หัวหน้าองค์กรกุหลาบหนามที่มักจะแย้มยิ้มงดงาม และมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้กับชาว Fontaine
—คำอธิบายจากเว็บไซต์ทางการ[1]
อุปนิสัย[]
ประธานองค์กรกุหลาบหนามคนปัจจุบัน เป็นเจ้านายที่น่ารัก และมีความรับผิดชอบสูง
—คำอธิบายจากข้อความหน้าโปรไฟล์ของตัวละครในเกม
ลักษณะรูปร่าง[]
บทนำทางการ[]
สมัยเด็ก ๆ เราเคยเล่นเกมกระดานเกมหนึ่งด้วยกัน เธอรับบทเป็นนักผจญภัย ส่วนฉันเป็นพิธีกร ฉันคิดว่าตัวเองรับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้าได้เก่งแล้วแท้ ๆ แต่ก็ยังตั้งตัวไม่ทันกับตัวเลือกและคำตอบของเธออยู่ดี แต่ก็เพราะอย่างนี้นี่แหละมันถึงได้น่าสนใจ
จากรูปลักษณ์ภายนอก คุณ Navia เป็นสุภาพสตรีแห่ง Fontaine ผู้สมบูรณ์แบบอย่างไม่ต้องสงสัย
เธอชอบสวมชุดกระโปรงที่ออกแบบอย่างหรูหรา สวมหมวกใบสวยประณีต และถือร่มที่ประดับด้วยริบบิ้นและอัญมณีติดตัวเสมอ
จากนั้นก็วิ่งไปตามตรอกซอกซอยในนครว่าการ Fontaine ทุ่งกว้างของภูเขา Automnequi และมุมหนึ่งของ Fleuve Cendre ที่ไม่มีใครรู้จัก
ชุดกระโปรงยาวพลิ้วไหวหรือร่มที่ดูหนักอึ้งนั้นไม่เคยเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหวของเธอ เธอปราดเปรียวราวกับนกกระจอก นำข่าวดีจากองค์กรกุหลาบหนามมาสู่ผู้ตกทุกข์ได้ยากทั้งปวง
บางทีอาจเพราะเหตุนี้เอง Navia จึงได้กลายเป็นหนึ่งในหัวข้อโปรดในการเขียนข่าวของนักข่าวชื่อดังอย่าง Charlotte
ภายในโถงนิทรรศการของสำนักข่าว The Steambird มีภาพถ่ายที่เกี่ยวข้องกับเธอแขวนอยู่ โดยภาพนั้นมีชื่อว่า "ดอกกุหลาบสีเหลืองที่โบยบิน"
แน่นอนว่านิทรรศการภาพถ่ายนี้ได้รับอนุญาต และได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นโปรดอย่ากังวลมากนัก
เรื่องราวของตัวละคร[]
ข้อมูลตัวละคร
กฎหมายของ Fontaine นั้นเข้มงวดมาก แต่วิถีชีวิตของชาวเมืองกลับค่อนข้างเป็นอิสระ ในสังคมนั้นมีองค์กรสาธารณประโยชน์ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าสมาคม ทั้งเล็กทั้งใหญ่ประปรายกันไป ซึ่งแต่ละสมาคมล้วนมีต้นกำเนิด การพัฒนา เป้าหมาย และสไตล์ที่แตกต่างกัน
อย่างเช่น "สมาคม Hat Jellyfish" ที่เคยปรากฏตัวในเวลาสั้น ๆ นั้น ภายนอกเป็นที่สนับสนุนการปกป้องสิ่งแวดล้อมนิเวศวิทยาทางน้ำ แต่แท้จริงแล้ว ถูกก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบระเบิดต่างหาก
เมื่อเทียบกับองค์กรประเภทนี้แล้ว ถึงแม้ประธานสาวขององค์กรกุหลาบหนามจะมีชีวิตชีวาเกินไปหน่อย แต่ก็ยังเป็นองค์กรที่ปฏิบัติตามกฎหมาย และเป็นที่น่าเชื่อถือมากกว่า
ทางการกล่าวว่า องค์กรกุหลาบหนามเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการดำรงชีวิตของผู้คน และทุกสาขาอาชีพเป็นอันดับแรก อีกทั้งยังมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาที่ยากลำบากของชาวเมือง และเมื่อจำเป็นก็จะสื่อสารและร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของ Fontaine
