นางจิ้งจอกไซกู (ญี่ปุ่น:
ในระหว่างเหตุการณ์ "วิกฤตการณ์มืด" ซึ่งอาจจะหมายถึงวันมหาหายนะในเวลาห้าร้อยปีที่ผ่านมา นางจิ้งจอกไซกูเป็นหนึ่งในเหยื่อผู้สูญหาย ถูกกลืนกินไปโดยพลังมืด ทั้งร่างกายทั้งจิตใจป่นสลายกลายเป็นเศษมลทิน
สื่อเวทย์ Hakushin Ring มีคำอธิบายที่เขียนจากมุมมองของนาง ตัวพิมพ์เขียวสื่อเวทย์เป็นที่หาได้เมื่อผู้เล่นได้ทำเควสต์โลกชื่อว่า Sacred Sakura Cleansing Ritual เป็นที่เสร็จสิ้น
โปรไฟล์[]
นางจิ้งจอกไซกูเป็นทายาทของตระกูลฮาคุชินและพำนักอยู่ในมหาวิหารนารุกามิ นางไซกูมีอายุขัยยืนยาวเหมือนกับจิ้งจอกทั้งมวล แต่ไม่เป็นที่แน่ชัดก่อนวันเสียชีวิตว่านางมีอายุเท่าใด
อุปนิสัย[]
เสียความจำย่อมไม่ต่างกับสิ้นชีวาลัย ดั่งสิ้นใจท่ามกลางความมืดอันเป็นอนันต์
—คิตสึเนะ ไซกู
จากคำให้การของนางคานาเดะ นางไซกูชอบเล่นมุกตลก "เกินเลย" เป็นประจำ อย่างไรก็ตามนางยังมีกิริยาเคร่งขรึมซ่อนเอาไว้ มีความกังวลในเรื่องการเก็บความทรงจำเป็นพิเศษ ขณะกำลังปลอบประโลมฮิบิกิเมื่อจอมผ่าหมอกทากามิเนะหายสาบสูญไป นางได้กล่าวว่า "คนที่เจ้ากำลังนึกถึงช่างโชคดีที่ได้มาอยู่ในความทรงจำของเจ้าตลอดไป"
เนื้อเรื่อง[]
ชีวิตตอนต้นของนางฮาคุชิน ไซกูเป็นที่รับรู้เพียงน้อยนิด นางเคยวิ่งแข่งชนะจอมนางเท็งงุแห่งภูเขาโยโก และได้ผู้แพ้มาเป็นผู้พิทักษ์ตนเอง อย่างไรก็ตามนางไซกูเชื่อว่านางเท็งงุจงใจอ่อนข้อให้ เป็นที่โมโหแก่นางเล็กน้อย นางยังเคยใช้กุศโลบายหลอกล่อให้บาเกะทานุกินามว่าอิโอริสวามิภักดิ์ต่อพระนางโชกุนอสนีบาต และยังแอบเรียนรู้อาคมของเหล่าบาเกะทานุกิมาอย่างลับๆอีกด้วย
การสิ้นใจเมื่อ 500 ปีที่ผ่านมา[]
จงอย่ามืดบอด จงอย่าระส่ำระสาย จงเดินไปในทางที่เจ้าเชื่อมั่น
—คำที่นางจิ้งจอกไซกูพูดกับพระนางโชกุน ขณะจากลาเป็นครั้งสุดท้าย
ในเวลาห้าร้อยปีที่แล้ว นางจิ้งจอกไซกูได้มีโอกาสสนิทชิดเชื้อกับมนุษย์ธรรมดากลุ่มหนึ่ง ในจำนวนนี้มี "นางมิโกะ" (ฮิบิกิ) "ชายหนุ่มอัธยาศัยดี" (อาจจะเป็นนายคันนะการะ ฮารุโนะสึเกะ) "นายคันโจ" (ฮิอิรากิ ฮิโรชิ) และ "คนช่างคิดตระกูลหนึ่งที่ใช้วิชาประดิษฐ์อุกกาบาตขึ้นไปบานบนฟ้า" (ครอบครัวนากาโนะฮาระ)
