Venti/เนื้อเรื่อง

Venti

★★★★★

"มาพอดีเลยคุณนักเดินทาง อยากรู้จังว่าความปรารถนาของคุณ คืออะไรกันนะ?"

ภาพรวมเนื้อเรื่องเสียงพากย์

นักกวีพเนจรลึกลับ บางเวลาก็ร้องเพลงที่เก่าแก่ บางเวลากลับบรรเลงบทเพลงแปลกใหม่ที่ไม่มีใครเคยได้ฟัง ชอบแอปเปิ้ลและบรรยาการที่คึกคัก เกลียดชีสและของทุกชนิดที่เหนียวหนึบ เมื่อรวบรวมพลังที่เป็นองค์ประกอบของ "ลม" รูปร่างของธาตุนั้นมักจะแสดงออกมาในรูปแบบของขนนก เพราะเขาชอบสิ่งที่ดูเบา ๆ มาก

—คำอธิบายบนเว็บไซต์ทางการ

อุปนิสัย

Venti มีนิสัยที่ค่อนข้างดื้อรั้น ไร้กังวล และขี้เล่น ชอบเล่นเสียงในคำพูด และยังหลงไหลในดนตรีมาก ถึงขั้นตั้งชื่อพิณของตัวเอง เขาคิดว่า "ทุกสิ่งล้วนสมควรได้รับชื่อ ชื่อที่จะถูกเรียก และถักทอเป็นบทเพลง" Venti นั้นทั้งกล้าหาญและไม่กลัวที่จะยั่วยุผู้มีอำนาจ ส่วนภายในเกมนั้น Venti มักจะมีนิสัยขี้แกล้ง เช่นมักแกล้ง Paimon อยู่เสมอ

Venti ชอบที่จะสัญจรไปมารอบ ๆ Mondstadt เล่นเพลงให้ผู้คนในเมืองฟัง ซึ่งแทบไม่มีใครรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงซึ่งเป็นถึงเทพ Barbatos เขายังเป็นที่ชื่นชอบมากภายในเมืองเนื่องด้วยความสามารถทางดนตรีโดยได้รับรางวัล "กวีที่เป็นที่รักมากที่สุดใน Mondstadt" ถึงสามครั้ง Venti ยังเป็นนักดื่มตัวยงและคอแข็งทีเดียว แต่ด้วยร่างปัจจุบันซึ่งเป็นเด็กหนุ่ม ทำให้เหล่าคนในบาร์มักจะมองว่าเป็นผู้เยาว์เสมอ ภายในเควสต์เนื้อเรื่องนั้นยังบอกเป็นนัยว่าๆ การดื่มอย่างหนักคงเป็นหนึ่งในวิธีการรับมือการสูญเสียเพื่อนรักที่ตายจากไป

Venti เป็นพระเจ้าที่ไม่ได้ปกครองเมืองเป็นเวลานาน และไม่มีเงินติดตัว และมักให้ผู้ฟังกวีซื้อเครื่องดื่มแทนการจ่ายเงิน นอกจากนี้ Venti มีอาการแพ้แมวอย่างรุนแรงและจะไม่แสดงกวีเด็ดขาดจนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีแมวอยู่ใกล้ๆ

นอกจากนี้ Venti ยังชอบแอปเปิลอย่างมาก โดยถือว่าแอปเปิลเป็นของขวัญของเทพเจ้า และพูดติดตลกว่าจะไม่มีทางไป Celestia เด็ดขาด แม้ว่าจะได้รับคำเชิญก็ตาม เพราะที่นั่นไม่มีผลไม้อร่อย ๆ ไม่มีน้ำหวาน หรือเหล้าดีๆ และไม่ชอบชีสเพราะคิดว่ามันเหนอะหนะ และเลี่ยน

แต่แม้จะมีบุคลิกขี้เล่นยามเวลาปกติในฐานะกวี Venti เขาจะเริ่มพูดอย่างจริงจังและดูชาญฉลาดขึ้นมาทันใดเมื่อพูดในฐานะเทพ Barbatos เนื่องจากสั่งสมประสบการณ์มามากมายเพราะเดิมทีได้เป็นถึงหนึ่งในสมาชิกเดิมของเทพเจ้าทั้งเจ็ด แต่ตัว Venti นั้นไม่คิดที่จะเปิดเผยตัวตนหรือใช้พลังเว้นเสียแต่มันจะสามารถช่วยเหลือผู้คนได้