แต่ถ้าถาม Navia แล้วละก็ เธอจะบอกว่าองค์กรกุหลาบหนาม เป็นหุ้นส่วนธุรกิจที่มีคนทุกรูปแบบ คอยช่วยเหลือทุกอย่าง รู้ว่าควรพูดอะไรเวลาไหน และเข้าใจว่าควรรับมือให้เหมาะสมยังไง
ทั้งสองอย่างที่กล่าวมานี้ไม่มีผิดไม่มีถูก ทุกคนสามารถเลือกสิ่งที่ตัวเองชอบได้ตามอัธยาศัย เพียงแต่คนที่เลือกอย่างหลัง อาจจะกลายเป็นเพื่อนของ Navia ได้ง่ายกว่าเท่านั้นเอง
เรื่องราวของตัวละคร 1
ความประทับใจ Lv. 2
ใน Fontaine นี้ ถ้ามีคนบอกว่าตัวเองโตมากับการดูละคร ก็คงไม่ต่างกับการที่บอกว่าโตขึ้นจากการดื่มน้ำ เพราะมันธรรมดาเกินกว่าที่จะเอ่ยถึง
Navia เองก็เช่นเดียวกัน ตอนเด็ก ๆ เธอหลงใหลเรื่องราวในละครบนเวทีอย่างยิ่ง ถึงขนาดรบเร้าให้พ่อซื้อตั๋วชมการแสดงให้ เพียงเพื่อนั่งอยู่ด้านล่างเวที และสัมผัสกับฉากที่น่าตื่นตาตื่นใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ร่วมกับตัวละครที่อยู่บนเวที
แต่ความรู้สึกเหล่านี้ เปลี่ยนไปหลังจากที่เธอได้สัมผัสกับงานขององค์กรกุหลาบหนาม ความขัดแย้งในละครดูเหมือนจะไม่เยอะเท่าความพลิกผันบนโต๊ะเจรจา และรอยแผลที่ต้องใช้เทคนิคการแต่งหน้าวาดขึ้นมาเหล่านั้น เธอก็มักจะพบเห็นได้จากผู้คนใน Fleuve Cendre อยู่เสมอ
เธอเริ่มไปโรงอุปรากรน้อยลง และค่อย ๆ อยู่กับคนรอบข้างมากขึ้น โศกนาฏกรรมบนเวทีที่ดึงดูดผู้คนมากที่สุดนั้น กลับเป็นสิ่งที่ Navia ไม่อยากให้เกิดขึ้นในชีวิตจริงแม้แต่น้อย
คู่รักที่ไม่สามารถอยู่ด้วยกันเพราะทัศนคติที่แตกต่าง แล้วจะทำยังไงให้พวกเขาหลุดพ้นจากหล่มความขัดแย้งนี้ได้ล่ะ? ชายวัยกลางคนที่สูญเสียความสามารถในการทำงานเนื่องจากอุบัติเหตุ จะหาช่องทางหาเลี้ยงครอบครัวให้กับเขาได้ยังไงล่ะ?
บนโลกนี้มีปัญหาเช่นนี้มากมาย ซึ่งมันไม่เหมือนกับธุรกิจหลักที่คอยขับเคลื่อนการทำงานขององค์กรกุหลาบหนาม ถึงแม้จะสามารถแก้ไขได้ มันก็ไม่อาจสร้างผลกำไรใด ๆ แต่ Navia ก็ยังคงพยายามที่จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่
ถ้ามีคนมาว่าเธอจุ้นจ้าน Navia ก็จะยืดอกตอบโต้ในทันที
"จะบอกว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยได้ไง!" เธอจงใจใช้คำพูดที่น่าเกรงขาม เพื่อขู่ให้อีกฝ่ายกลัวจนไม่กล้าพูดต่อ "นี่เป็นการป้องกันไม่ให้ปัญหาเล็กน้อยกลายเป็นปัญหาใหญ่ อีกอย่าง การที่ฉันช่วยให้คนคนหนึ่งไม่ต้องไปยืนอยู่ในโรงอุปรากร ก็ถือเป็นการช่วยพระราชวัง Mermonia ด้วยไม่ใช่เหรอ?"
ในเวลานี้ Navia จะไม่เรียกตัวเองว่าเป็นคุณหนู หัวหน้าหรือตำแหน่งโด่งดังอื่น ๆ แต่เป็นเพียงพลเมือง Navia ที่มีจิตใจดีเท่านั้น
เรื่องราวของตัวละคร 2
ความประทับใจ Lv. 3
Navia ที่ตอนนี้เป็นที่รู้จักในฐานะผู้คอยให้ความช่วยเหลือผู้อื่น แต่ตอนเด็ก ๆ นั้น เธอเป็นคนที่สร้างปัญหาให้คนอื่นมากที่สุดเลย
