Khaenri'ah

หน้าหรือส่วนนี้ต้องการการล้างข้อมูล

เพื่อให้ข้อมูลเป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพของ Genshin Impact Wiki
หน้านี้อาจไม่เป็นระเบียบ, อ้างอิงได้ยาก, มีปัญหากับการจัดรูปแบบหรือเลย์เอาต์, มีข้อมูลที่คลุมเครือ, หรืออื่น ๆ

โปรดช่วยดำเนินการปรับปรุงหน้านี้หากคุณสามารถทำได้

เนื้อหาที่กำลังจะมา

หน้านี้เกี่ยวกับเนื้อหาที่กำลังจะมา ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ข้อมูลในที่นี้ไม่ได้เป็นตัวอย่างของเนื้อหาที่มีอยู่ในเกมเวอร์ชันปัจจุบัน ข้อมูลเกมในเวอร์ชันเบต้า, ข้อมูลรั่วไหล และอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้รับการเผยแพร่, ประกาศ หรือยืนยันจากทางการ ถือเป็นเนื้อหาต้องห้าม ไม่อนุญาตให้นำเข้าสู่วิกิโดยเด็ดขาด หากตรวจสอบพบเนื้อหาต้องห้ามดังกล่าวจะถูกลบออกและอาจส่งผลให้มีการบล็อกเกิดขึ้น
ผู้ดูแลวิกิไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาต้องห้ามเหล่านั้น และถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เผยแพร่เนื้อหาดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว

Khaenri'ah (/ˈkɑːnriɑː/), หรือที่รู้จักในชื่อ อาณาจักร Khaenri'ah คืออารยธรรมเก่าแก่ที่ล่มสลายไปกับกาลเวลาก่อนที่เนื้อเรื่องปัจจุบันของ Genshin Impact จะเริ่มขึ้น เป็นภูมิภาคที่ยังไม่ถูกปล่อยให้เล่นในตัวเกม ไม่เป็นส่วนหนึ่งของทวีป Teyvat และไม่อยู่ในการดูแลของเทพทั้งเจ็ด อีกทั้งยังเป็นสถานที่แรกที่นักเดินทางตื่นขึ้นเมื่อตกลงมายัง Teyvat

ตามคำให้การของ Dainsleif Khaenri'ah เป็นประเทศที่ไร้เทพปกครอง ไม่ใช่เพราะว่าประเทศสูญเสียเทพที่เคยปกครอง แต่เป็นเพราะว่า Khaenri'ah เป็นประเทศของมนุษย์อย่างแท้จริงและสิ่งมหัศจรรย์ที่มันทิ้งเอาไว้ล้วนแต่เกิดขึ้นจากน้ำมือและความคิดสร้างสรรค์ของมนุษยชาติเองทั้งสิ้น

Dainsleif ตัวละครผู้เคยเป็นพลเมืองของ Khaenri'ah อธิบายอดีตประเทศของตนเอาไว้ว่าเป็น "มุมอับที่สายตาของเหล่าเทพส่องไม่ถึง" และพสกนิกรของ Khaenri'ah นั้นมีความฝัน "ที่จะได้ฝัน"

บทที่ ??: ความฝันที่ยังมาไม่ถึง จะดำเนินเรื่องในแดนนี้

คำอธิบาย[]

Khaenri'ah เป็นดินแดนใต้ดิน สัตว์ตามธรรมชาติเลยค่อนข้างน้อย ดังนั้น "การเล่นแร่แปรธาตุ" จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อ "สร้างสิ่งมีชีวิต" โดยศาสตร์แห่งการก่อกำเนิดชีวิตนี้ รู้จักกันในชื่อว่า "ศิลปะแห่งดินดำ"
—Albedo, เรื่องราวของตัวละคร 5

Khaenri'ah เป็นดินแดนมืดมิดใต้พิภพ และไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติใด ๆ ข้อมูลที่มีกล่าวถึง Khaenri'ah ล้วนมีที่มาจากคำอธิบายอาวุธและวัตถุมงคล รวมไปทั้งตำรับตำราที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วโลก Dainsleif กล่าวถึง Khaenri'ah ไว้ว่าเป็นความภาคภูมิใจของมนุษยชาติ เพราะเทพเจ้าไม่มีส่วนแตะต้อง มีแต่ฝีมือคน จนกระทั่งดินแดนได้ถูกทำลายลงด้วยน้ำมือเทพเจ้าเมื่อเวลา 500 ปีที่ผ่านมา

การศึกษาศาสตร์ลึกลับที่เรียกกันว่าเฆเมียได้นำไปสู่การล่มสลายของ Khaenri'ah เมื่อ 500 ปีก่อนในเหตุการณ์ที่รู้จักเพียงในชื่อของ "วันสิ้นโลก" และ "วันมหาหายนะ" เนื่องด้วยความทะยานอยากไม่รู้พอของโกลด์ นักเล่นแร่แปรธาตุแห่ง Khaenri'ah ในการสร้างสิ่งมีชีวิตอันทรงพลังตัวแล้วตัวเล่าได้นำไปสู่การล่มสลายของ Eclipse Dynasty ผู้ปกครองผืนแผ่นดิน Khaenri'ah สัตว์ประหลาดเหล่านี้ รวมไปถึงตัวที่คลุ้มคลั่งเพราะฤทธิ์เทพดังเช่นดุริน ได้หลั่งไหลกันออกมาจากเศษซากประเทศที่เคยรุ่งเรืองและระบาดไปทั่วผืนแผ่นดิน Teyvat

