ชาแมนในตำนานของเผ่าจ้าวแห่งลมราตรี "คุณยาย Itztli" ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว Natlan เป็นบุคคลที่ไม่ควรไปยั่วโมโหเด็ดขาด แต่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการขอความช่วยเหลือเมื่อเจอปัญหา
—คำอธิบายจากเว็บไซต์ทางการ[1]
อุปนิสัย[]
(รอการเพิ่มเติม)
ลักษณะรูปร่าง[]
(รอการเพิ่มเติม)
บทแนะนำทางการ[]
"ฉันคิดมาตลอดว่า ด้วยคุณสมบัติของ Citlali ไม่ช้าก็เร็วเธอจะกลายเป็นหัวหน้าเผ่าจ้าวแห่งลมราตรี แต่ผ่านไปสองร้อยปีแล้ว เธอก็ยังคงเป็นคนไม่ชอบออกจากบ้านเหมือนเดิม ถ้ามีคนที่สามารถดึงดูดเธอได้มากกว่าไลท์โนเวลพวกนั้น บางทีอาจทำให้ชาแมนอัจฉริยะคนนี้ สนใจโลกแห่งความเป็นจริงมากขึ้นก็ได้... ว่าแต่จะมีคนทำแบบนั้นได้จริง ๆ เหรอ?"
เมื่อเด็กเริ่มร้องไห้โยเยจนไม่รู้จะทำเช่นไร พวกพ่อแม่ในเผ่าจ้าวแห่งลมราตรีก็มักจะอ้างชื่อ "คุณยาย Itztli" ขึ้นมาขู่ ซึ่งก็ได้ผลทันตาเห็น ในช่วงเวลาสองร้อยปีมานี้ ความล้มเหลวนับไม่ถ้วนของผู้ท้าชิงมากมาย ก่อให้เกิดข่าวลืออันน่าสะพรึงกลัวสารพัด จนในที่สุดก็ได้สร้างชื่อเสียงให้เธอ จนทำให้เด็ก ๆ หยุดร้องไห้ในตอนกลางคืนได้
ในฐานะเจ้าของฉายานี้ Citlali ไม่เคยแก้ต่างอะไรให้ตัวเองเลย คล้ายกับว่าการมีตัวตนอยู่ของเธอทำให้ผู้คนหวาดกลัวจริง ๆ
แต่ถ้าคุณกล้าพอที่จะแอบเข้าไปในบ้านของเธอที่อยู่ห่างไกลหลังนั้น ก็จะได้เห็นขวดเหล้าและขนมที่วางกระจัดกระจาย รวมถึงไลท์โนเวลที่วางอัดแน่นเต็มชั้นหนังสือ... ซึ่งทั้งหมดนี้จะไม่ทำให้คุณรู้สึกว่าเจ้าของบ้านคือ ยายแก่ ๆ ที่น่ากลัว แต่จะทำให้รู้สึกว่า ตัวเองเหมือนหลงเข้าไปอยู่ในรังแสนสุขของหญิงติดบ้านสักคนมากกว่า
สำหรับเรื่องนี้แล้ว Citlali กลับแก้ตัวเสียงแข็งว่า
"คุณยายอย่างฉันเป็นคนที่ไม่สนใจกฎเกณฑ์ที่เข้าใจโลก ไม่ใช่คนติดบ้านซะหน่อย!"