ประธาน Callas มักจะยุ่งอยู่เสมอ จึงขอให้สมาชิกองค์กรกุหลาบหนามคอยดูแลคุณหนูใหญ่แทน แต่คนที่ต้องได้รับการดูแล กลับชอบหายตัวไปในชั่วพริบตา ทิ้งให้ผู้ติดตามคอยตามหาจนทั่วเสมอ จนสุดท้ายถึงจะเห็นขอบหมวกที่อยู่บนหลังคา แต่พอปีนหลังคาขึ้นมาด้วยความร้อนรน ถึงได้พบว่าจริง ๆ แล้วนั่นเป็นเพียงหมวกใบเล็ก ๆ เท่านั้น
บางทีเจ้าของหมวกใบนี้อาจจะกำลังเล่นสนุกอยู่แถวภูเขา Automnequi แล้วก็ได้ เธอมีความอยากรู้อยากเห็นมาก แม้จะไม่มีเพื่อนเล่นเธอก็สามารถเล่นสนุกด้วยตัวเองได้ ถ้ามอบสระน้ำเล็ก ๆ ให้เธอ เธอก็จะสามารถมองดูมันได้ตลอดทั้งวัน ทั้งดูนกกระพือปีกอาบน้ำบนฝั่ง หรือเฝ้าดูนากทะเลจากใต้ผืนน้ำขึ้นมาแหวกว่ายบนผิวน้ำ เท่านี้ก็ทำให้เธอมีความสุขมากแล้ว และเพื่อเป็นการตอบแทนที่ทำให้เธอมีความสุข เธอก็มักจะหาถั่วให้นกน้อย และหาเปลือกหอยให้กับนากทะเล
บางครั้งเธอก็จะหาเพื่อนเล่นด้วยกัน ซึ่งเด็กส่วนใหญ่ใน Fleuve Cendre ไม่ได้มีของเล่นอะไร เธอจึงมักจะเล่นซ่อนแอบกับเพื่อน ๆ โดยเดินลากกระโปรงผ้าไหมไปซ่อนตัวอยู่ในท่อ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ เธอก็มักจะได้รับสิ่งต่าง ๆ มากกว่าเด็กคนอื่น ๆ เสมอ เมื่อออกมาจากที่ซ่อน เธอจะหยิบชิ้นส่วนที่เก็บได้จากมุมหนึ่งติดมือมาด้วย หรือไม่ก็ Mora ที่ไม่รู้ใครทำตกไว้ หรือกล่องเครื่องมือที่เป็นของใหม่แทบจะ 50% จากนั้นเพื่อน ๆ ก็จะทำหน้าตาชื่นชมกันยกใหญ่
ถึงแม้เธอจะชอบไปเที่ยวเตร็ดเตร่คนเดียว แต่ดูเหมือนผู้ใหญ่ทุกคนจะใจดีกับเธอเสมอ (ยกเว้นพ่อ) สมาชิกในองค์กรจะคอยช่วยทำแผลถลอกที่เข่าให้เธอ ส่วนคุณป้าใน Fleuve Cendre ก็คอยเย็บเสื้อผ้าที่ขาดหลุดลุ่ยให้ พอ Navia คิดว่าตัวเองเป็นที่ชื่นชอบของคนอื่นมากมายขนาดนี้ เธอก็จะยิ่งมีความสุขเข้าไปใหญ่
ต่อมามีครั้งหนึ่งที่ Navia ได้ยินคุณยายที่อยู่ข้างบ้านพูดกับเธอว่า: "...เด็กน้อยคนนี้เหลือแค่พ่อคนเดียว แต่พ่อก็ไม่มีเวลาให้... จนต้องออกไปเที่ยวเล่นคนเดียวอยู่ตลอด น่าสงสารจริง ๆ..."
พอได้ยินดังนั้น Navia ก็ไม่พอใจอยู่พักหนึ่ง เธอรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก เธอมีพ่อที่รักเธอ มีผู้ใหญ่และเพื่อน ๆ รอบข้างที่ต่างก็ชื่นชอบเธอ แต่ทำไมถึงมีคนคิดว่าเธอน่าสงสารได้ล่ะ? อาจเป็นเพราะเธอยังแสดงออกไม่ชัดเจนมากพอ ทำให้ผู้คนเข้าใจผิดได้ แบบนี้ไม่ดีเอาเสียเลย Navia คิดกับตัวเอง
ดังนั้น นับตั้งแต่นั้นมา เมื่อไหร่ที่ Navia น้อยรู้สึกว่าตัวเองเป็นที่รัก เธอก็จะตะโกนพูดเสียงดังกับอีกฝ่ายไปว่า "ขอบคุณที่ชอบฉันนะ ฉันมีความสุขมากเลย!"
เรื่องราวของตัวละคร 3
ความประทับใจ Lv. 4
จุดประสงค์เดิมที่ Navia อยากจะรวมเอาปืนกับร่มไว้ด้วยกันนั้นง่ายมาก เพราะเธอไม่อยากถือของเยอะเกินไป ซึ่งมันจะส่งผลต่อการทำสิ่งอื่น ๆ
Fontaine มีฝนตกบ่อยครั้ง และแสงแดดก็มักจะแผดจ้าหลังฝนตกเสมอ เพราะงั้นจึงต้องพกร่มติดตัวทุกครั้งเวลาที่ออกนอกบ้าน ส่วนปืนก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคุณหนูใหญ่ขององค์กรกุหลาบหนามเลยก็ว่าได้ คงไม่มีใครคิดว่าปืนในมือของ Navia เป็นแค่เครื่องประดับหรอกมั้ง?