ณ ตอนนี้ Venti ยังคงซ่อนจิตใจที่อ้างว้างซึ่งแม้จะผ่านไปนับพันปี ก็ยังคงรู้สึกเกี่ยวกับการสูญเสียนักกวีเพื่อนรักของตน ซึ่งได้ทำการเลียนแบบรูปร่าง และเปรียบเทียบตัวเองกับ Stanley (ซึ่งชายที่มีชื่อจริงว่า Hans Archibald ใช้ชื่อของเพื่อนที่เสียชีวิตและพยายามสวมรอยแทน)

และ Venti ยอมรับว่าเขารู้สึกขอบคุณที่มีนักเดินทางเป็นเพื่อน เหมือนกับนักกวีคนนั้น

รูปลักษณ์

หนึ่งในนักกวีพเนจรที่มีอยู่มากมายใน Monstadt ผู้เดินเตร่ไปตามถนนซอกซอยอย่างอิสระเสรี

—ข้อมูลตัวละครปรากฏภายในเกม

Venti ปรากฏตัวเป็นเด็กหนุ่มผิวขาว รูปร่างสมส่วน มีดวงตาสีเขียวอ่อนคล้ายท้องฟ้า และผมสีน้ำเงินเข้มโทนออกสีดำ มีเปียคู่สั้น ๆ ที่ปลายผมเป็นสีฟ้าอ่อน ร่างที่ Venti ใช้ในปัจจุบันลอกเลียนมาจากเพื่อนผู้ล่วงลับจากการสร้างอิสรภาพแก่ Mondstadt ในอดีต

Venti สวมเสื้อชั้นในสีขาวตัดกับท่อนกลางที่เป็นคอร์เซ็ททำจากหนัง พร้อมกับกางเกงขาสั้นสีเขียวนกเป็ดน้ำที่มีลายปักสีทอง และสวมเสื้อคลุมสีเขียวนกเป็ดน้ำที่แมตช์กับโบว์ซึ่งมีสีน้ำเงินเข้มและสีทอง นอกจากนี้ยังสวมถุงน่องสีขาวที่มีรูปทรงเพชรสีทองสามชิ้นที่ขาแต่ละข้างและหมวกเบเร่ต์ประดับด้วยเซซิเลีย ซึ่งเป็นดอกไม้โปรดของเขา เขาถือพิณไม้ที่มีสายเป็นสีน้ำเงินประดับด้วยดอกเซซิเลีย เป็นพิณที่เปี่ยมไปด้วยพลังของธาตุลม พิณไม้นี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "Der Frühling" และเป็นพิณที่พกติดตัวมาตลอดส่วน "Der Himmel" พิณไม้อีกอันซึ่งตอนนี้ตกไปอยู่กับโบสถ์ และเนื่องจาก Venti เป็นเทพที่มีโนซิส "วิชั่นปลอม" ที่สะโพกจึงเป็นเพียงลูกบอลแก้วเท่านั้น

บทนำทางการ

[1]

นักกวีแห่งสายลม · Venti

"บัดนี้ ฉันจะร้องเพลงชื่นชมความงามของสรรพสิ่งให้ได้ฟัง...

สี่ฤดูหมุนวนไป แต่สายลมทั้งสี่ไม่เคยหยุดพัด

แน่นอนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เป็นเพราะฉัน

หากไม่มีนักกวีนั้นไซร้ ใครจะขับร้องเรื่องราวเหล่านี้กัน?"

...เมื่อ Venti เมาทีไร ก็จะร้องเพลงโวยวายแบบนี้อยู่เสมอ

เรื่องราวของตัวละคร

ข้อมูลตัวละคร

กวีที่ไม่มีใครรู้ที่มา บางครั้งก็ขับขานบทเพลงที่เก่าโบราณคร่ำครึ บางครั้งก็ขับขานบทเพลงแปลกใหม่ที่ไม่มีใครเคยฟัง

ชื่นชอบแอปเปิ้ลและบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา เกลียดชีสและของที่มันเหนียว ๆ

ในเวลาที่ร่ายเวทธาตุ "ลม" นั้นมักจะทำให้เป็นรูปขนนก เพราะว่าเขาชื่นชอบการเฝ้ามองสิ่งของที่ดูเบา ๆ ล่องลอยไปมา