เรื่องราวของตัวละคร[]
ข้อมูลตัวละคร
"ชาแมน" เป็นอาชีพลึกลับ ที่มีต้นกำเนิดมาจากจ้าวแห่งลมราตรี พวกเขาเชี่ยวชาญศาสตร์ลับมากมาย อีกทั้งเป็นผู้ทรงปัญญาและทรงพลัง ในความคิดของชาว Natlan นั้น ไม่ว่าจะต้องการขอคำปรึกษาเรื่องการรักษาโรค หรืออยากรู้คำพยากรณ์ที่เข้าใจยาก ก็ต้องไปหาชาแมนเหล่านี้ทั้งสิ้น พวกเขาสามารถเป็นทั้งหมอ และนักพยากรณ์ได้ ทั้งเรื่องเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน รวมถึงเรื่องสำคัญสุดชีวิตเอง ก็ล้วนแต่ต้องพึ่งพวกเขาเช่นกัน ซึ่งปกติแล้ว ชาแมนถือเป็นอาชีพ ที่ได้รับความเคารพจากผู้คนอย่างมาก
และเหนือกว่าชาแมนทั่วไป ยังมีชาแมนอีกประเภทที่เรียกว่า "ชาแมนผู้ยิ่งใหญ่" ว่ากันว่ามีเพียงผู้ที่มีความรู้ลึกล้ำในศาสตร์ลับเท่านั้น ที่จะได้รับฉายานี้ ซึ่งชาแมนผู้ยิ่งใหญ่ที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ของ Natlan นั้นมีน้อยมากจนแทบจะนับได้ ผลงานของพวกเขาเป็นเหมือนดวงดาวที่สว่างไสวที่สุดในท้องฟ้ายามค่ำคืน ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มสีสัน ให้กับอาชีพชาแมนที่ลึกลับนี้ได้
Citlali ก็คือหนึ่งในชาแมนผู้ยิ่งใหญ่นั้น และเป็นชาแมนผู้ยิ่งใหญ่เพียงคนเดียวของ Natlan ในตอนนี้
แต่สิ่งที่ต่างจากภาพจำของผู้คนก็คือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน หรือเรื่องสำคัญสุดชีวิต เธอก็ไม่เคยอยู่ในเหตุการณ์นั้นเลย แม้แต่เรื่องใหญ่อย่างพิธีสักการะของเผ่า เธอก็แทบจะไม่เคยเข้าร่วมเลยด้วยซ้ำ หากคนนอกต้องการขอความช่วยเหลือจากชาแมนผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้แล้วละก็ เห็นทีคงจะยากลำบากกว่าชาว Natlan เองเสียอีก
"มาหาคุณยาย Itztli งั้นเหรอ? อย่าไปรบกวนเธอจะดีกว่านะ! แต่ถ้าจำเป็นต้องไปจริง ๆ ก็เตรียมใจไว้หน่อยละกัน และอย่าลากฉันไปเกี่ยวด้วยล่ะ"... ชาวเผ่าส่วนใหญ่ของจ้าวแห่งลมราตรีล้วนตอบแบบนี้กันทั้งนั้น ราวกับว่า Citlali เป็นมอนสเตอร์ที่ทั้งอันตราย และทรงพลังมาก
"ชาแมนผู้ยิ่งใหญ่คนนั้น... ฮ่าฮ่า เจ้าคงต้องไปขอให้นางช่วยเท่านั้นแล้วแหละ เพราะมังกรศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ ไม่มีเวลามาสนใจคนอย่างเจ้าหรอก แต่เห็นแก่ที่เจ้ามาถามอย่างจริงใจ งั้นข้าจะยอมให้เจ้าอ้างชื่อข้าในตอนที่ไปเคาะประตูก็ได้ รับรองว่านางจะต้องยอมช่วยเจ้าแน่" สิ่งมีชีวิตประหลาดที่เรียกตัวเองว่ามังกรศักดิ์สิทธิ์ ตอบกลับมาเช่นนี้ ราวกับว่า Citlali เป็นแค่ตัวละครตัวเล็ก ๆ ที่สามารถจัดการได้อย่างง่ายดายเท่านั้น
"มาขอความช่วยเหลือจากคุณยายงั้นเหรอ? งั้นคุณก็มาหาถูกคนแล้วล่ะ ยายน่ะรู้เรื่องต่าง ๆ เยอะแยะเลยล่ะ! แล้วนี่คุณรู้ที่อยู่ของเขามั้ย? ช่างเถอะ เดี๋ยวฉันจะพาคุณไปเอง จริงสิ อย่าลืมเคาะประตูตลอดเวลานะ ยายเขากลัวคนแปลกหน้าน่ะ เพราะงั้นเราต้องเข้าหายายก่อน" ไกด์มือทองคนหนึ่งจากเหล่าวารีจะตอบกลับมาแบบนี้ ราวกับว่า Citlali เป็นเด็กสาวที่เหนียมอาย