กองอัศวินแห่ง Favonius แห่งเมือง Mondstadt ที่ในสมัยนั้นบัญชาการโดยเจ้าสำนักอรุนโดลิน ได้แต่งทัพเคลื่อนพลบุกเข้า Khaenri'ah เพื่อล้างบางกระแสสัตว์ประหลาดที่พรั่งพรูออกมา ยุทธการนี้ได้ทำให้ Rostam สหายร่วมศึกและคู่แข่งส่วนตัวของ Arundolyn ต้องสิ้นชีพในที่รบ การตายซึ่งทำให้ผู้บัญชาการสูงสุดเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างสูง นักรบผู้อื่นที่ได้เข้าร่วมการทัพเพื่อปราบปรามฝูงสัตว์ประหลาดยังมีนางพรานชุดเขียว Viridescent Venerer และ Crimson Witch of Flame ถึงแม้ยุทธการจะมีผลในการลดการระบาดของสัตว์ประหลาดในระยะแรกลง สัตว์เล็กๆดังเช่น Hilichurl ก็ยังแพร่พันธุ์สะพัดไปทั่วทั้ง Teyvat

ในเวลาปัจจุบัน Khaenri'ah ยังคงล้มลุกคลุกคลานอยู่กับบาดแผลและคำสาปในอดีต ความหวังสุดท้ายที่ Khaenri'ah ส่งออกไป Kaeya ได้แทรกซึมรอปฎิบัติหน้าที่อยู่ใน Mondstadt เพื่อวันที่จะได้กระทำการตาม "แผนโบราณ" ที่วางเอาไว้ สาเหตุที่ไคย่าถูกฝังตัวเอาไว้เป็นสายลับและผลพวงที่จะตามมาเมื่อแผนการนี้บังเกิดขึ้นนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดแต่อย่างใด

Abyss Order[]

Abyss Order ได้ถือกำเนิดขึ้นมาใน Khaenri'ah ที่ถูกเหล่าเทพทำลายล้าง มีวัตถุประสงค์แรงกล้าจะล้างแค้นทำลายเจ็ดประเทศใต้การปกครองของเหล่าเจ็ดเทพ เหล่าพสกนิกรแห่ง Khaenri'ah ได้กลายพันธุ์ไปเป็นสัตว์ประหลาดแห่ง Abyss ดังนั้นจึงเชื่อกันว่าเหล่า Abyss Mage, Abyss Herald, และ Abyss Lector ต่างล้วนแต่เคยเป็นราษฎรจาก Khaenri'ah อาจมีตำแหน่งเป็นอดีตพระยาหรืออัศวินปกปักษ์ดินแดน

Khemia[]

"จักรวาล... คือแก่นแท้สีดำอันลึกลับของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวที่แท้จริง และผืนแผ่นดิน... คือแหล่งรวบรวมความทรงจำของเวลาและชีวิต ชอล์กสีขาว...ก็คือเธอ และดินสีดำ... คือที่มาของคำว่าการเล่นแร่แปรธาตุ อีกทั้งยังเป็นรากเหง้าของชีวิต และสิ่งนี้..."
—Rhinedottir, ขณะที่เธอสาธิต Khemia ให้ Albedo, เรื่องราวของตัวละคร 3 ของ Albedo

Khemia คือศาสตร์แปรธาตุขั้นสูงอันถูกพัฒนาในประเทศ Khaenri'ah ซึ่งสูงส่งถึงขั้นนำไปสู่การประดิษฐ์ชีวิต ในปัจจุบันผู้เรียนรู้มีเพียงนักแปรธาตุโกลด์ อาจารย์หญิงไรน์ดอตเตียร์และลูกศิษย์นามว่า Albedoเพียงเท่านั้น

นักกวีเวนติเคยพบเห็นอัลเบโด้ใช้งานศาสตร์ Khemia และกล่าวว่าเป็น "พลังแต่โบราณอันไม่อาจเป็นอื่นได้" และกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "คิดจะควบคุมช่างอันตรายนัก" อีกทั้งได้ครุ่นคิดถึงความเสียหายที่จะตามมาหากอัลเบโด้เผลอปล่อยพลังวิ่งพล่านในตัวเมือง

หุ่นยนต์[]

หุ่นกลขนาดใหญ่ดังเช่น Ruin Machine ที่มีชื่อเรียกเดิมว่าหุ่นไถนาได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอาวุธสงครามให้กับอาณาจักร Khaenri'ah หุ่นรบพวกนี้เดินเร่ร่อนกระจัดกระจายไปทั่วโลกหลังจากที่ Khaenri'ah ล่มสลาย ไร้นายใดๆสั่งการ แต่ยังอันตรายอย่างยิ่งยวด