เรื่องราวของตัวละคร 1

ความประทับใจ Lv. 2

---

ในตอนที่เพิ่งจะมาถึง Mondstadt ได้ไม่กี่เดือนนั้น รายได้ของ Venti เทียบกับเหล่ากวีคนอื่น ๆ ที่อยู่มานานไม่ได้เลยสักนิด แต่ทุกครั้งหลังเลิก "งาน" เมื่อรวบรวม Mora ที่ได้เก็บไว้ในหมวกจนเพียงพอแล้ว สถานที่ที่เขาจะรีบปรี่เข้าไป มักเป็นร้านเหล้าสักร้านที่อยู่ในเมืองตลอด

แต่ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกของ Venti เขาจึงมักจะถูกหาว่าเป็นเด็กอยู่เสมอ ซึ่งนั่นทำให้เขาไม่สามารถซื้อเหล้าได้

โดยครั้งแรกที่พบกับอุปสรรคนั้น เขายังบ่นพึมพำนิดหน่อยด้วยว่า "ครั้งก่อนมา Mondstadt ไม่เห็นมีกฎแบบนี้เลยนี่" แต่จากนั้นเมื่อพบว่าร้านเหล้าทั้งเมือง ต่างก็ไม่ยอมขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เขาเลย เมื่อนั้นเขาก็เริ่มที่จะคิดถึงวิธีอื่นแล้วล่ะ...

ในไม่ช้า Venti ก็คิดค้นเทคนิคใหม่ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งก็คือการดีดพิณและใช้ปากคาบแก้วไวน์ไปด้วยในเวลาเดียวกัน จากนั้นในเวลาที่เขา "ทำงาน" ของนักกวีนั้น เขาก็จะเรียกร้องให้เหล่าผู้ฟังเปลี่ยนจากการให้เงิน เป็นการป้อนเครื่องดื่มแทน ซึ่งถ้าหากชื่นชอบในบทเพลงของเขาล่ะก็ ให้ไปที่ร้านเหล้าในเมือง เพื่อซื้อเหล้าสักแก้วมาเลี้ยงเขาก็พอ

ด้วยเทคนิคที่ไม่เหมือนใครนี้ ทำให้ Venti กลายเป็นเหมือนกับปลากระดี่ได้น้ำอยู่ใน Mondstadt เลยทีเดียว

เพียงแต่ว่าเขานั้นอดไม่ได้ที่จะจาม เมื่อใดก็ตามที่มีแมวเข้ามาใกล้ ซึ่งหากว่าเป็นช่วงเวลาที่เขากำลังคาบแก้วไวน์อยู่พอดีล่ะก็... จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่อยากจะคิดเลย

เพราะงั้นหลักการเลือกสถานที่ทำงานของ Venti ก็คือ: พยายามหลบเลี่ยงที่ที่มีแมว

แต่ว่าโดยทั่วไปแล้ว แมวตามท้องถนนนั้น ชื่นชอบเขาไม่เบาเลยล่ะ

เรื่องราวของตัวละคร 2

ความประทับใจ Lv. 3

---

ต้นโอ๊กขนาดใหญ่ที่ตั้งสูงตระหง่านอยู่กลาง Windrise ว่ากันว่ามันงอกเงยขึ้นมาเมื่อหลายพันปีก่อน ในวันที่ Vennessa วีรชนที่แสนยิ่งใหญ่ ผู้ปลดปล่อย Mondstadt ได้ขึ้นสู่สรวงสวรรค์

ช่วงเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เหล่าผู้คนที่ไปพักอยู่ที่ใต้ต้นไม้นั้น บางครั้งจะได้ยินแว่วเสียงร้องเพลงของเด็กหนุ่ม ซึ่งกำลังขับร้องถึงเรื่องราวของ Barbatos เทพเจ้าแห่งสายลมอยู่

ต่างจากเทพเจ้าตนอื่น ๆ ที่ยังคงปกปักรักษาดินแดนของตนเองอยู่ Barbatos นั้นได้ออกจาก Mondstadt ไปนานแล้ว ซึ่งสิ่งที่เหลืออยู่นั้นมีเพียง "Statues of the Seven" ที่แสดงให้เห็นหน้าตาของเขาไว้อย่างเลือนรางเท่านั้น