เธอเรียนรู้ทักษะการยิงปืนมาจากคนอื่น โดยหลักการที่เธอยึดมั่นคือ ตราบใดที่โจมตีโดนเป้าหมาย ต่อให้ต้องวางลำกล้องไว้บนตัว Blubberbeast ก็ไม่เป็นไรหรอก
Clorinde ที่ได้รับการฝึกฝนและสืบทอดทักษะยิงปืนจากนักล่าเงา ได้แต่ส่ายหัวไปมากับเรื่องนี้ แต่ปากกลับเอ่ยเชิงยอมรับว่า "ฉันชื่นชมคุณนะ ที่คุณมองการต่อสู้ในแง่ดีขนาดนี้"
Navia จึงคิดว่าเธอกำลังชมเชยตัวเอง เธอรู้จักกับ Clorinde มาตั้งแต่ตอนที่เป็นเด็กสาวอายุราว 10 กว่าปี (คิดไปเอง) และชินกับวิธีการพูดของ Clorinde มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ช่างเป็นคำชมที่ดีมากจริง ๆ Navia คิด
การมองโลกในแง่ดีเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง แม้ว่าผู้คนจะตั้งใจฝึกฝนสักเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถคุ้นชินกับการเผชิญความยากลำบากด้วยรอยยิ้มได้ แต่ Navia เธอเกิดมาพร้อมความสามารถนี้ สำหรับเธอแล้ว โลกนี้มีปัญหาอยู่แค่สองอย่าง คือปัญหาที่แก้ไขได้และแก้ไขไม่ได้เท่านั้น หากสามารถแก้ไขได้ก็แค่รีบจัดการให้สิ้นซากก็จบเรื่อง แต่หากไร้หนทางที่จะแก้ไขจริง ๆ ก็แค่ต้องทำใจยอมรับมันให้ได้ก็เท่านั้น
นอกจากการมองโลกในแง่ดีแล้ว Navia ยังเชื่อว่าความอดทนก็เป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงคุณภาพชีวิตเหมือนกัน ซึ่งข้อดีนี้ก็สืบทอดมาจากองค์กรกุหลาบหนามของเธอ ลองมองดูสิ องค์กรกุหลาบหนามไม่ได้มีแค่ธุรกิจที่กว้างขวาง แต่ยังมีสมาชิกที่หลากหลายอีกด้วย มีแม้กระทั่ง Tent Tortoise ที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ด้วยซ้ำ
ว่ากันว่า Tent Tortoise ตัวนี้เป็นเพื่อนของคุณ Callas มันชื่อว่า "Consigliere" หมายถึง "ที่ปรึกษา" Navia เองก็เคยคุยกับมันหลายครั้งเหมือนกัน มันมีความอดทน เงียบขรึม และอายุยืน เป็นคู่สนทนาที่ดีมากคนหนึ่งเลย แต่วันหนึ่ง ขณะที่ Navia กำลังคุยเล่นกับมัน Charlotte ที่เดินผ่านมาพอดีก็ยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปไว้ และเมื่อผู้คนเห็นรูปก็แห่กันไปรบกวน Tent Tortoise ตั้งแต่นั้นมา Navia ก็ไม่ค่อยไปหามันแล้ว
"ฉันก็แค่เปิดโอกาสให้คนอื่น ๆ ได้คุยกับคุณ Consigliere เท่านั้นแหละ" Navia พูดด้วยสีหน้าจริงจัง
เรื่องราวของตัวละคร 4
ความประทับใจ Lv. 5 •
การเต้นรำของคนบาป
บางทีในโลกนี้อาจจะมีความขัดแย้งต่าง ๆ มากมาย
อย่างเช่น Callas พ่อของ Navia หากองค์กรกุหลาบหนามมีแรงดึงดูดมากกว่านี้ งานหลาย ๆ อย่างก็อาจจะดำเนินได้ดีกว่านี้ แต่ Callas กลับยืนกรานปฏิเสธตำแหน่งกิตติมศักดิ์ ที่ทางพระราชวัง Mermonia จะมอบให้ หลังจากสร้างเส้นทางน้ำ
หรืออย่างเช่นที่ Callas ไม่เคยปิดบังเรื่องต่าง ๆ ขององค์กรกุหลาบหนามจากลูกสาวเลย เขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเทคนิคในโลกธุรกิจ และมักจะสอนเธอใช้อาวุธด้วยตัวเอง หรือไม่ก็หาคนมาช่วยสอนเสมอ หรือแม้แต่พาเธอไปสถานที่เจรจาธุรกิจ ราวกับว่าตั้งใจจะฝึกให้เธอสืบทอดองค์กรกุหลาบหนาม แต่ในทางกลับกัน เขากลับไม่เคยเอ่ยถึงสาเหตุการจากไปของแม่ Navia เลย และไม่เคยแสดงความรู้สึกของตัวเองให้ Navia ได้เห็นเลยสักครั้ง มีช่วงหนึ่งที่ Navia ไม่เข้าใจเลยว่าแท้จริงแล้ว พ่อสนิทกับเธอหรือไม่กันแน่
ต่อมา Navia ก็ค่อย ๆ คิดทฤษฎีขึ้นในใจว่า ที่พ่อทำแบบนี้อาจเป็นเพราะเขากำลังปกป้องเธออยู่ พ่อให้เธอตั้งใจเรียนสิ่งต่าง ๆ และสั่งสมความรู้มากมาย เพื่อหวังว่าในอนาคตลูกสาวจะสามารถพึ่งพาตนเองได้ และไม่ต้องจมปลักอยู่กับชีวิต เขาไม่เคยเอ่ยถึงความกดดัน ไม่เคยพูดถึงความเศร้าเสียใจ และไม่แม้แต่จะพูดถึงการตายของ Clementine อาจเป็นเพราะไม่อยากให้ลูกเสียใจหรือรู้สึกผิด ดังนั้นแม้ว่าตัวเองจะคิดถึงภรรยามากแค่ไหน ก็ไม่เคยเอ่ยให้ลูกสาวได้ยินเลย
ส่วนเหตุผลที่เขาปฏิเสธตำแหน่งกิตติมศักดิ์ บางทีอาจเป็นเพราะ Callas คิดว่า องค์กรกุหลาบหนามมักจะติดต่อกับประชาชนทั่วไปเป็นส่วนใหญ่ หากผู้คนเริ่มเรียกเขาด้วยความเคารพว่า "บารอน Callas" ก็คงจะเกิดการแบ่งแยกสถานะขึ้นในทันที และองค์กรกุหลาบหนามก็จะสูญเสียความน่าเชื่อถือไป
สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงการคาดเดาของ Navia เท่านั้น
สิ่งนี้น่าจะเป็นจุดที่ขัดแย้งกับนิสัยของ Navia เพราะเธอเป็นคนกล้าหาญมาก และในด้านธุรกิจก็เป็นคนที่ตรงไปตรงมาเสมอ แต่เธอกลับไม่เคยไถ่ถามสิ่งที่คาดเดานี้จากผู้เป็นพ่อเลย
พ่อ ทุกอย่างที่พ่อเลือกทำก็เพื่อปกป้องหนูเหรอ? ในขณะที่เชื่อมั่นในตัวหนู พ่อเองก็ดูถูกความสามารถในการจัดการอารมณ์ของหนูด้วยใช่มั้ย?
