Genshin Impact Wiki
Advertisement
Genshin Impact Wiki
ภาพรวมเนื้อเรื่องเสียงพากย์

ผู้ดูแลป้อมปราการ Meropide ได้รับบรรดาศักดิ์สูงสุดในฐานะพลเมืองดีเด่นของ Fontaine ให้เป็น "ดยุก" มักจะทำตัวติดดิน สุขุมเยือกเย็นและพึ่งพาได้

—คำอธิบายจากเว็บไซต์ทางการ[1]

อุปนิสัย[]

ดยุกแห่งป้อมปราการ Meropide ผู้ปกครองใต้ท้องทะเลอันมืดมิด

—คำอธิบายจากข้อความหน้าโปรไฟล์ของตัวละครในเกม

ลักษณะรูปร่าง[]

บทนำทางการ[]

แบบแรก[]

Navia ยังจำได้มั้ยว่าฉันเคยปฏิเสธบรรดาศักดิ์ "บารอน" ที่ Palais Mermonia มอบให้ฉันเมื่อหลายปีก่อน ไม่เป็นไร นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ วันนี้ในที่สุดฉันก็ได้พบกับผู้ดูแลป้อมปราการ Meropide แล้ว เมื่อก่อนฉันเคยคิดมาตลอดว่าบรรดาศักดิ์ 'ดยุก' เป็นเพียงเครื่องประดับเท่านั้น... แต่ที่คาดไม่ถึงยิ่งกว่าคือ Wriothesley ผู้นี้เจนโลกยิ่งกว่ารูปลักษณ์ที่ตาเห็นมากทีเดียว

Callas อดีตประธานขององค์กรกุหลาบหนาม

"ผู้ดูแลป้อมปราการ Meropide"

- ถ้า Wriothesley มีนามบัตรละก็ แค่บรรทัดเดียวก็เพียงพอแล้ว

ไม่มีคำนำหน้า ไม่มีคำลงท้าย เหมือนกับสถานที่ที่อาชญากรในความดูแลของเขาเหล่านั้นถูกเนรเทศมา ยืนหยัดอยู่ใต้ทะเลอย่างเงียบงัน

แม้จะอยู่อย่างสงบเสงี่ยมเช่นนี้ แต่ป้อมปราการ Meropide ก็เป็นที่อาศัยของอาชญากร ผลประโยชน์ทับซ้อนที่ซ่อนแฝงอยู่ในนั้นจึงยังคงทำให้ผู้คนไขว้เขวได้ง่าย

น่าเสียดายที่แม้จะมีคนพยายามแอบเข้าไปในสถานที่แห่งนี้ แต่พวกเขาก็จะหายตัวไปในชั่วพริบตา ราวกับเศษขนมปังที่หล่นลงไปในซุป

มีบางคนเยินยอว่าท่านดยุกเป็นนักแก้ปัญหามือฉมัง แต่พอ Wriothesley ได้ยินอย่างนั้น เขาก็แค่วางถ้วยชาลงอย่างเบามือ... จากนั้นก็หยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมา

"เธอเข้าใจผิดแล้ว พวกเขาก็แค่มองหาสถานที่สำหรับการใช้ชีวิตอย่างเป็นระบบระเบียบสักแห่ง และฉันก็ให้ 'ความสงบ' แก่พวกเขาตามที่พวกเขาต้องการเท่านั้นเอง"

เรื่องราวของตัวละคร[]

ข้อมูลตัวละคร

ความจริงที่ทำให้หน่วยตรวจตรากฎหมายพอใจมากก็คือ ชาวเมืองของนครว่าการ Fontaine ส่วนใหญ่ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งนั่นหมายความว่าป้อมปราการ Meropide จะไม่ปรากฏในชีวิตของพวกเขานั่นเอง

ในขณะเดียวกัน ก็มีความจริงอีกอย่างที่สมเหตุสมผลแต่น่าเศร้าก็คือ นักโทษที่รับโทษเสร็จแล้ว ยากที่จะปรับตัวเข้ากับชีวิตบนน้ำได้อีก และส่วนใหญ่ก็ไม่คิดที่จะพูดถึงสิ่งที่ตนเองพบเจอใต้น้ำเลย

แทนที่จะบอกว่าเป็นสถานที่เฉพาะ ป้อมปราการ Meropide เปรียบเสมือนแนวคิดบางอย่างมากกว่า เป็นสัญลักษณ์ของคำเตือน ความโชคร้าย และการลงโทษ ที่ปรากฏในคำบอกกล่าวของชาว Fontaine แต่ใครเป็นคนควบคุมแนวคิดนี้ก็คงไม่สำคัญหรอก

ด้วยเหตุนี้ Wriothesley จึงแทบจะเหมือนคนปลีกวิเวก ที่อาศัยอยู่ใน Fontaine ด้วยวิธีที่ไม่สอดคล้องกับตัวตน "ดยุก" เลย

เมื่อมีคนพูดว่า "ขืนยังสร้างเรื่องวุ่นวายอีก ฉันจะอัดให้นายไปอยู่ในป้อมปราการ Meropide เลย" หรือ "เรื่องบ้านี่ทำยากทำเย็นจริง ๆ สู้ไปขันสกรูอยู่ในป้อมปราการ Meropide ยังจะดีซะกว่า" บางทีผู้ดูแลป้อมปราการใต้น้ำคนนี้ อาจกำลังเดินไปตามถนนที่ปูด้วยหิน และมุ่งหน้าไปยังร้านกาแฟ เพื่อเตรียมห่อของหวานยามบ่ายให้ตัวเองก็ได้นะ

เรื่องราวของตัวละคร 1

ความประทับใจ Lv. 2


Wriothesley ไม่ได้ออกจากป้อมปราการ Meropide บ่อยนัก เพราะเขาสามารถเพลิดเพลินกับข้อมูล และเอกสารที่ต้องการในห้องทำงานได้ โดยคอยอาศัยเครือข่ายข้อมูลและสายสัมพันธ์ของตัวเอง

