กชอป แม้แต่เปลวไฟในเตา ก็ไม่กล้าส่งเสียงดังเปรี๊ยะ ด้วยกลัวว่าจะรบกวนช่างฝีมือคนนี้
Xilonen วางค้อนลง แล้วหยิบหวีที่ทำจากเขี้ยวสัตว์ออกมา หวีอันนี้ถูกขัดจนเงาวับ เปลวไฟที่ลุกโชนสะท้อนอยู่บนนั้น ทำให้มันแลดูอ่อนโยนขึ้นมาก
เจ้าของคนก่อนของมัน เป็นคุณยายที่ใจดีมากท่านหนึ่ง ทุกครั้งเวลาที่ Xilonen คิดจะแอบอู้ ท่านก็จะต่อรองด้วยการช่วยทำผมให้เธอ แล้วเกลี้ยกล่อมให้เธอ กลับไปเรียนหนังสือต่อ
คุณยายยังช่วยถักเปียที่สวยมากให้ Xilonen ด้วย เปียนั้นซับซ้อนมาก แม้แต่แม่ของเธอก็ยังใช้เวลาศึกษาอยู่นาน สุดท้ายก็ต้องไปขอให้คุณยายช่วยสอนให้... เพราะอย่างไรเสีย Xilonen ก็ชอบผมเปียแบบนี้อยู่ดี
เรื่องราวของคุณยายช่างสลักนาม Teyiz ปรากฏขึ้นมาในใจของ Xilonen นี่คือเรื่องราวที่เธอเป็นผู้รวบรวมเองกับมือ และตอนนี้เธอจะหลอมสร้างมันให้เป็นนาม
เสียงค้อนทุบทำลายความเงียบงัน ยามที่ Xilonen ทุ่มค้อนลงมานั้นทั้งแม่นยำและทรงพลัง เธอไม่ปล่อยให้เรื่องราวใด ๆ หลุดรอดไปแม้แต่น้อย แม้พวกมันจะเป็นลมที่เพ้อฝัน แต่ตอนนี้ก็ถูก Xilonen ผูกมัดไว้ และถูกเธอทุบจนกลายเป็นวัสดุ
หลังจากโฟลจิสตันสุดท้ายเผาผลาญจนหมดไป ไฟในเตาก็ดับลง และ "นามโบราณ" ชิ้นใหม่ก็ได้ก่อตัวเป็นรูปร่างขึ้นมา
เรื่องราวของคุณยาย Teyiz ได้ถูกสลักลงในนามแล้ว และจะไม่มีวันถูกบิดเบือนได้อีกต่อไป
ส่วนเรื่องที่ว่ามันจะถูก Wayob มอบให้ใครนั้น... ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ Wayob ที่ต้องคิดเอาเองแล้วกัน
Xilonen ลุกขึ้นยืนแล้วปัดเสื้อผ้า จากนั้นก็เริ่มเก็บกวาดเวิร์กชอป เธอก้มตัวลงและโยนแร่ที่ไม่ได้ใช้งานลงไปในตะกร้า แร่พวกนี้ล้วนเป็นแร่คุณภาพดีเยี่ยม ถ้านำมาใช้สร้างสิ่งของอื่น ๆ จะต้องได้ใช้งานอย่างแน่นอน
"อืม อีกเดี๋ยวกินอะไรดี? แม่บอกว่าเย็นนี้แม่จะทำปลา ให้ฉันกินไม่ใช่เหรอ?..."
หนึ่งอัน สองอัน สามอัน... ก้อนแร่ถูกใส่ลงในตะกร้าทีละอัน
Xilonen ที่กำลังสนใจแต่อาหารมื้อค่ำ ไม่ได้สังเกตเลยว่า "แร่" สีทองก้อนที่สี่ในมือของเธอนั้น ดูเหมือนจะแตกต่างจากก้อนอื่น ๆ เล็กน้อย
เสียง "กริ๊ก" ดังขึ้น "วิชั่น" วางนอนนิ่งอยู่ในตะกร้าก้อนแร่อย่างเงียบ ๆ ก่อนจะถูก Xilonen หิ้วออกจากเวิร์กชอปไปวางทิ้งไว้นอกบ้าน
Xilonen เดินฮัมเพลงออกไปกินข้าวเสียแล้ว และเธอก็เพิ่งมาสังเกตเห็น "แร่" พิเศษก้อนนี้ตอนที่มาทำงาน ในเวิร์กชอปครั้งต่อไป
สิ่งนี้เป็นทั้งของขวัญ และหน้าที่ของเธอ
นามบัตร[]
กลุ่มดาว[]
เควสต์และกิจกรรม[]
เควสต์เทพเจ้า
- บทที่ 5
- None บทสลับฉาก: รวมไฟเป็นหนึ่งเดียว
- ฉากที่ 5: ศังสกานท์คืนวิญญาณอันร้อนแรง
การทดลองใช้ตัวละคร[]
การกล่าวถึงตัวละคร[]
เรื่องราวของตัวละคร
| ตัวละคร | เรื่องราว |
|---|---|
เสียงพากย์ตัวละคร
| ตัวละคร | เสียงพากย์ |
|---|---|
| |
| |
| |
| |
| |
| |
|
เกร็ดข้อมูล[]
(รอการเพิ่มเติม)
นิรุกติศาสตร์[]
(รอการเพิ่มเติม)
ชื่อในภาษาอื่น[]
ฉายาตัวละคร: เปลวเพลิงหลอมวิญญาณ[]
| ภาษา | ชื่ออย่างเป็นทางการ | ความหมายที่แท้จริง |
|---|---|---|
| ไทย | เปลวเพลิงหลอมวิญญาณ | |
| อังกฤษ | Ardent Flames Forge the Soul | — |
| จีน (ตัวย่อ) | 焮火铸魂 | |
| จีน (ตัวเต็ม) | 焮火鑄魂 | |
| ญี่ปุ่น | 魂を鋳る烈火 Tamashii wo Iru Rekka | Raging Fire That Casts the Soul |
| เกาหลี | 영혼을 벼리는 불꽃 Yeonghon-eul Byeori-neun Bulkkot | Flame That Forges the Soul |
| สเปน | La Forjaalmas Candente | The Glowing Soulsmith |
| ฝรั่งเศส | Âme forgée par les vives flammes | Soul Forged by Bright Flames |
| รัสเซีย | Закалённая пламенем душа | Soul Tempered by Flame |
| เวียดนาม | Lửa Nung Đúc Hồn | |
| เยอรมัน | Im Feuer geschmiedete Seele | |
| อินโดนีเซีย | Ardent Flames Forge the Soul | — |
| โปรตุเกส | Fogo Ardente Forja a Alma | |
| ตุรกี | Harlı Alevlerle Dövülmüş Ruh | |
| อิตาลี | Anima forgiata da fiamme ardenti |
อ้างอิง[]
หน้าอื่น ๆ[]
| |||||||||||||||||||||||||||||