แผ่นดินได้ประสบภัยพิบัติ "วิกฤตการณ์มืด" อันอาจจะเป็นเหตุการณ์วันมหาหายนะเข้าคุกคาม นางจิ้งจอกต้องการปกป้องเจ้าทานุกิอิโอริจึงหลอกให้ออกมาเล่นซ่อนหากับตน
หลังจากนั้นเมื่อนางได้กล่าวบอกลากับพระนางโชกุน นางจิ้งจอกไซกูได้หายตัวไปในความมืดลึกล้ำและไม่เป็นที่พบเห็นอีก ในขณะที่ตนกำลังสิ้นใจ ไซกูได้ขอให้พลังมืดอันกัดกินตัวเองให้ละเว้นความทรงจำของตนเอาไว้ และเมื่อทั้งจิตใจทั้งร่างกายถูกกลืนไป ความทรงจำบางส่วนของนางจิ้งจอกก็ยังทรงพลังพอที่จะคงความบริสุทธิ์ไม่ด่างพร้อยถึงแม้จะตกตะกอนลงมาเป็นเพียงเศษเดน เกิดเป็นนางมิโกะนามว่าคาซาริ
มรดกทางประวัติศาสตร์[]
ในเวลาเดียวกับที่นางจิ้งจอกสิ้นใจ จอมผ่าหมอกทากามิเนะได้หายสายสูญไประหว่างสู้รบอยู่กับพลังมืด และนางจิโยะถูก "อสุรกายแห่งบาป" กลืนลงท้องและถูกความชั่วเข้าครอบงำ ชักดาบจะสังหารองค์บาอัลก่อนจะถูกกำราบและหนีหายไป บุตรชายของนางจิโยะ นายมิโกะชิ โดเค ได้แยกตัวโดดเดี่ยวอยู่ในหมู่บ้านคอนดะและเปลี่ยนนามสกุลเนื่องด้วยความละอายที่แม่ตนทรยศพระนาง ในขณะที่บุตรชายบุญธรรมมิโกะชิ นากามาสะ เลือกจะกอบกู้ชื่อวงศ์ตระกูลมิโกะชิด้วยการรับใช้รัฐบาลโชกุนแทน
การเสียพวกพ้องไปเป็นจำนวนมากทำให้สหายภูเขาโยโกต่างแยกย้ายกันไปตามทางตน นางจอมเท็งงุจงใจเนรเทศตัวเองเนื่องจากล้มเหลวไม่อาจปกป้องนางจิ้งจอกไซกุและได้ทิ้งนางเทรุโยะไว้เบื้องหลัง นักพรตคันนะการะทิ้งประเทศไปอยู่ที่อื่นด้วยโทสะและความเศร้าโศก นางคานาเดะรับหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ดูแลมหาวิหารนารุกามิ เฝ้ารอวันทากามิเนะกลับมา
ฝูงจิ้งจอกปฐพีและจิ้งจอกนภาต่างเปลี่ยนร่างตนไปเป็นหินเพื่อรอการหวนคืนของนางจิ้งจอก รูปปั้นจิ้งจอกบางตัวสามารถถูกส่องผ่าน Memento Lens ได้
นางมิโกะคาซาริ ผู้เกิดขึ้นมาจากเศษเดนความทรงจำของนางจิ้งจอกอันกระจายไปทั่วผืนแผ่นดิน ได้ปั้นกายหยาบขึ้นเพื่อดำเนินพิธีกรรมชำระล้างต้นซากุระศักดิ์สิทธิ์ต่อไป นางปรากฎตัวขึ้นต่อหน้านายฮารุโนะสีเกะจนเกือบคิดว่าเป็นนางจิ้งจอกไซกูมาพบ และต่อมาเมื่อรู้ธรรมชาติที่แท้จริงของคาซาริจึงตัดสินใจที่จะปล่อยไว้ไม่ขับไล่..
เบ็ดเตล็ด[]
- นางไซกุเคยชื่นชอบเต้าหู้ทอดมาก
- เป็นไปได้ว่าเป็นการอ้างอิงถึงเต้าหู้อินาริซุชิ ที่ถูกกล่าวขานว่าจิ้งจอกชอบทานเป็นพิเศษ