แต่เขาก็เข้าใจความจริงอย่างหนึ่งเช่นกัน ว่าไม่ควรปล่อยให้ตัวเองติดอยู่ที่นี่เพราะภาระงานหนัก ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่สามารถข่มตาหลับได้ตลอดไป หรือไม่ก็อาจต้องหลับใหลอยู่ใต้น้ำตลอดกาล

หากต้องการจัดการดูแลที่นี่อย่างง่ายดาย ก็มีสิ่งสำคัญเพียงสองอย่างนั่นคือ เงินและคน

โชคดีที่ป้อมปราการ Meropide เป็นโรงงานขนาดใหญ่ และ Wriothesley เองก็หาเงินได้เก่งมาก แถมยังมีลูกค้าที่ดีอย่าง พระราชวัง Mermonia อีกด้วย การให้ความสำคัญกับพระราชวัง Mermonia ไม่ใช่การชื่นชมอำนาจ ซึ่งนครว่าการ Fontaine ไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการในป้อมปราการ Meropide เพราะสุดท้ายแล้ว Mora ก็เป็นสิ่งล้ำค่าที่ยิ่งมีมากเท่าไหร่ยิ่งดี ดังนั้นแม้ว่ากรมกิจการทั่วไป จะมีข้อกำหนดด้านเอกสารที่เข้มงวดและยุ่งยากแค่ไหน Wriothesley ก็สามารถจัดการได้ทุกอย่าง

(เดิมที ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์ทางวิศวกรรมพลังงานจลน์ Fontaine ต้องการ Arkhium จำนวนมากเพื่อใช้เป็นวัสดุในการวิจัย บางทีก็อาจฝืนแข่งขันกับพระราชวัง Mermonia ได้ แต่ตั้งแต่ที่มันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวกลางอากาศที่สวยงาม ก็ได้ถอนตัวออกจากเวทีความร่วมมืออย่างน่าเสียดาย จนกว่าโชคชะตาจะนำมาให้กลับมาพบกันใหม่)

สิ่งที่คนรวยมักจะทำผิดพลาดมากที่สุดนั่นคือ ประเมินค่าเงินสูงเกินไป จนกลายเป็นคนหยิ่งผยอง ซึ่งนั่นก็เป็นความโชคดีอย่างที่สองของ Wriothesley เพราะเขาไม่ได้รวยมาแต่กำเนิด จึงรู้จักความสำคัญของการมีน้ำใจต่อผู้อื่น

เขาปฏิบัติต่อทุกคนในป้อมปราการ Meropide อย่างเท่าเทียม ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นนักโทษ ผู้คุม หรือเจ้าหน้าที่ธรรมดา ตราบใดที่พวกเขาประพฤติตัวสอดคล้องกับสถานะของตนเอง ก็จะไม่ถูกดุด่าว่ากล่าวใด ๆ

ในทางกลับกัน หากมีใครเข้าไปพัวพันกับสิ่งที่เกินกว่าสถานะตัวเอง งั้นก็คงต้องมีเรื่องคุยกันแล้วล่ะ พื้นที่ใต้น้ำเป็นพื้นที่ค่อนข้างปิด และไม่มีที่อื่นให้ไปนอกจากต้องอยู่ที่นี่ หากเป็นไปได้ Wriothesley ก็อยากให้ทุกคนคุยกันด้วยเหตุผล หากคำพูดไม่ได้ผล ก็คงต้องใช้วิธีที่โน้มน้าวใจได้มากกว่า

สำหรับความขัดแย้งเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างผู้คน ที่ไร้ความหมายแต่หลีกเลี่ยงไม่ได้นั้น การมองข้ามบ้างเป็นครั้งคราวก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร คนที่มีหัวสมองรู้ดีว่าไม่ควรทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ส่วนคนโง่เง่าเบาปัญญาก็มีที่ให้ไปอย่างแน่นอน เหมือนกับน้ำที่สามารถชำระล้างตัวเองได้ ผู้คนก็เช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ ทำให้ Wriothesley ไม่ได้ยุ่งจนหัวหมุน แถมยังมีเวลาว่างจนเหลือเฟือ

ครั้งหนึ่ง Clorinde ซึ่งเป็นตัวแทนประลองผู้มีชื่อเสียงโด่งดังของ Fontaine ได้มาเยี่ยมเยียนและถามเขาว่า "ทำไมรู้สึกว่านายว่างกว่าฉันอีกล่ะ? นี่นายไม่ได้ซื้อตำแหน่งดยุกมาใช่มั้ย"

"รอเดี๋ยว"

Wriothesley ที่ถูกสงสัยอย่างนั้น ก็ได้เปิดลิ้นชักสามชั้นติดต่อกัน และค้นข้าวของสักพักก่อนจะหยิบเอกสารหนา ๆ หลายฉบับออกมา "ไหนดูสิ... 'บริหารจัดการดีเยี่ยม'... 'กระตือรือร้นในการจ่ายภาษี'... '...ขอมอบตำแหน่งพิเศษนี้...' ...ลองเดาสิ ก็เหมือนจะเป็นงั้นจริงแหละนะ"

เรื่องราวของตัวละคร 2

ความประทับใจ Lv. 3  •  การเกิดใหม่ในดินแดนแห่งความเคียดแค้น


ในเมือง Fontaine ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องความเป็นกลาง ไม่มีตำแหน่งใดที่สามารถซื้อได้ด้วยเงินทอง การสนทนาไร้สาระในตอนนั้น เป็นเพียงเรื่องตลกขบขันของ Wriothesley กับ Clorinde ระหว่างพูดคุยธุระที่แสนน่าเบื่อเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตำแหน่งของ "ดยุก" จะไม่เกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยน แต่การที่ Wriothesley เข้ามาเป็นผู้ดูแลป้อมปราการ Meropide กลับเกี่ยวข้องกับเรื่อง "เงิน" อย่างเลี่ยงไม่ได้