"อยากขอให้ Citlali ช่วยงั้นเหรอ? นี่เป็นทางเลือกที่ฉลาดมากจริง ๆ เรื่องสำคัญหลาย ๆ อย่างใน Natlan ก็สำเร็จได้ด้วยความช่วยเหลือของเขานี่แหละ บางทีเขาอาจจะช่วยไขข้อสงสัยที่ทำให้เธอกังวลอยู่ได้นะ" ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ผู้ควบคุมเพลิงศักดิ์สิทธิ์ตอบกลับไปแบบนี้ ราวกับว่า Citlali เป็นผู้อาวุโสที่มีความรับผิดชอบสูง และเข้าถึงได้ง่าย
แต่สุดท้าย หลังจากสอบถามจนทั่วแล้ว ผู้ที่มาขอความช่วยเหลือก็มีแต่จะได้รับความสงสัยมากขึ้นเท่านั้น และต้องล้มเลิกความตั้งใจไปเอง
เรื่องราวของตัวละคร 1
ความประทับใจ Lv. 2
ที่อยู่ของ Citlali นั้นอยู่ห่างไกลจากพื้นที่อยู่อาศัยของชนเผ่า ซึ่งตั้งอยู่ในมุมหนึ่งของภูเขา เป็นสถานที่เหมาะจะหลบซ่อนตัวจากโลกภายนอกมาก ทว่าเมื่อมองจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว ที่อยู่อาศัยที่ห่างไกลนี้ กลับไม่ได้กลมกลืนกับทิวทัศน์ธรรมชาติเหมือนที่อยู่อาศัยของนักพรตคนอื่น ๆ แต่กลับดูสะดุดตาเป็นพิเศษ
สาเหตุหลักมาจากกราฟฟิตี้บนกำแพงนอกประตู ภาพกราฟฟิตี้เหล่านี้มีสีสันสดใส เกินจริง และเต็มไปด้วยความเร้าใจ ราวกับว่ามันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อยั่วยุใครบางคน ซึ่งหากจะอธิบายเรื่องนี้ให้ชัดเจน ก็คงต้องเล่าถึงประเพณีแปลกประหลาดที่แพร่หลายในหมู่ชาแมนผู้ยิ่งใหญ่ของจ้าวแห่งลมราตรี... พวกเขาจะค้นหาผู้แข็งแกร่งในหมู่คนรุ่นเดียวกัน จากนั้นก็สร้างความบังเอิญขึ้นมา เพื่อให้ลูกศิษย์ของตนมีความโกรธแค้นต่อชาแมนผู้แข็งแกร่งท่านนั้น และใช้ความกดดันจากชาแมนผู้แข็งแกร่ง มากระตุ้นให้ลูกศิษย์ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น บางทีความสัมพันธ์ของอาจารย์กับลูกศิษย์ของตน อาจจะมีความรักใคร่เอ็นดูเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกันปนอยู่ด้วย เมื่อต้องเผชิญหน้ากับรักจากจิตใต้สำนึก จึงต้องหันไปใช้ความเข้มงวดจากศิษย์พี่ศิษย์น้องของอาจารย์ มาทำการทดสอบที่จำเป็นแทน ซึ่งเมื่อหลายปีก่อน ชาแมนผู้ยิ่งใหญ่ Huitzilin ก็ได้เลือกให้ Citlali เป็นเป้าหมายความแค้นให้กับลูกศิษย์ของตน ซึ่งวิธีการนั้นก็คือ ให้พวกเขาไปวาดกราฟฟิตี้ยั่วยุบนกำแพงนอกบ้านของ Citlali เพื่อประกาศถึงความท้าทายของตนเอง
Citlali ทำหน้าที่ "กระตุ้นให้รุ่นน้องก้าวหน้า" ได้เป็นอย่างดี พวกรุ่นน้องบางคนที่มั่นใจในตัวเองสูง เพราะมีชาแมนผู้ยิ่งใหญ่เป็นอาจารย์เหล่านั้น กลับไม่มีใครสามารถยืนหยัดต่อหน้าเธอได้เลย หลังจากนั้นพวกเขาก็ต้องกลับมาอ่อนน้อมถ่อมตนและระมัดระวังให้มากขึ้น อีกทั้งยังยำเกรงต่ออาชีพชาแมนผู้ยิ่งใหญ่อีกด้วย
หลังจาก Huitzilin จากโลกนี้ไป ลูกศิษย์ลูกหาของเธอก็ยังคงเลือกให้ Citlali เป็นเป้าหมายความแค้นของพวกนักเรียน และอ้างว่านี่คือความปรารถนาสุดท้ายของเธอ
