คันนะ คาปัตชีร์ (ain: カンナカパッチㇼ Kanna Kapatcir), ผู้มีอีกชื่อว่า อัสนีปักษา เป็นเทพีนกยักษ์ผู้ปกปักษ์เกาะสึรุมิ และเป็นผู้ทำลายเกาะสึรุมิและฆ่าผู้อยู่อาศัยทั้งหมดด้วยตัวเองอีกทั้งยังเป็นต้นเหตุของความวินาศบนเกาะเซไร ต่อมานางได้ถูกองค์เทพีเบเอลเซบูล ผู้เป็นพระนางโชกุนอสนีบาตฆ่าตายและจองจำเอาไว้บนเกาะเซไรนั้น เศษเสี้ยวพลังของนกยักษ์ยังคงก่อกำเนิดกายหยาบขึ้นมาเป็นอัสนีอวตารได้เป็นครั้งคราว
เนื้อเรื่อง[]
ประวัติศาสตร์[]
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ได้มีชนเผ่าโบราณที่อาศัยอยู่ในดินแดนอินาสึมะคอยบูชาสักการะคาปัตชีร์ บูชาทั้งจากความกลัวเกรงและสำนึกบุญคุณสายฝนที่นางนำพา ชนเผ่าได้คัดเลือกหมอผีขึ้นมาบูชาเลือดมนุษย์เป็นการขอความคุ้มครองและพรคุ้มหัว อีกทั้งยังตีความการกระทำทั้งหมดของปักษาว่าเป็นฤทธิ์เทพและใช้นาฬิกาทรายทำจากแร่เขี้ยวหนุมานในการคาดเดาวันนกยักษ์ปรากฎตัวเพื่อจัดงานฉลองต้อนรับใหญ่โต ชนเผ่าสึรุมิเชื่อกันว่านกยักษ์จงใจเสกหมอกหนาเอาไว้ปกป้องพวกตนจากทะเลทมิฬภายนอกเกาะ หากแต่หมอกไม่ได้มีทีท่าจะปกป้องผู้รุกรานแต่อย่างใด โดยได้เกิดกลุ่มฮิลลิเชิร์ล จักรกลอัตโนมัติ และสุนัขริฟท์ฮาวด์นขึ้นมาอยู่อาศัยบนเกาะ
อย่างไรก็ตามอัสนีปักษาหาได้ใส่ใจมนุษย์ไม่ ในสายตานางแล้วมนุษย์ธรรมดามีค่าไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉาน ในวันหนึ่งมีเสียงเพลงจากเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ ดังทะลุฟ้าแหวกหมู่เมฆเป็นที่ถูกอกถูกใจนกยักษ์จนลงมาหาตัวบนพื้นดิน ทั้งสองพูดคุยแลกเปลี่ยนกันเล็กน้อย โดยเด็กชายสัญญาว่าจะร้องให้ฟังอีกเมื่อนกยักษ์กลับลงมา
อนิจจา เมื่อคาปัตชีร์หวนลงมาที่พื้นกลับได้พบว่าเด็กชายถูกปลิดชีพและถูกเอาเลือดไปรองในถ้วยบูชายัญ ถึงแม้ว่าเด็กชายจะมองการสละชีพของตนนั้นเป็นเพื่ออนาคตของชนเผ่า นางปักษาเห็นว่านี่เป็นการเอาชีวิตคนบริสุทธิ์และการหักข้อสัญญาอย่างร้ายแรง และเสกพลังสายฟ้าฟาดลงมาล้างผลาญภูเขาทั้งลูกด้วยความเดือดแค้นและเตรียมตรม เด็ดชีพทุกชีวิตคนในชนเผ่าเพื่อเอาคืนให้แก่เด็กชาย อัสนีปักษาบินทิ้งภูเขาจากไป และต่อมาพืชพรรณธัญญาหารรก็กลับมาโตขึ้นอีกครั้ง
การตาย[]
หลายปีต่อมาคาปัตชีร์ได้ถูกเทพีเบเอลเซบูลไล่ล่าเป็นปีศาจและฆ่าทิ้งเนื่องจากเป็น "อุปสรรคต่อความก้าวหน้า" และได้ถูกจองจำพลังไว้บนเกาะเซไรที่ศาลเจ้าอาซาเสะเพื่อเก็บกักพลังอำนาจของนางที่ยังคงหลงเหลือ ในเวลาหนึ่งพันปีต่อมานางมิโกะอาซาเสะ ฮิบิกิได้ทำพิธีปลดม่านจองจำสำเร็จ และปล่อยอัสนีอวตารออกไปแผลงฤทธิ์ทำลายกองทัพเรือโชกุน ทำลายเกาะทั้งเกาะแตกเป็นชิ้นโดยไม่ตั้งใจและพัดพาเรือหลายลำออกไปกลางทะเลลึก
แกลเลอรี[]
เบ็ดเตล็ด[]
- Kanna (ain: カンナ) เป็นคำในภาษาไอนุแปลว่า "ข้างบน" หรือ "ด้านบน", และ Kapatcir (ain: カパッチㇼ) เป็นคำในภาษาไอนุแปลว่า เหยี่ยว, โดยทั่วไปแล้วหมายถึงนกอินทรีทะเลชเต็ลเลอร์ (Haliaeetus pelagicus) ชื่อของ Kanna Kapatcir รวมกันแล้วหมายถึง "นกอินทรีข้างบน"
- ตามคำบรรยายไทยในเควสต์ วันที่แดดจ้าและภูเขา Kanna, Kanna Kapatcir (ain: カンナカパッチㇼ) แปลว่า "อินทรีแห่งสายฟ้า"[1]
อ้างอิง[]
- ↑ วันที่แดดจ้าและภูเขา Kanna