คูปองสวัสดิการเป็น "เงิน" ที่หมุนเวียนในป้อมปราการ Meropide ซึ่งเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนในที่แห่งนี้ เรื่องนี้มีประวัติมาอย่างยาวนาน เพียงแต่รายละเอียดกลับเปลี่ยนแปลงไปเสมอ ตอนที่ Wriothesley อาศัยอยู่ที่นี่ในฐานะนักโทษ คูปองสวัสดิการมีอิสระในการแลกเปลี่ยนอย่างมาก และรายการสิ่งของที่สามารถซื้อได้ก็ครอบคลุมมาก ตราบใดที่มีคูปองในกระเป๋ามากพอ ผู้คนก็สามารถซื้อยาอันตราย, การทำนายการพนันที่เชื่อถือได้ 100%, ผู้คนที่ลังเล รวมถึงสิทธิ์ในการหายใจของผู้อื่นด้วย

เนื้อหาข้างต้นเป็นรายละเอียดการแลกเปลี่ยนที่ไม่เป็นทางการ และส่วนที่เป็นทางการก็มีความน่าสนใจของตัวเองเช่นกัน หากไม่มีช่องทางใช้ส่วนตัว ก็คงทำได้แค่ไปที่โรงอาหารเพื่อซื้อน้ำและอาหารราคาแพงเท่านั้น และคำพูดที่เขียนไว้บนใบเซียมซีนำโชค ไม่ใช่คำพูดไร้ความหมายใด ๆ แต่เป็นเนื้อหางานที่ต้องทำให้สำเร็จในวันนั้น เทียบกันแล้ว คูปองสวัสดิการเป็นเหมือนเครื่องมือที่ผู้บริหารคนก่อน ใช้เพื่อควบคุมนักโทษมากกว่าจะเป็นเงินเสียอีก

การโยนผู้กระทำผิดเข้าไปในความโกลาหลที่ไร้กฎเกณฑ์ เพื่อต่อสู้เอาตัวรอดด้วยตัวเอง ดูเหมือนจะเป็นวิธีการแก้ปัญหาได้ แต่ Wriothesley กลับไม่เห็นด้วย เขาคิดว่าตัวเองสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมเพื่อความอยู่รอดได้ แต่หากสภาพแวดล้อมไม่เหมาะที่จะเอาชีวิตรอดอีกต่อไป เขาก็จะไม่นั่งรอความตายเด็ดขาด

เขาใช้เวลานานในการรวบรวมเงินทุนเพื่อสร้างสังเวียนมวยใต้ดิน และค่อยอาศัยเงินก้อนนี้เพื่อทำกำไรที่มากขึ้น เขาเป็นคนช่างสังเกตและยังโน้มน้าวคนอื่นเก่ง อีกทั้งยังเป็นคนถ่อมตัวมาก ในขณะที่คนส่วนใหญ่ไม่ทันได้สังเกตเห็น คูปองสวัสดิการที่เขามีในครอบครองก็มากกว่าคนอื่น ๆ รวมกันเสียอีก

ความมั่งคั่งที่สะสมมาทำให้เขามีชื่อเสียงในหมู่นักโทษ และแล้วผลลัพธ์ที่รอมานานในที่สุดก็มาถึง ในชั่วข้ามคืน บัญชีของเขาถูกอดีตผู้ดูแลล้างจนหมดสิ้น

แต่อย่างที่บอกไป Wriothesley เป็นคนที่โน้มน้าวคนอื่นเก่งมาก เขาแค่ใช้คำพูดมีพลังที่ยั่วยวน และทำให้ผู้คนทั้งยากดีมีจน ตระหนักได้ว่าพวกเขาอาจประสบชะตากรรมแบบเดียวกัน หากอยู่ภายในการปกครองของผู้ดูแลแบบนั้น เท่านี้ก็จะมีคนออกหน้ารับแทนเขาเอง และเมื่อเขาประพฤติตัวตรงไปตรงมา ในสภาพแวดล้อมที่ดีมากพอ คนอื่น ๆ ก็จะมาเข้าร่วมกับเขาเพื่อเติมเต็มคุณค่าที่ขาดหายไปในจิตใจ

ดังนั้นเขาจึงได้ท้าประลองกับอดีตผู้ดูแลป้อมปราการ Meropide ในนามของความเป็นธรรม ความยุติธรรม และความสงบเรียบร้อย ซึ่งหากพิจารณาจากสถานที่และฐานะของพวกเขาแล้ว การประลองครั้งนี้แทบจะไม่มีความสมเหตุสมผลและไม่ถูกต้องเสียเลย แต่ผู้ชมรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นผู้คุมหรือนักโทษ กลับไม่มีใครโต้แย้งใด ๆ

ที่โชคดีก็คือ อดีตผู้ดูแลคนนั้นหนีไปซะก่อน ชีวิตของเขาจึงรอดพ้นจากเงื้อมมือของ Wriothesley แต่ที่โชคร้ายก็คือ วันนั้นเป็นวันรับโทษวันสุดท้ายของเขา และก็เพราะไม่มีผู้ดูแลแล้ว จึงไม่มีใครทำเรื่องปล่อยตัวเขาออกไปได้

ดังนั้น เขาจึงเดินเข้าไปในห้องทำงานใจกลางป้อมปราการ Meropide และรับช่วงต่องานทั้งหมด

เรื่องราวของตัวละคร 3

ความประทับใจ Lv. 4  •  การเกิดใหม่ในดินแดนแห่งความเคียดแค้น


เมื่อเข้าถึงเอกสารบางอย่างได้แล้ว Wriothesley จึงได้อ่านบันทึกคดีของตัวเอง ซึ่งมีเนื้อหาไม่มากนัก และเป็นข้อมูลทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่ Fontaine สามารถสืบค้นได้ จากบันทึกการซื้อขายของครอบครัวอุปถัมภ์ เขาถูกรับมาในฐานะทารกที่ถูกทิ้ง นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีข้อมูลที่ใช้ได้แล้ว