เธอไม่เคยเอ่ยคำถามเหล่านี้กับผู้เป็นพ่อเลย เธอคิดว่ายังไงก็ยังมีเวลาเหลือเฟือ รอให้ตาแก่ดื้อรั้นคนนั้นเลิกปิดกั้นตัวเอง และรอให้เธอเป็นผู้ใหญ่มากพอเมื่อไหร่ ค่อยหันหน้ามาคุยกันก็คงไม่สายหรอก?
ซึ่งเวลาก็ให้คำตอบกับเธอ และสอนสั่งในสิ่งที่ผู้เป็นพ่อไม่เคยได้สอน
เรื่องบางเรื่องก็ไม่สามารถเตรียมตัวล่วงหน้าได้หรอก เราจะเรียนรู้ได้ก็ต่อเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วเท่านั้น เช่นเดียวกับที่เธอเริ่มรู้จักรวบรวมบันทึก หลังจากที่ Melus จากไปแล้ว
ตอนแรกเราก็มักจะมีจุดที่มองข้ามเสมอแหละมั้ง? แต่ไม่เป็นไรหรอก เธอเรียนรู้ได้เร็วอยู่แล้ว
เรื่องราวของตัวละคร 5
ความประทับใจ Lv. 6 •
การเต้นรำของคนบาป
Fontaine เป็นประเทศแห่งน้ำ และมีเรื่องราวเกี่ยวกับน้ำมากมายถูกเล่าขานมาตั้งแต่สมัยโบราณ เช่น ฝนบนท้องฟ้าคือน้ำตาของราชามังกรวารี หรือทะเลสาบขนาดใหญ่บนแผ่นดิน เป็นที่รวบรวมอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์เอาไว้...
คนสมัยก่อนมองว่าเป็นเพียงนิทานกล่อมเด็กเท่านั้น ส่วนคนรุ่นหลังนั้น แม้ส่วนใหญ่จะไม่สามารถพิสูจน์ความจริงข้อนี้ได้ แต่หลังจาก "คำพยากรณ์" ดำเนินไป ผู้คนก็ค่อย ๆ ใช้มันเป็นที่พึ่งทางอารมณ์
งานฟื้นฟูหลังภัยพิบัติของ Fontaine ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน Navia ก็พบว่ามีผู้คนชอบพักผ่อนที่ริมน้ำมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะที่เมือง Poisson
หลังจากที่รับตำแหน่งประธานขององค์กรกุหลาบหนาม Navia ก็ทำงานอย่างไม่เคยหยุด แต่มีครั้งหนึ่งขณะที่เดินผ่านริมน้ำ และมองเห็นเงาสะท้อนของตัวเอง จู่ ๆ เธอก็อยากจะให้เวลาตัวเองได้หยุดบ้าง เหมือนกับตอนเด็ก ๆ ที่เธอคอยจ้องมองสระน้ำ
Navia คุกเข่าลงและคว้าน้ำขึ้นมาหนึ่งกำมือ น้ำค่อย ๆ ไหลออกจากนิ้วของเธอ และสุดท้ายก็หลงเหลืออยู่บนฝ่ามือเพียงเล็กน้อย Navia ไม่ได้คิดอะไรกับน้ำเหล่านี้ เธอคิดถึงเพียงคราบเลือดที่ถูกสายฝนเจือจาง กับเสื้อผ้าที่หลงเหลือหลังจากที่น้ำทะเลลดลงไปเท่านั้น
เธอมักจะชอบมองด้านดีของสิ่งต่าง ๆ เสมอ และไม่ยอมให้ความรู้สึกเศร้าส่งผลกระทบต่อเพื่อนรอบตัวเด็ดขาด ทำให้เมื่อก่อนเธอแทบจะไม่ค่อยร้องไห้เลย แต่ดูเหมือนว่าน้ำตาที่สั่งสมมานานหลายปี และไม่เคยหลั่งไหลออกมานั้น ในตอนนี้มันได้พบทางออกแล้วในที่สุด
น้ำตาเหล่านั้นถูกสายลมชะล้างจนแห้งสนิท และไม่ตกกระทบลงไปในผืนน้ำ แต่ Navia คิดว่า พวกมันคงไม่จางหายไปตามกาลเวลาหรอก
น้ำตาเพียงเล็กน้อยเหล่านั้นของเธอไม่ได้สำคัญอะไร เฉกเช่นกับหยดน้ำอื่น ๆ ในโลกนี้ ที่จะระเหยและควบแน่นในอากาศ แล้วกลายเป็นเม็ดฝนร่วงหล่นลงมา จนกว่าจะพบกันอีกครั้งในหน้าฝนที่เปียกชุ่มในอนาคต
ช่วงเวลาที่เหมาะสม
ความประทับใจ Lv. 4 •
ไร้เหตุผลที่ฝนปราย
เมื่อ Navia สามารถแตะชั้นบนสุดของตู้ได้โดยไม่ต้องเขย่งแล้ว Callas ก็มอบสมุดบันทึกเล่มหนึ่งให้กับเธอ ซึ่งในสมุดเล่มนั้นไม่มีวันที่หรือรูปแบบอะไรเลย มีเพียงข้อความที่ไม่มีแม้แต่เครื่องหมายวรรคตอน ที่ถูกเขียนโดยลายมือ Clementine ผู้เป็นแม่เท่านั้น