อย่างไรก็ตามเรื่องราวของเทพเจ้าตนนี้นั้นยังคงปรากฏอยู่ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์และหนังสือประวัติศาสตร์ต่าง ๆ และถูกขับร้องโดยเหล่านักกวีทั้งหลายสืบไป

สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ "Barbatos" ที่อยู่ในบทเพลงของ Venti นั้น มักจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับการผจญภัยที่แปลกประหลาด และการกระทำที่ซุกซน อย่างเช่น การขโมยคทาของเทพเจ้าแห่งน้ำแข็ง โดยวางไม้เท้าของ Hilichurl ไว้แทนที่

เหล่านักบวชที่เคารพบูชาเทพเจ้าแห่งลมนั้น ต่างไม่ถูกใจกับสิ่งนี้ แต่เมื่อต้องเผชิญกับการซักถามเหล่านั้น การตอบของ Venti กลับไม่มีท่าทีของความสำนึกผิดเลยแม้แต่น้อย

"รู้ได้ยังไงว่านั่นไม่ใช่เรื่องจริง?"

แน่นอนสิ แม้แต่ซิสเตอร์ที่เคร่งครัดที่สุด ก็ยังไม่สามารถรู้เรื่องราวการมีอยู่เมื่อพันปีก่อนของ Barbatos ผู้ยิ่งใหญ่ได้หมดทุกเรื่องหรอกนะ

มีเพียง Venti ผู้มีรอยยิ้มลึกลับเท่านั้น ที่รู้ดีถึงทุก ๆ อย่างที่เขาร้อง...

มันก็ต้องเป็นเรื่องโกหกนั่นแหละ

ก็แค่เมาแล้ว... ร้องเพลงไปเรื่อยก็เท่านั้น

เรื่องราวของตัวละคร 3

ความประทับใจ Lv. 4  •  หากติดอยู่ในที่ที่ไร้ลม

---

ประมาณเมื่อสองพันหกร้อยปีก่อน ครั้นเมื่อสงครามเทพอสูรยังไม่จบสิ้น แผ่นดินยังไม่อยู่ภายใต้การปกครองของเทพทั้งเจ็ด

เวลานั้นเมืองที่มีนามว่า Mondstadt ถูกพายุปกคลุมรอบด้าน แม้แต่นกน้อยก็ยังไม่อาจบินผ่านได้ ลมพัดอย่างไม่จบสิ้น จนทำให้พื้นดินและหินในเมือง สลายจนเป็นฝุ่นละเอียดดั่งสายน้ำ

The Lord of Wind บนหอคอยนั้น ซึ่งก็คือ "เทพอสูรแห่งพายุ" Decarabian เขามองลงไปยังประชาชน ที่น้อมตัวลงกลางพายุที่พัดไม่หยุดหย่อนด้วยความโอหัง คิดว่าพวกเขานั้นยอมเชื่อฟัง จึงรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก

Venti ในตอนนั้น เป็นเพียงแค่หนึ่งในสายลมนับพันบนแผ่นดินทางเหนือ

หลังจากนั้น เขาที่ถูกเรียกว่า "Barbatos" นั้น ยังไม่มีคุณลักษณะที่จะเป็นเทพอสูร เป็นเพียงวิญญาณธาตุที่บอบบางในสายลม เป็น "ลมที่สามารถสร้างจุดเปลี่ยน และความหวังเล็ก ๆ" เท่านั้น

ในเมือง Mondstadt เก่า Venti ได้รู้จักกับหนุ่มน้อยคนหนึ่ง อีกฝ่ายสามารถเล่นพิณได้ และอยากที่จะเขียนกวีที่ไพเราะออกมา

"ฉันอยากเห็นท่าทางเวลาโบยบินของนก"

หนุ่มน้อยที่เกิดในกำแพงพายุ และไม่เคยได้เห็นแม้กระทั่งท้องฟ้าสีคราม นกอินทรี หรือหญ้าเขียวกล่าวขึ้น เสียงของเขานั้นแทบจะถูกเสียงลมอันโหยหวนกลบไปจนหมดสิ้น

"สหาย จะไม่ร่วมเดินทางไปกับข้าเหรอ?"