และในระหว่างที่อ่าน เขายังได้เห็นชื่อที่คุ้นตา ใบหน้าที่เลือนรางแวบขึ้นในความทรงจำ และหายไปพร้อมกับเสียงพลิกหน้ากระดาษ ตราบใดที่ Wriothesley ยินดี เขาก็สามารถใช้เส้นสายของตัวเอง ตรวจสอบสถานการณ์ของเพื่อนเก่าเหล่านี้ได้ แต่เขาก็ละทิ้งความคิดนี้ในทันทีที่มันปรากฏขึ้น

สำหรับพวกเขาแล้ว Wriothesley คงเป็นตัวแทนของอดีตที่พวกเขาไม่อยากจดจำ และสำหรับ Wriothesley ชื่อเหล่านี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตปัจจุบันของเขาอีกต่อไป เขามีตัวตนใหม่ มีที่อยู่ใหม่ และมีเพื่อนใหม่แล้ว

นี่เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่มาก เขารู้จักผู้คนมากมาย แต่คนที่นับเป็นเพื่อนได้ กลับมีแค่ส่วนน้อยเท่านั้น และส่วนใหญ่ก็ดันไม่ใช่มนุษย์ด้วย เหล่าเมลูซีนชอบคลุกคลีอยู่กับมนุษย์ เขาคิดว่า หากมองแค่ภายนอกคงยากที่จะตอบได้ว่าพวกเธออายุเท่าไหร่ แต่ความปรารถนาดีที่พวกเธอแสดงต่อมนุษย์นั้น กลับมีความไร้เดียงสาที่มีแค่ผู้สูงวัยเท่านั้นจะมีได้ พวกเธอคิดว่าสิ่งมีชีวิตอายุน้อยล้วนแต่มีจิตใจดีมาโดยธรรมชาติ ซึ่งสมควรได้รับการดูแลเอาใจใส่ และมีอนาคตที่สดใสอย่างไม่สิ้นสุด

Wriothesley เคยได้รับการดูแลจากเมลูซีนมาหลายครั้ง อย่างในขณะที่เขาเดินไปตามท้องถนนแบบตัวเปล่า ก็มีเมลูซีนที่เดินผ่านมามอบซุปร้อน ๆ ให้ หรือจะเป็นในตอนที่เขายังไม่สามารถออกจากสังเวียนมวย Sigewinne จากห้องพยาบาลก็จะรอต้อนรับการมาเยือนของเขาอย่างอบอุ่นเสมอ และในตอนที่เขาสืบหาเรื่องลับบางอย่าง เจ้าหน้าที่ทุกคนในหน่วยล่าเงาก็พร้อมจะช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่ ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย

ดังนั้น แม้ว่าการมาเยือนป้อมปราการ Meropide ของเมลูซีน จะทำให้เกิดปัญหาที่ไม่จำเป็น แต่ Wriothesley ก็ยังคงอนุญาตการมาของพวกเธออยู่ดี และหัวหน้าพยาบาลจะเป็นคนจัดการเรื่องที่ควรเตือนพวกเธอ โดยไม่ต้องลงรายละเอียดใด ๆ เอง ยิ่งไปกว่านั้น หากพวกเธอสามารถใช้โอกาสตอนที่เขาไม่ทันสังเกตติดสติกเกอร์ไปทั่วทุกที่ได้ งั้นเขาก็คงไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องความปลอดภัยของพวกเธอมากแล้วล่ะ

เรื่องราวของตัวละคร 4

ความประทับใจ Lv. 5  •  การเกิดใหม่ในดินแดนแห่งความเคียดแค้น


Wriothesley มองดูรอยเปื้อนสีแดงเข้มกระจายไปทั่วพื้น ทันใดนั้นสมองเขาก็นึกถึงเรื่องตลกที่ไม่ค่อยเหมาะอย่างหนึ่งขึ้นมาว่า ถ้าจะตรวจสอบร่องรอยเลือดทั้งหมดของที่นี่ จะต้องใช้เจ้าหน้าที่เมลูซีนกี่คนกันนะ?

จากนั้นความคิดของเขาก็โดดไปเรื่องอื่น: เขาและคนที่หลอกลวงคนนั้น มีเลือดที่คล้ายกันจนแทบจะรวมเป็นหนึ่งเดียวได้ ช่างน่ารังเกียจซะเหลือเกิน

แต่เขาไม่สามารถอาเจียนและไม่แม้แต่จะขยับนิ้วได้ ความคิดและความอบอุ่นจางหายไป จิตใจของเขาเต็มไปด้วยหมอกหนาทึบ จนถึงตอนนี้เขาก็ไม่มีอะไรในชีวิตที่ควรค่าแก่การจดจำเลยแม้แต่น้อย

แต่แล้วเขากลับไม่ตาย เห็นได้ชัดว่าพระเจ้าอยากให้เขามีชีวิตต่อไปเพื่อชดใช้บาป เขาตื่นขึ้นมาบนเตียงในโรงพยาบาล โดยที่มีมือทั้งสองถูกสวมกุญแจมือล็อกไว้กับราวเหล็ก มีผู้หญิงแต่งตัวดีมองดูเขาอย่างประหม่าจากเก้าอี้ที่อยู่ไกล ๆ เธอคงจะคิดว่าเขาเป็นเยาวชนกระทำผิดอย่างแน่นอน