แม้ว่านี่จะขัดต่อประเพณีอยู่บ้าง แต่ชาวเผ่าจ้าวแห่งลมราตรีส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ประหลาดใจเท่าไหร่นัก ในประวัติศาสตร์นั้น Huitzilin เป็นชาแมนผู้ยิ่งใหญ่ที่มีชื่อเสียงพอ ๆ กับ Citlali ว่ากันว่าเธอรู้จักความสามารถของ Citlali ดีที่สุด และเคารพในความสามารถของเธอมากที่สุดเช่นกัน ในความคิดของเธอ มีเพียงผู้ที่กล้าท้าทายกับ Citlali เท่านั้น ที่จะสามารถสืบทอดมรดกของเธอได้ ซึ่งความจริงก็เป็นอย่างที่ชาแมนผู้ยิ่งใหญ่คนนี้คาดหวังไว้จริง ๆ การท้าทาย Citlali นั้นได้สร้างผลดีบางอย่าง เหล่าลูกศิษย์ที่กล้าเผชิญหน้ากับ Citlali ส่วนใหญ่ ล้วนแต่ประสบความสำเร็จมากกว่าคนทั่วไป บ้างก็ได้รับตำแหน่งที่สำคัญในเผ่า บ้างก็สร้างผลงานโดดเด่นในด้านศาสตร์ลับ ดังนั้นพฤติกรรมการวาดกราฟฟิตี้ เพื่อท้าทาย Citlali เองก็ได้รับการสืบทอดต่อมา และกลายเป็นประเพณีใหม่อย่างหนึ่งเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้สร้างความเจ็บปวดให้กับเหล่าชาแมนที่สืบทอดมาจาก Huitzilin อย่างมาก พวกเขาต้องพบกับความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับด้วยน้ำมือของ Citlali ตั้งแต่เริ่มเป็นลูกศิษย์ จนต่อมาพวกเขาจึงต้องปรับเปลี่ยนเกณฑ์การท้าทายที่ Huitzilin เคยกำหนดไว้ โดยเปลี่ยนให้เป็นเพียงแค่ยืนหยัดต่อหน้า Citlali ในเวลาที่นานพอเท่านั้น ส่วนข่าวลือต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับคุณยาย Itztli ก็ล้วนแต่แพร่มาจากพวกที่พ่ายแพ้อย่างย่อยยับทั้งสิ้น
หากผู้ท้าทายล้มเหลว ชาแมนผู้ยิ่งใหญ่ Citlali จะใช้ศาสตร์ลับลบกราฟฟิตี้ที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ ดังนั้นกราฟฟิตี้บนกำแพงด้านนอกจึงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง และท่าทีของ Citlali ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนจากความรำคาญใจในตอนแรก ไปเป็นความเฉยชาแทน ด้วยความสามารถและสถานะของเธอแล้ว ที่จริงเธอสามารถยุติพฤติกรรมน่ารำคาญเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายเลยด้วยซ้ำ แต่เธอกลับยอมให้มันดำเนินเช่นนี้ต่อไป และเมื่อพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว บางคนก็คิดว่า Citlali ต้องการใช้คนที่ท้าทายล้มเหลวเหล่านั้น เพื่อป่าวประกาศถึงชื่อเสียงของตัวเอง แต่บางคนก็คิดว่า อย่างน้อยชาแมนผู้ยิ่งใหญ่ ที่เมินเฉยกับทุกสิ่งผู้นี้ ก็ยังมีความรับผิดชอบในการฝึกฝนคนรุ่นหลังอยู่บ้าง
บางทีอาจมีเพียง Citlali เท่านั้นที่รู้ว่า ภาพกราฟฟิตี้ที่เต็มกำแพงเหล่านี้ มักจะทำให้เธอนึกถึงช่วงเวลา ที่ได้ประลองฝีมือกับคู่ต่อสู้เก่า ขอแค่ภาพกราฟฟิตี้บนกำแพงยังมีการเปลี่ยนแปลง เธอก็จะสามารถแสร้งทำเป็นว่า ช่วงเวลานั้นยังไม่ได้ผ่านพ้นไปได้
เรื่องราวของตัวละคร 2
ความประทับใจ Lv. 3