Navia รู้สึกประหลาดใจมาก แต่เมื่ออ่านไปเรื่อย ๆ เธอก็รู้สึกหดหู่ในใจ
นี่เป็นบันทึกของแม่ที่เขียนขึ้นตั้งแต่แม่กับ Callas ไปเยือนสระน้ำพุ Lucine ด้วยกัน ดูเหมือนว่าตั้งแต่พวกเขาตัดสินใจเลี้ยงเด็กคนนี้ ผู้เป็นแม่ก็คอยคิดถึง Navia อยู่เสมอ เวลาเห็นดอกทานตะวันสีทอง เธอก็จะจินตนาการถึงสีผมของเด็กสาว หรือเวลาที่เห็นน้ำในทะเลสาบที่ใสสะอาด ก็จะนึกถึงแสงในดวงตาของเด็กน้อย
เธอจดบันทึกความคาดหวังและความปรารถนาเหล่านั้นไว้ทีละข้อ ทีละข้อ: ขอให้ลูกของเราเปี่ยมล้นด้วยคุณสมบัติที่งดงาม ขอให้เธอได้ลิ้มลองอาหารและการผจญภัยต่าง ๆ ของโลกใบนี้ และขอให้เธอได้รับความสุขและความสมหวังทุกรูปแบบ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Navia อ่านบันทึกของแม่ แต่กลับเป็นครั้งที่เธอมีความสุขและโกรธมากที่สุด "ทำไมพ่อถึงเพิ่งจะเอาสมุดบันทึกมาให้ตอนนี้?!"
แต่ความโกรธนี้ก็ไม่ได้อยู่นานนัก เธออ่านบันทึกเล่มบางจบอย่างรวดเร็ว ซึ่งในตอนท้ายของบันทึกก็มีประโยคที่เขียนไว้สั้น ๆ ว่า
"ถึงแม้จะเขียนแต่เรื่องราวของลูก แต่สุดท้ายแล้ว นี่คงเป็นความปรารถนาของฉันคนเดียวละมั้ง"
บางทีอาจเป็นเพราะสายเลือดที่เชื่อมโยงกัน ทำให้ Navia เข้าใจประโยคนี้ในทันที แม่ไม่อยากให้ความปรารถนาของตัวเอง กลายเป็นภาระในการเติบโตของลูก แต่หลังจากที่ Navia เติบโตขึ้นตามความปรารถนาของแม่ ผู้เป็นพ่อถึงได้มอบสมุดบันทึกเล่มนี้ให้เธอ
วันนี้ เป็นวันที่นาน ๆ ที Navia จะไม่ออกไปเล่นนอกบ้าน เธอหมกตัวอยู่ในห้องเป็นเวลานาน และยากจะเชื่อว่าครั้งนี้ เธอจะเห็นด้วยกับการกระทำตามอำเภอใจของพ่อ
บางทีอาจเป็นเพราะ แม่อยากจะมอบบันทึกเล่มนี้ให้กับเธอหลังจากที่เธอโตแล้ว... มอบให้ในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด
วิชั่น
ความประทับใจ Lv. 6
ในงานเลี้ยงวันเกิดเมื่อหลายปีก่อน Navia หยิบบอร์ดเกมที่ตัวเองชื่นชอบมากที่สุดขึ้นมาเล่น
อาจเป็นเพราะวันนั้นเป็นเหมือนวันที่เธอบรรลุนิติภาวะและเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว จึงมีผู้คนเข้าร่วมในเกมเยอะมาก ในบรรยากาศที่คึกคักนั้น นอกจากตัวเอกอย่าง Navia แล้ว ทุกคนต่างก็ใช้สมองเพื่อสร้างตัวละครที่ไม่เหมาะกับตัวเองขึ้นมา
Melus ผู้มั่นคงได้กลายเป็นผู้บัญชาการที่ประมาทเลินเล่อ และเชิญชวนให้ทุกคนไปร่วมกันแก้ไข... หรือควรพูดว่าไปรับคำสาปโบราณของตระกูลน่าจะถูกกว่า... Sonny ที่แต่งตัวดีและสุภาพเรียบร้อยกลายเป็นจอมโจรปากร้าย ซึ่งเขาได้เสียสละครั้งใหญ่โดยการถอดเสื้อคลุมสีอ่อนที่มักจะสวมติดตัวอยู่ตลอดเวลา ส่วน Silver ซึ่งถูกลากมาเข้าร่วมด้วยเพราะบังเอิญเดินผ่านมาพอดีนั้น เขาเพิ่งเข้าร่วมองค์กรกุหลาบหนามได้ไม่นาน ดังนั้นทุกคนจึงยกบทบาทนักเวทผู้ลึกลับที่ทรงพลังให้กับชายหนุ่มผู้หวาดกลัวคนนี้
และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือ Clorinde ซึ่งปกติจะคอยควบคุมสถานการณ์อยู่เสมอ ครั้งนี้เธอตัดสินใจ "สมคบคิด" กับนักผจญภัยชื่อดังที่มีฉายาว่า "คุณหนูใหญ่" โดยเธอปรากฏตัวในฐานะหมอส่วนตัวที่มีทักษะการยิงปืนแม่นทุกนัด "น่าจะต้องมีคนทำการรักษาด้วยสิ" เธอให้เหตุผลเพิ่มเติม ซึ่งนั่นจะส่งผลให้ขาดเกมมาสเตอร์ ทำให้คุณ Callas โดนพ่วงเข้าไปด้วย ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่วางเครื่องดื่มในมือ และออกจากที่นั่งผู้ชม (ม้านั่ง) แล้วย้ายมานั่งท่ามกลางผู้คน (โซฟา) แทน
Navia พอใจกับการเริ่มเกมนี้มาก
ในตอนต้นเกมนั้นทุกอย่างดำเนินไปอย่างยากลำบาก ในระหว่างงานเลี้ยงวันเกิดของคุณหนูใหญ่ ผู้บัญชาการแปลกหน้าได้บุกเข้ามาในบ้าน และเพราะการตัดสินที่ย่ำแย่เขาจึงมุดเข้าไปในเค้กสามชั้นจนหายใจไม่ออก และเกือบจะแก้คำสาปนับพันปีของตระกูลได้ตั้งแต่ห้านาทีแรก
คุณหนูใหญ่เห็นดังนั้นจึงรีบให้หมอผู้ใจดีช่วยเหลือเขาทันที "การช่วยให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไป ก็ถือเป็นการช่วยศัตรูของเรานะ" หมอพูดขณะทอยลูกเต๋า
เกมมาสเตอร์ยังคงทำหน้าเรียบเฉย และทำหน้าที่ของตัวเองด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกและซื่อตรง:
"ชายหนุ่มที่มานั้นตากฝนตัวเปียกโชกไปทั้งตัว พร้อมกับมือทั้งสองที่สั่นสะท้าน"
"เขาพยายามเช็ดครีมออกจากใบหน้าและลำตัวให้มากที่สุด แต่ก็ยังมีบางจุดที่พลาดไปเช่นกัน"
"'ขอบคุณ ขอบคุณที่ช่วยฉันต่อสู้กับคำสาปชั่วร้าย'"
ในช่วงกลางเกม สถานการณ์ก็พลิกผัน หากอยากแก้ไขปัญหาก็ต้องตรวจสอบต้นตอของปัญหานั้นก่อน จากการคาดเดาของนักเวท บรรพบุรุษของผู้บัญชาการได้เซ็นสัญญากับปีศาจด้วยเหตุผลบางประการ "ถ้าได้แต้มที่ดีกว่านี้ก็คงได้รู้สาเหตุที่แท้จริงแล้วสินะ..." นักเวทตัดพ้อด้วยความเสียใจ "หมายความว่าบรรพบุรุษโง่เง่าคนนั้นเซ็นสัญญาเงินกู้หน้าเลือดสินะ เป็นการทำร้ายคนรุ่นหลังจริง ๆ!" จอมโจรกล่าวเหยียดหยัน "งั้นพวกเราขโมยมันมาทำลายทิ้งได้มั้ย?" คุณหนูใหญ่พูดเสนอขึ้น
เกมมาสเตอร์ที่ไม่มีประสบการณ์คนนี้ อาจจะเสียใจไปตลอดชีวิตหากปล่อยให้พวกเขาทำเช่นนั้น เพราะโชคชะตาของจอมโจรนั้นไม่เลวเลยทีเดียว
"...'คุณหนูใหญ่'" ฉลาดปราดเปรื่อง แต่ "...'จอมโจร'" ก็มีทักษะลึกซึ้งไม่แพ้กัน
"ไม่มีใครคิดว่าจะได้สัญญามาอย่างง่ายดายขนาดนี้ แต่ข้อความบนสัญญานั้นยากที่จะเข้าใจได้จริง ๆ..."
เกมจบลงอย่างสมบูรณ์แบบอย่างไม่คาดคิด ต้องขอบคุณเกมมาสเตอร์ที่พยายามอย่างหนักและใจดีอย่างมาก (ฝีมือตกอย่างแรงด้วย) ในที่สุด คุณหนูใหญ่ก็ลากเพื่อนร่วมทีมแปลก ๆ ทั้งหลายไปดูปีศาจโบราณได้สำเร็จ การต่อสู้ยังคงยุ่งเหยิงเช่นเคย นักเวทเสียสติเป็นคนแรกตลอด เช่นเดียวกับหมอที่ไม่เคยยิงโดนเลยสักนัด เมื่อเห็นว่าค่าพลังชีวิตของทุกคนใกล้จะหมดเต็มทีแล้ว คุณหนูนักผจญภัยก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเสี่ยงดวง เธอใช้การเคลื่อนไหวเพื่อเข้าใกล้ปีศาจ และต้านทานการโจมตีโดยตรงของมันด้วยความยากลำบาก จากนั้นเธอก็พูดกับหมอด้วยเสียงแหบแห้งว่า "เอาปืนมายิงฉันเถอะ!"