เธอหยิบปากกาและกระดาษออกมาแล้วถามชื่อของเขา Wriothesley เงียบอยู่นาน เขาจำได้ว่าเห็นข่าวมรณกรรมในหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับชายคนหนึ่ง ที่มีชื่อยาวและซับซ้อนมากกำลังมีความสุขกับวัยชราของตัวเอง เขาไม่ได้ชอบชื่อนี้เป็นพิเศษ แต่แค่ไม่อยากใช้ชื่อที่พ่อแม่บุญธรรมนั้นตั้งให้อีกต่อไปแล้ว

หญิงสาวก้มหน้าแล้วจดบันทึกว่า "Wriothesley" พร้อมทั้งแจ้งให้เขาทราบสั้น ๆ ถึงวันพิจารณาคดี ซึ่งน่าจะเป็นวันที่เขาสามารถลุกจากเตียงในโรงพยาบาลได้ แล้วเธอก็รีบเดินจากไป

การพิจารณาคดีเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งทำให้เขารู้สึกขอบคุณมาก บาปที่แปดเปื้อนมือและหยั่งรากลึกในหัวใจของเขา ผลักดันให้เขาโหยหาคำตัดสินที่ยุติธรรม เขาบอกเล่าเหตุและผลของการฆาตกรรมอย่างครบถ้วน และยังเพิ่มรายละเอียดบางอย่างที่ทำให้ผู้ชมไม่มีอะไรจะโต้แย้งได้ ตอนแรกพวกเขาคุยกันถึงคดีในอดีตที่เกี่ยวข้องกับเด็กกำพร้า โดยพยายามหาแบบแผนต่าง ๆ แต่ก็ไร้ประโยชน์ และภายหลังก็เริ่มขอความเมตตา เพราะเชื่อว่าเป้าหมายในการแก้แค้นของเขานั้นน่ารังเกียจ และเขาไม่ควรแบกรับความผิดแบบนี้

เสียงโต้แย้งด้านหลังเหล่านี้ ไม่มีผลต่อคำตัดสินสุดท้าย เมื่อการพิจารณาคดีสิ้นสุด เขาถูกส่งตัวไปรับโทษที่ใต้ทะเลทันที ก่อนออกเดินทาง เจ้าหน้าที่กรมกิจการทั่วไปที่รับผิดชอบการเขียนคำพิพากษา ได้ยืนยันข้อมูลส่วนตัวของเขาอีกครั้ง

"คุณชื่อ... Wriothesley ใช่มั้ย? แล้ววันเกิดล่ะ"

"...วันนี้"

เรื่องราวของตัวละคร 5

ความประทับใจ Lv. 6  •  การเกิดใหม่ในดินแดนแห่งความเคียดแค้น


ถุงมือจักรกลของ Wriothesley ผ่านการดัดแปลงมาหลายต่อหลายครั้ง

จุดเริ่มต้นของมันนั้น คงต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนที่เขาหนีจากครอบครัวอุปถัมภ์ เมื่อพิจารณาจากอายุและรูปร่างของเขาในตอนนั้นแล้ว ดูจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรับมือกับผู้ใหญ่มากกว่าหนึ่งคน เขาไม่มีทางเลือกจึงต้องเร่ร่อนไปตามถนน, ทำงานแปลก ๆ, เป็นเด็กฝึกงาน, เรียนรู้ทักษะการปลดล็อกและประดิษฐ์กลไกขนาดเล็ก เตรียมทุกอย่างให้พร้อมเพื่อกลับไปทำลายสถานที่บ้า ๆ นั่น

เขาสร้างอุปกรณ์ยึดติดกับข้อมือขึ้น ซึ่งสามารถตอกตะปูเหล็กด้วยความเร็วสูง และเจาะเข้าไปในตำแหน่งที่นิ่มเพียงพอ แต่น่าเสียดายที่มันมีการใช้งานที่จำกัด ดังนั้นหลังการต่อสู้ อุปกรณ์นี้ก็ตกสู่สภาพโคม่าเหมือนกับเขา แต่ไม่เหมือนตรงที่ มันไม่สามารถกลับมาใช้งานได้อีกแล้ว

ในอดีต มวยใต้ดินในป้อมปราการ Meropide ไม่ได้มีสถานที่หรือกฎเกณฑ์ตายตัว เพื่อชัยชนะและเงินแล้ว เขาต้องคอยปรับเปลี่ยนการทำงานของถุงมือตลอดเวลา เพราะหากใช้อุบายเดิมเป็นครั้งที่สอง คู่ต่อสู้ก็อาจใช้เทคนิคเดียวกันนี้เพื่อรับมือกับเขาได้ นอกจากนี้ แม้ว่าถุงมือจะไม่เสียหายบนสังเวียน แต่ก็มีโอกาสที่มันจะถูกขโมยหรือถูกทำลายได้ ซึ่งเขาผ่านการเริ่มต้นใหม่มานับครั้งไม่ถ้วน

ด้วยความสามารถในการรวบรวมทรัพยากรที่ดีมากขึ้น เขาจึงพัฒนามันได้อย่างรวดเร็ว เขาไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสารเคมีในการขับเคลื่อนจักรกลนี้อีกต่อไป และเขายังมีผู้ช่วยที่มาจากศูนย์วิทยาศาสตร์ Fontaine อีกด้วย นักวิจัยเหล่านั้นชอบอธิบายหลักการทำงานกลศาสตร์ พร้อมทั้งบ่นถึงเรื่องราวไร้สาระที่เกิดขึ้นในศูนย์วิทยาศาสตร์ Fontaine ให้เขาฟัง ซึ่ง Wriothesley มองว่ามันน่าสนใจมาก ที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้อาชญากรรมเพิ่มขึ้น แต่ก็มีส่วนช่วยในการจัดการคดีต่าง ๆ ได้เช่นกัน ยากที่จะบอกได้จริง ๆ ว่าการพัฒนานี้ดีขึ้นหรือแย่ลงกันแน่