เรื่องราวของตัวละคร 4

ความประทับใจ Lv. 5  •  หากติดอยู่ในที่ที่ไร้ลม

---

เพื่อเด็กหนุ่มที่เกิดและดำรงชีวิตอยู่ในเมือง ผู้ไม่เคยได้เห็นกระทั่งนกน้อยโบยบินมาก่อนนั้น วิญญาณธาตุ Venti จึงได้เก็บขนนกอินทรีมา

หลังจากนั้นสงครามเพื่อแสวงหา "อิสรภาพ" ก็ปะทุขึ้นในเมือง Mondstadt

ขนนกซ่อนอยู่ในอ้อมอกของ Venti ระหว่างต่อสู้ไปพร้อมกับเขา ในหมอกควัน เขาได้พบเห็นการจากไปของราชาที่แสนวิตถาร

ราชาคิดว่าตนเคยปกครองเมืองให้ไร้ความยากลำบากแก่ประชาชน จนถึงสุดท้ายเขายังคงคิดว่า ทุกคนรักเขาดั่งที่เขารักทุกคน

ถึงแม้จะได้รับชัยชนะ แต่ Venti ก็ไม่สามารถมอบขนนกก้านนี้ ให้แก่เด็กหนุ่มอีกต่อไป เพราะอีกฝ่ายได้จากไปในสงคราม ที่ต่อสู้เพื่อบทกวี ท้องฟ้าสีคราม นกน้อยที่โบยบิน และผู้คนที่เกิดภายในรั้วกำแพงพายุแห่งนี้แล้ว

บัลลังก์เทพเดิมดับสูญ เทพใหม่จึงได้ถือกำเนิดขึ้น เทพแห่งสายลม Barbatos สัมผัสได้ถึงพลังที่หลั่งไหลอยู่ที่ปลายนิ้ว

เขาใช้พลังครั้งแรกในการสร้างรูปร่างของตนเป็นเด็กหนุ่ม

เพราะมีเพียงใช้รูปร่างมนุษย์เท่านั้น ถึงจะสามารถดีดพิณที่เด็กหนุ่มชื่นชอบได้ดี

เขาดีดสายพิณ ใช้ลมแห่งเทพพัดสลายน้ำแข็งหิมะ และแยกภูเขาเป็นสอง

ทำให้เมือง Mondstadt กลายเป็นเมืองแห่งอิสระ และกลายเป็นเมืองที่ไม่มีราชาครองบัลลังก์

ในวันข้างหน้า มันคงจะกลายเป็นเมืองที่ดีและโรแมนติกเป็นที่สุด...

"เขาเองก็คงคาดหวังที่อยากจะมีชีวิตอยู่ในเมืองแบบนี้ล่ะมั้ง"

ด้วยเหตุนี้ "Mondstadt ยุคใหม่" จึงได้เริ่มต้นขึ้น

เรื่องราวของตัวละคร 5

ความประทับใจ Lv. 6  •  หากติดอยู่ในที่ที่ไร้ลม

---

ทั้งหมดทั้งมวลในเมือง Mondstadt แห่งนี้ ไม่ใช่คุณงามความดีจากเทพแห่งลมแต่อย่างใด

บัดนี้ฉันจะร้องเพลงชื่นชมความงามของสรรพสิ่งให้ได้ฟัง...

ต้องขอบคุณสายลมจากตะวันตก ที่พัดพามาอย่างเนิ่นนาน

ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ได้เบ่งบานอย่างสวยงาม

นกกระจอก, เป็ดป่า, กระต่าย และหมูป่าน้อย

Mondstadt ฟื้นขึ้น เหล่าสรรพสิ่งเริ่มเบ่งบาน

สิงโตเดินย่องอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าในฤดูร้อน

ฉันอยากจะชื่นชมมัน แต่ไม่รู้ว่าจะใช้คำไหน:

เหงื่อออกให้มากกว่านี้ และดื่มเหล้าเย็น ๆ จะสดชื่นไม่น้อย?

อากาศร้อนอย่างนี้ เพราะขนแผงคอมันร้อนดั่งแสงอาทิตย์?

ช่องระหว่างภูเขาแคบดั่งคนเมาที่เดินโซเซ

แต่ลมแห่งแดนตะวันออก ก็ไม่จำเป็นต้องเดินเท้า เพราะมันบินได้!