ยังไม่ทันที่เกมมาสเตอร์จะเอ่ยปาก ลูกเต๋าของหมอก็ถูกทอยออกไปแล้ว Callas นับแต้มบนนั้นอย่างเงียบ ๆ และสูดหายใจลึกถึงสามครั้ง
"...จุดอ่อนของปีศาจถูกกระสุนเจาะทะลวงเข้าไปอย่างจัง และร่างอันมหึมาของมันก็ตกลงสู่ก้นเหว"
"มันจะกลับไปหลับใหลในความมืดมิด และลบล้างคำสาปอันไร้สาระให้หมดสิ้นไป"
"ไชโย ไชโย! แด่ความกล้าหาญของนักผจญภัย และเพื่อสหายผู้เคราะห์ร้าย!"
ไม่รู้ว่าพวกเขาแค่ตามน้ำไปกับคำพูดของประธาน หรือเป็นความรู้สึกที่ออกมาจากใจจริง แต่ทุกคนกำลังโห่ร้องไชโย ท่ามกลางเสียงที่ดังกึกก้อง มีเพียงคุณ Callas ที่กำลังเริ่มจัดเก็บอุปกรณ์ให้เข้าที่เท่านั้นที่ตกอยู่ในอาการตกตะลึง เขาหยิบอัญมณีสีทองชิ้นหนึ่งออกมาจากกล่องเก็บลูกเต๋า แล้วพูดว่า
"Navia... พ่อว่านี่น่าจะเป็นของลูกนะ"
ในที่นี้มีคนอยู่มากมาย แต่วิชั่นอันนี้เป็นของ Navia อย่างแน่นอน เพราะทันทีที่เธอเริ่มคิด ดาบธาตุหินขนาดยักษ์ก็ตัดเค้กวันเกิดออกเป็นสองส่วน... รวมถึงโต๊ะเองก็ด้วย
ในตอนดึก เมื่องานเลี้ยงวันเกิดเลิกราและความตื่นเต้นของเธอบรรเทาลงแล้วนั้น Navia นอนราบอยู่บนเตียง แต่เธอจำไม่ได้ว่าตอนที่ได้รับวิชั่น เธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ เธอรู้สึกโล่งใจที่ในที่สุดก็ชนะเกมนี้ หลังจากพยายามมานาน หรือกำลังขอพรให้ได้อยู่เคียงข้างครอบครัวกับเพื่อนฝูงในวันเกิดทุก ๆ ปีกันนะ?
หากเป็นอย่างแรก ดูเหมือนจะสื่อว่าเธอต้องเผชิญความยากลำบากก่อน ถึงจะพบตอนจบที่สมบูรณ์แบบได้... เพราะงั้นเอาเป็นอย่างหลังละกัน
Navia คิดเรื่องนี้ขณะกึ่งหลับกึ่งตื่นโดยที่ถือวิชั่นไว้ในมือ และจากนั้นก็ค่อย ๆ ผล็อยหลับไป
นามบัตร[]
กลุ่มดาว[]
เควสต์และกิจกรรม[]
การทดลองใช้ตัวละคร[]
การกล่าวถึงตัวละคร[]
เสียงพากย์ตัวละคร
ตัวละคร | เสียงพากย์ |
---|---|
| |
| |
| |
| |
| |
|
ชื่อในภาษาอื่น[]
หัวข้อตัวละคร: "ดอกกุหลาบสีเหลืองที่โบยบิน"[]
ภาษา | ชื่ออย่างเป็นทางการ | ความหมายที่แท้จริง |
---|---|---|
ไทย | หางเสือแห่งมวลกุหลาบ | |
อังกฤษ | Helm of the Radiant Rose | หางเสือแห่งกุหลาบส่องประกาย |
จีน (ตัวย่อ) | 明花蔓舵 | |
จีน (ตัวเต็ม) | 明花蔓舵 | |
ญี่ปุ่น | 舵を這うラディアントローズ | |
เกาหลี | 빛나는 장미의 타륜 Binnaneun Jangmi-ui Taryun | |
สเปน | La Líder de las Rosas | ผู้นำแห่งมวลกุหลาบ |
ฝรั่งเศส | Nautonière de la rose radieuse | หางเสือหญิงแห่งกุหลาบส่องประกาย |
รัสเซีย | Штурвал цветущей розы | หางเสือแห่งกุหลาบบานสะพรั่ง |
เวียดนาม | Bánh Lái Hoa Lệ | |
เยอรมัน | Leiterin der leuchtenden Rose | |
อินโดนีเซีย | Helm of the Radiant Rose | หางเสือแห่งกุหลาบส่องประกาย |
โปรตุเกส | Leme da Rosa Radiante | |
ตุรกี | Parlak Gülün Önderi | |
อิตาลี | Timoniere della rosa splendente | หางเสือหญิงแห่งกุหลาบส่องประกาย |
หน้าอื่น ๆ[]
|