ตอนนี้เขาไม่ได้เข้าร่วมสังเวียนมวยอีกต่อไปแล้ว และถุงมือนั้นก็ถูกเก็บไว้ใช้จัดการปัญหาที่ยากลำบากเท่านั้น พวกมันไม่ใช่เครื่องมือในการฆ่าผู้คนอีกต่อไป แต่กลับนำคำชมและความเคารพมาให้เขาแทน

แต่ไม่มีใครเข้าใจอาชญากรรมที่เขาเคยก่อจริง ๆ มีเพียงเขาเท่านั้นที่ยังจำมันได้อย่างแจ่มแจ้ง ไม่ว่าเขาจะได้รับเกียรติหรือชื่อเสียงมากแค่ไหน เขาก็ยังเป็น Wriothesley คนเดิมคนนั้น

Wriothesley คนที่ไม่ใช่คนดี แต่ก็ไม่ใช่คนเลวซะทีเดียว เขาก็เป็นแค่เพียงชีวิตที่ยังมีลมหายใจอยู่เท่านั้นเอง

เรือ Wingalet

ความประทับใจ Lv. 4  •  ช่วงเวลาสุดท้ายก่อนคำพยากรณ์จะถือกำเนิด


"...แต่บรรดานักเขียนในยุคโบราณต่างก็พูดว่า ความรุ่งโรจน์มักสลับผลัดเปลี่ยนกับการร่วงโรย โลกนี้ไม่มีสิ่งใดจีรังยั่งยืน"

หลังจากจัดการกับสายลับ Fatui ที่แฝงตัวมา Wriothesley ก็ลงไปว่ายน้ำในทะเลแถวป้อมปราการ Meropide ด้วยตัวเอง เขาอยู่ในน้ำแค่แป๊บเดียว แต่เมื่อขึ้นจากน้ำเขากลับพบว่าผิวหนังของตนมีสีแดงเล็กน้อย และเมื่อผ่านไปสักพักก็กลับมาเป็นปกติ เขาไม่ได้ไปตรวจที่ห้องพยาบาล และไม่คิดที่จะเปิดเผยเรื่องนี้ให้ใครรู้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ มีสัญญาณต่าง ๆ ที่บ่งชี้ว่าคำทำนายกำลังค่อย ๆ เป็นจริงทีละอย่าง คนที่เชื่อหรือไม่เชื่อต่างก็มีความยึดมั่นของตัวเอง และไม่ได้ขาดข้อมูลใด ๆ จากเขา

เขาเคยเจอนักโทษในป้อมปราการ Meropide หลายคนที่ศึกษาประวัติศาสตร์ พวกเขามีกันไม่กี่คน และเวลามีสติก็ชอบพูดพล่ามไร้สาระ พวกเขาบอกว่านี่เป็นปัญหาที่พบบ่อยในหมู่นักประวัติศาสตร์ และหวังว่าท่านดยุก จะไม่รังเกียจ ซึ่งแน่นอนว่า Wriothesley ไม่ได้สนใจคำพูดเหล่านั้นอยู่แล้ว เขาสนใจทฤษฎีของพวกเขามากกว่า ตามคำกล่าวบางอย่างที่ว่าไว้ หากโลกนี้เมื่อสูงส่งจนถึงที่สุดย่อมตกต่ำ เมื่อสุขจนถึงที่สุดย่อมโศกเศร้า เช่นนั้น บางทีมหาสมุทรที่กลืนกิน Remuria ก็อาจจะหวนกลับมาอีกครั้ง ดูเหมือนว่าคำทำนายนี้จะไม่ใช่คำทำนายอีกต่อไป แต่กลับเป็นการคาดการณ์ตามกฎเกณฑ์บางอย่างมากกว่า

เขาลังเลอยู่ว่าจะเชื่อทฤษฎีนี้หรือไม่ เช่นเดียวกับการจัดการหลาย ๆ เรื่อง ในป้อมปราการ Meropide นี้มักมีเหตุการณ์ให้ต้อง "ไกล่เกลี่ย" เสมอ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่ผู้เห็นเหตุการณ์จะให้ปากคำไม่ตรงกัน ดังนั้น Wriothesley จึงไม่ออกความเห็นต่อบันทึกที่มีทั้งหมด โดยเฉพาะกับตำนานประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะใช้คำพูดเกินจริง เพื่อให้ได้ความรู้สึกยิ่งใหญ่ "...แม้แต่มังกรยักษ์ที่อยู่ห้วงลึกใต้ทะเลยังสยบให้กับเขา..." ...บางทีมันอาจจะเป็นแค่ Vishap ขนาดใหญ่พิเศษเท่านั้นก็ได้?

หากไม่นับส่วนที่สวยงามชวนดึงดูดแล้ว ส่วนที่เหลือก็น่าจะเป็นจุดที่เขาต้องให้ความสนใจแล้วล่ะ

ตลอดชีวิตที่ยังไม่สมบูรณ์ของเขา ดูเหมือนว่า Wriothesley จะเตรียมพร้อมสำหรับบางสิ่งอยู่เสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน เขาก็ไม่ต้องการให้ผู้คนถูกความกลัวครอบงำ เมื่อขจัดความกลัวส่วนตัวได้แล้ว สิ่งที่หลงเหลืออยู่ก็คือความตื่นรู้ในอันตราย เพื่อที่จะรับมือกับวิกฤติได้ เขาจึงต้องทำอะไรบางอย่างอยู่เสมอ แม้ว่ามันจะไร้ผลก็ตาม

ประวัติศาสตร์นั้นยิ่งใหญ่เสมอ และมนุษย์ก็ไม่ต่างจากเปลือกหอยที่ถูกคลื่นซัดบนชายหาด เขาเริ่มเตรียมก่อสร้างเรือ Wingalet โดยลงทุนวัสดุและกำลังคนจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้ตั้งความหวังไว้สูงนัก นี่คือเรือที่สร้างขึ้นเพื่อการหลบหนี ซึ่งต่างจากเรือ Fortuna สีทอง อันเป็นผู้นำความเจริญรุ่งเรืองและเกียรติยศอย่างลิบลับ