บินผ่านความสูงประมาณต้นไม้

ปีกนำพามาซึ่งผลผลิต และกลิ่นหอมของผลไม้

ลมแห่งแดนเหนือนอนนิ่งอยู่ในผืนป่า

ความจริงแล้ว รอบกายมันควรเต็มไปด้วยฝูงหมาป่า

แต่ไม่มีใครเคยเห็นพวกมัน เพราะมันรู้ดีว่าไม่มีใคร ชื่นชอบในความหนาวเหน็บ

เทพแห่งลมรู้ดีว่า ในความฝันของมันมีมุมที่อบอุ่น

สี่ฤดูหมุนเวียนเปลี่ยนไป แต่สายลมทั้งสี่ไม่เคยหยุดพัด

แน่นอน... ว่านั่นไม่ใช่คุณงามความดีจากพวกมัน แต่มาจากฉันเป็นหลักต่างหากล่ะ

หากไม่มีนักกวี แล้วจะมีใครมาขับร้องเรื่องราวพวกนี้?

"นัดลับ ๆ ท่ามกลางสายลม"

ความประทับใจ Lv. 4  •  บทเพลงแห่งมังกรและอิสรภาพ

---

หลังจากสร้างเมืองมาได้หนึ่งพันหกร้อยปี เมื่อหนึ่งพันปีก่อนของวันนี้ "ความอิสระ" ของเมือง Mondstadt ก็ได้ตกต่ำลงอย่างน่าสะพรึงกลัว

Barbatos ได้จากที่แห่งนี้ไป เพราะไม่อยากอยู่ในนามทรราช ผู้ปกครองประชาชนด้วยอำนาจที่โหดเหี้ยม แต่เขาไม่เคยคิดว่า มนุษย์ที่ได้รับอิสรภาพแล้ว จะก่อร่างสร้างทรราชนี้ด้วยตัวเอง

ชนชั้นสูงขึ้นปกครองเมืองด้วยความโหดเหี้ยม นำระบบทาสมาสู่ดินแดนแห่งนี้ มองข้ามเสียงต่อต้านของผู้คน

และหนึ่งพันหกร้อยปีต่อมา เทพแห่งลมได้หวนคืนสู่ดินแดนที่เคยเป็น "เมืองหลวงแห่งอิสรภาพ" อีกครั้ง เขาได้ยินเสียงตะโกนจากทาสสาว Vennessa ที่ร่วมก่อปฏิวัติล้มล้างชนชั้นสูงกับคนรุ่นหลัง

...ทั้งหมดนี้ เป็นประวัติศาสตร์ของ Mondstadt ที่ทุกคนรู้เป็นอย่างดี

ในประวัติศาสตร์เรื่องนี้ ก็เคยมีเรื่องที่น่าสนใจเกิดขึ้น

ผู้ที่รวบรวมความสามัคคีของชาว Mondstadt ก็คือฮีโร่ผู้ยิ่งใหญ่ Vennessa แต่สิ่งที่ทำให้ทหารของฝ่ายชนชั้นสูงก่อกบฏนั้น เป็นเพราะ "นัดลับ ๆ ท่ามกลางสายลม" ฉบับหนึ่ง

ซึ่งเนื้อหาในนัดลับนี้ คือการแลกเปลี่ยนขายชาติ ชาวชนชั้นสูงได้ละทิ้งสายลม และนำทุกสิ่งของ Mondstadt ไปขายให้กับเทพแห่งหินในเมืองข้างเคียง

และในนัดลับนี้ได้สลักด้วยตราของเทพ นั่นก็คือ "ราชาแห่งหิน"

ทหารที่กำลังคุมตัวทาส เมื่อรู้ว่าตนกำลังจะกลายเป็นทาสของต่างเมือง ก็กลัวจนตัวสั่น

สงครามดั่งไฟ กลืนกินชนชั้นสูง แต่ใครจะรู้ว่าหลายปีต่อมา เหล่านักประวัติศาสตร์พบว่า นัดลับนี้เป็นเพียงเอกสารปลอมแปลง

...ความจริงแล้ว เพื่อที่จะกลั่นแกล้งเทพแห่งหิน Venti จึงปลอมแปลงลายเซ็นขึ้นมา แต่กลับไม่สามารถหลอกเทพแห่งความมั่งคั่งและการแลกเปลี่ยนได้ หลังจากนั้นความสามารถพิเศษนี้ ก็ไม่เคยได้ใช้ที่ไหนอีก จนกระทั่งหลายร้อยปีผ่านไป เขาจึงได้โอกาสที่จะใช้มันเสียที

ช่างน่ายินดีเสียจริง

วิชั่น

ความประทับใจ Lv. 6  •  บทเพลงแห่งมังกรและอิสรภาพ

---

"เจ็ดผู้ทรงอำนาจของโลก" ไม่มีความคาดหวังใดต่อ "วิชั่น" เพราะพวกเขานั้นมีความยิ่งใหญ่อยู่แล้ว

แต่ Barbatos นั้นชื่นชอบในผู้คน จึงอยากจะใช้นาม "Venti" โลดแล่นอย่างอิสระในเมือง Mondstadt เขาได้เลียนแบบลักษณะพิเศษ ของผู้ที่ถูกเทพเลือก และสร้าง "วิชั่น" ขึ้นจากลูกแก้ว

โดยที่อุปกรณ์นี้ ไม่ได้มีพลังวิเศษแต่อย่างใด และเมื่อ Venti ร่ายเวทธาตุ ก็ไม่ได้พึ่งพลังจากมัน

แต่เนื่องจากพิณ Holy Lyre der Himmel ไม่ได้อยู่ข้างกาย และเขาก็ขี้เกียจที่จะพกพิณธรรมดา ๆ ไว้ข้างกาย Venti จึงได้เพิ่มความสามารถในการเปลี่ยนเป็นพิณไม้ "Der Frühling" ให้กับมันด้วย

นามบัตร

Venti - Azure Sky
	วิธีการได้รับ: ได้รับเมื่อระดับความประทับใจของ Venti ถึง Lv.10
	คำอธิบาย: สีฟ้าของท้องฟ้าและเสียงของ Fehling น่าจะเข้ากันดีนะ

การกล่าวถึงตัวละคร

หากต้องการดูบทความเกี่ยวกับมีการกล่าวถึงตัวละครเกี่ยวกับ Venti ในฐานะเป็น Barbatos
โปรดดูที่ Barbatos § การกล่าวถึงตัวละคร

เสียงพากย์ตัวละคร

ตัวละคร	เสียงพากย์
Raiden Ei	เกี่ยวกับ Venti...  Media:VO_Raiden Ei About Venti.ogg Media:VO ZH_Raiden Ei About Venti.ogg Media:VO JA_Raiden Ei About Venti.ogg Media:VO KO_Raiden Ei About Venti.ogg ร่างอวตารของเทพลมก็ยังใช้ชื่อนี้งั้นเหรอ? พูดตามตรงเลยนะ ครั้งแรกที่เจอกันฉันรู้สึกว่าเข้ากับเขาไม่ค่อยได้น่ะ แล้วก็ เขาน่ะ ดื่มเก่งมากเลยล่ะ

จดหมาย

แม่แบบ:Mails by Category List

ชื่อในภาษาอื่น

ฉายาตัวละคร: นักกวีแห่งสายลม

ภาษา	ชื่ออย่างเป็นทางการ	ความหมายที่แท้จริง
ไทย	นักกวีแห่งสายลม
อังกฤษ	Windborne Bard	—
จีน (ตัวย่อ)	风色诗人 Fēngsè Shīrén
จีน (ตัวเต็ม)	風色詩人 Fēngsè Shīrén
ญี่ปุ่น	風色の詩人 Fuushoku no Shijin[!][!]คำอ่านแบบสมมติ	Wind-Colored Poet
เกาหลี	바람의 시인 Baram-ui Siin	Poet of Wind
สเปน	El Bardo Itinerante	The Traveling Bard
ฝรั่งเศส	Barde itinérant	Traveling Bard
รัสเซีย	Поэт ветров	Poet of Winds
เวียดนาม	Nhà Thơ Có Màu Của Gió	Poet With the Colour of the Wind
เยอรมัน	Wandernder Barde	Wandering Bard
อินโดนีเซีย	Windborne Bard	—
โปรตุเกส	Bardo Itinerante	Traveling Bard
ตุรกี	Rüzgarın Ozanı
อิตาลี	Bardo itinerante	Wandering Bard