แต่ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง หากเรือสามารถวิ่งได้สำเร็จ อย่างน้อยการทะเลาะกันระหว่าง Jurieu และ Lourvine ก็จะไม่สูญเปล่า

"...เป็นดังที่บรรดานักเขียนในยุคโบราณกล่าวไว้ ความรุ่งโรจน์มักสลับผลัดเปลี่ยนกับการร่วงโรย โลกนี้ไม่มีสิ่งใดจีรังยั่งยืน"

วิชั่น

ความประทับใจ Lv. 6  •  การเกิดใหม่ในดินแดนแห่งความเคียดแค้น


Wriothesley ยืนอยู่หน้าจุดลงทะเบียนของป้อมปราการ Meropide เขาเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋า เพื่อหยิบกระดาษที่มีชื่อ และวันตัดสินโทษของตัวเองออกมาให้เจ้าหน้าที่ดู

หลังจากหยิบกระดาษแผ่นนั้นออกมา ก็มีลูกแก้วขนาดเท่าฝ่ามือตามออกมาด้วย

...ไม่สิ นี่ไม่ใช่ลูกแก้ว Wriothesley กะพริบตา นี่เขามีของแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

เจ้าหน้าที่ตรงจุดลงทะเบียนอ้าปากค้างเล็กน้อย เธอเป็นผู้หญิงที่ดูเคร่งขรึมและมีรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า เธอทำหน้าประหลาดใจชั่วครู่ และจับปากกาในมือแน่นขึ้น พร้อมทั้งขยับริมฝีปากแต่สุดท้ายก็หุบกลับดังเดิม

Wriothesley คิดในทันที ว่าเธอต้องมีประสบการณ์ในการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่แน่ ดังนั้นเขาจึงกำวิชั่นไว้ในมือจนมั่น และเอ่ยถามอย่างแผ่วเบาว่า "คุณผู้หญิงที่เคารพ ไม่ทราบว่า..."

เจ้าหน้าที่ลงทะเบียนอาวุโสไม่ได้ตอบคำใด เธอหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งจากมือของเขา และมองไปด้านหลังอย่างไม่แยแส ราวกับกำลังตรวจสอบนักโทษคนต่อไปที่จะลงทะเบียน แต่หลังจากกรอกข้อมูลที่จำเป็นเสร็จแล้ว เธอได้เขียนบางอย่างที่ไม่จำเป็นแบบตวัด ๆ ลงบนขอบของเอกสารที่ส่งคืน "ซ่อนมันให้ดี"

ทันใดนั้น Wriothesley ก็มั่นใจอย่างหนึ่งทันที ว่าชีวิตในที่แห่งนี้จะต้องยากลำบากกว่าข้างถนนแน่นอน

เขาโชคดีมากที่ไม่ว่าใครที่อยู่ข้างหลังในตอนนั้น ได้ช่วยใช้ร่างบังคนอื่น ๆ ไม่ให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น และโชคดีกว่านั้นที่เจ้าหน้าที่ลงทะเบียนผู้ใจดีคนนี้เต็มใจที่จะเตือนเขา แต่น่าเสียดายที่หลังจากนั้น Wriothesley ก็ไม่ได้เจอเธออีกเลย ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะป้อมปราการ Meropide ในตอนนั้น มีการหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนพนักงานบ่อยมาก

ในที่สุดเมื่อ Wriothesley เข้าสู่ป้อมปราการ Meropide อย่างเป็นทางการ สิ่งแรกที่เขาทำคือการเลาะด้ายออกทีละเส้น เพื่อใช้ลวดเย็บวิชั่นเข้ากับชั้นตรงกลางเสื้อผ้า

เขามีประสบการณ์กับการเป็นคนไร้บ้านมาก่อนแล้ว สิ่งที่ยากที่สุดไม่ใช่การได้มา แต่เป็นการรักษามันไว้ต่างหาก คนเราต้องนอนหลับและบางครั้งก็ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ สิ่งของที่เก็บสะสมจากกลางวัน ก็มักจะโดนฉกไปอย่างง่ายดายในตอนหลับ ซึ่งแทบจะไม่สามารถเรียกว่าเป็นการปล้นได้เลย

วิชั่นต่างจากสมบัติทั่วไป แน่นอนว่าต้องมีผู้คนสนใจมันด้วยเหตุผลบางอย่างอยู่แล้ว และคนที่มีวิชั่นก็สามารถดึงดูดสายตาที่ไม่ประสงค์ดีอย่างง่ายดายเช่นกัน

หลายวันต่อมา ความสงสัยของเขาก็ได้รับการยืนยัน เท่าที่ได้ยินมา มีอยู่สองสามกรณีที่วิชั่นจะถูกขโมยไป ซึ่งมีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับผลพวงของเหตุการณ์ และสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหาย แต่ Wriothesley ก็แสร้งทำเป็นไม่สนใจ

เขายังคงรู้สึกโชคดี แต่การก้าวข้ามความทุกข์ของผู้อื่นเพื่อปกป้องตัวเองนั้น ยากที่จะทำให้เขามีความสุขอย่างแท้จริง

หลังจากนั้นเป็นเวลานาน เขาก็แสร้งทำเป็นว่าเขาไม่เคยได้รับความเมตตาจากเหล่าทวยเทพ แต่ถึงอย่างไรเขาก็แค่กลับไปล้มลุกคลุกคลานเหมือนแต่ก่อนเท่านั้น ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เขารับมือได้อยู่แล้ว

จนกระทั่งอายุของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากในตอนนั้น เขาก็ได้รับคำเชิญจากพระราชวัง Mermonia

ตามหลักปฏิบัตินั้น พลเมืองใดก็ตามที่ได้รับตำแหน่งกิตติมศักดิ์จะต้องเข้าร่วมในพิธีมอบรางวัล โดยเฉพาะตำแหน่งพิเศษอย่าง "ดยุก" นี้ พิธีก็ย่อมเอิกเกริกอยู่แล้ว

Wriothesley เลือกที่จะปฏิเสธโดยใช้ตำแหน่งพิเศษเป็นข้ออ้าง เขาเพียงต้องการลงนามและรับใบรับรองเท่านั้น ยิ่งเขาไม่ชอบความสนุกสนานและยุ่งวุ่นวาย เขาก็ยิ่งไม่เหมือนคน Fontaine เลยจริง ๆ

หลังจากผ่านวันทำงานหลายวัน และผ่านการติดต่อไปมาหลายต่อหลายครั้ง ในที่สุดพระราชวัง Mermonia ก็ตอบตกลง

ก่อนจะออกจากใต้น้ำ Wriothesley ได้นำวิชั่นออกมาในรอบเวลาที่เนิ่นนาน เขาแกว่งมันไปมา วิชั่นนี้เบากว่าที่เขาจำได้ และเล็กกว่าฝ่ามือของเขาเอง เขามองหาที่บนเสื้อผ้าและแขวนมันลงไป

คนแรกที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวิชั่นนี้คือผู้พิพากษาสูงสุด ผู้ซึ่งมอบตำแหน่งนี้ให้แก่เขา รอยยิ้มของ Neuvillette ดูสุภาพพอควร เขาดูมีความสุขมากกว่าตัว Wriothesley เองเสียอีก: "ยินดีด้วย ในที่สุดคุณก็พบสิ่งที่อยากจะทำซะที"

Wriothesley ยิ้มรับหลังจากได้ยินคำนั้น แต่กลับไม่ได้เอ่ยคำใดเพิ่มเติม

นามบัตร[]

กลุ่มดาว[]

เควสต์และกิจกรรม[]

การทดลองใช้ตัวละคร[]

การกล่าวถึงตัวละคร[]

เสียงพากย์ตัวละคร

ตัวละครเสียงพากย์
  • เกี่ยวกับ Wriothesley... 
    ช่วงนี้เธอได้เจอท่าน "ดยุก" คนนั้นบ้างมั้ย? แล้วได้ช่วยฉันเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเขาหรือเปล่า? ถ้าเป็นข้อมูลที่รู้กันทั่วไปอย่างคูปองสวัสดิการ โรงอาหารสวัสดิการพิเศษ... "คนไม่ทำงานจะไม่ได้กินข้าว" ก็ช่างมันเถอะ มีเรื่องราวส่วนตัวของท่าน "ดยุก" คนนี้มั้ย? ว่าไงนะ ความลับ... ทำไมแม้แต่เธอก็ปิดปากสนิทจังอะ! เอาข้าวมื้อนั้นคืนมาให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ! เชอะ คนโกหก! เธอกลับไปรับโทษเหมือนเดิมเลยนะ!
  • เกี่ยวกับ Wriothesley... 
    เธอรู้จักคุณ Wriothesley ด้วยเหรอ? ฮ่าฮ่า เธอนี่ไม่ธรรมดาจริง ๆ เท่าที่ฉันรู้มา ดยุกท่านนี้เป็นคนถ่อมตัวมาก ถึงขั้นไม่ค่อยมีใครรู้ว่าเขามีตัวตนด้วยซ้ำ คุณ Neuvillette เคยอยากแนะนำฉันให้เขารู้จัก แต่ดูเหมือนเขาจะบอกใบ้เป็นนัยว่า ป้อมปราการ Meropide ไม่มีที่ที่ต้องให้ฉันทำงานหรอก
    ฉันไม่เคยเจอเขามาก่อน ก็เลยไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับเขาเท่าไหร่ แต่ถ้าให้ฉันเดาละก็... บางทีเขาอาจจะไม่อยากลบร่องรอยบางอย่างให้เกลี้ยงจนเกินไป เพื่อจะได้ทิ้งไว้เป็นเครื่องเตือนใจก็เป็นได้

เกร็ดข้อมูล[]

(รอการเพิ่มเติม)

นิรุกติศาสตร์[]

(รอการเพิ่มเติม)

หมายเหตุ[]

ชื่อในภาษาอื่น[]

ฉายาตัวละคร: ทูตแห่งบาปเร้นคณา[]

ภาษาชื่ออย่างเป็นทางการความหมายที่แท้จริง
ไทยทูตแห่งบาปเร้นคณา
อังกฤษEmissary of Solitary Iniquity
จีน
(ตัวย่อ)
寂罪的密使
Jìzuì de Mìshǐ
Emissary of Solitary Sin
จีน
(ตัวเต็ม)
寂罪的密使
Jìzuì de Mìshǐ
ญี่ปุ่น寂罪の密使
Jakuzai no Misshi[!][!]
Emissary of Solitary Sin
เกาหลี고요한 죄의 밀사
Goyohan Joe-ui Milsa
Secret Emissary of Silent Sin
สเปนEl Emisario de los CulpablesThe Emissary of the Guilty
ฝรั่งเศสÉmissaire de l'iniquité solitaireEmissary of Solitary Iniquity
รัสเซียЭмиссар заточённых злодеянийEmissary of Imprisoned Evildoings
เวียดนามSứ Giả Tội Danh Ẩn Mật
เยอรมันGesandter der einsamen Sünde
อินโดนีเซียEmissary of Solitary Iniquity
โปรตุเกสEmissário da Culpa IncógnitaEmissary of Hidden Guilt
ตุรกีSessiz Günahların Temsilcisi
อิตาลีEmissario di colpe silentiEmissary of Silent Faults

อ้างอิง[]

  1. เว็บไซต์ทางการ Genshin Impact: Wriothesley

หน้าอื่น ๆ[]

Advertisement