ถ้าถามว่างานอดิเรกที่สำคัญที่สุดของ Citlali คืออะไรนั้น คนที่รู้จักเธอดี คนที่หวาดกลัวเธอ หรือแม้แต่คนที่เพิ่งจะรู้จักเธอผ่านข่าวลือ ต่างก็จะให้คำตอบเดียวกัน... ว่าเป็นไลท์โนเวล ครั้งแรกที่ผู้คนได้พบกับ Citlali สิ่งแรกที่พวกเขาเห็น ก็แทบจะเป็นภาพที่เธอกำลังถือไลท์โนเวลเล่มหนึ่งอยู่เสมอ
แต่ถ้าถามว่า Citlali ชอบไลท์โนเวลเล่มไหนมากที่สุด แม้แต่คนที่สนิทสนมกับเธอที่สุด ก็ยังให้คำตอบที่ตรงกันไม่ได้
บางคนคิดว่าเป็น "บันทึกสงครามลวงตา" เพราะนี่เป็นไลท์โนเวลที่เธอพูดถึงกับคนอื่นบ่อยที่สุด หรือไม่ก็อาจจะเป็นไลท์โนเวลเล่มแรกที่เธอได้อ่านก็เป็นได้ มีข่าวลือว่า ไลท์โนเวลโบราณเล่มนี้เปลี่ยนนักเขียนมาตั้งสามครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถจบได้สักที ถึงขนาดที่ว่า ผู้อ่านคนแรกได้เสียชีวิตไปแล้วด้วยซ้ำ เหลือก็แต่ผู้อ่านที่มีชีวิตอยู่มาถึงสองร้อยปีอย่าง Citlali เท่านั้นที่ยังคงคอยติดตามอ่านต่อไป ไลท์โนเวลเล่มนี้ทำให้อายุขัยอันยาวนานของเธอมีความหมายพิเศษขึ้นมา ดังนั้นมันจึงเป็นไปได้มากว่า นี่จะเป็นไลท์โนเวลเล่มโปรดของเธอ
บางคนก็คิดว่าเป็น "ตำนานของดาบ" เพราะนี่เป็นผลงานยอดนิยมที่ชาว Natlan หลายคนต่างก็เคยได้ยินมา แต่เวลาคนอื่นพูดถึงผลงานนี้ Citlali มักจะแสดงท่าทีไม่ชอบใจอยู่เสมอ ไม่ใช่ว่าเธอไม่ชอบเนื้อหาของมันหรอก แต่เป็นเพราะเธอไม่พอใจ ที่งานแจกลายเซ็นครั้งหนึ่ง ไม่ได้จัดขึ้นใน Natlan ต่างหาก
และยังมีคนที่ถกเถียงกันอย่างดุเดือดระหว่างเรื่อง "เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นโชกุนไปซะแล้ว" กับ "รบกวนด้วยนะ Kitsune Guuji ของฉัน" อีกด้วย ฝ่ายหนึ่งก็คิดว่า "เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นโชกุนไปซะแล้ว" เป็นเรื่องโปรดของ Citlali เพราะครั้งหนึ่งเธอเคยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เนื่องจาก "เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นโชกุนไปซะแล้ว" ที่ซื้อมาไม่ใช่ฉบับพิมพ์ครั้งแรก จนทำให้คนขายหนังสือตกใจแทบแย่ ส่วนอีกฝ่ายก็คิดว่า "รบกวนด้วยนะ Kitsune Guuji ของฉัน" เป็นเรื่องโปรดของเธอ เพราะพวกเขาเห็นกับตาว่า Citlali ได้สั่งสอนผู้ท้าทายกลุ่มหนึ่ง ด้วยวิธีที่แสนดุร้าย เพียงเพราะคนพวกนี้มารบกวนเธออย่างกะทันหัน จนทำให้เธอไปต่อคิวแย่งซื้อ "รบกวนด้วยนะ Kitsune Guuji ของฉัน" ฉบับปกแข็งลิมิเต็ดไม่ทัน
Citlali ไม่เคยตอบคำถามข้อนี้อย่างตรงไปตรงมา จนสุดท้ายก็ไม่มีใครรู้คำตอบที่แท้จริงเลยสักคน แต่แล้วกลับมีผู้ใจกล้าคนหนึ่งแอบปล่อยข่าวว่า ชั้นหนังสือที่ Citlali เอาไว้วางไลท์โนเวลมีช่องลับซ่อนอยู่ นอกจากจะซ่อนไว้อย่างลึกลับมากแล้ว ยังถูกผนึกไว้หลายชั้นด้วยศาสตร์ลับพิเศษอีกด้วย ซึ่งเห็นได้ชัดว่า ภายในนั้นเก็บไลท์โนเวลที่เธอชอบที่สุดเอาไว้
...Citlali รู้ในทันทีว่า ผู้ก่อกวนคนนี้คือหัวขโมยที่เคยบุกเข้าไปในบ้านของเธอ เธอจึงไปอัดเจ้าหมอนั่นจนเละตุ้มเป๊ะ แล้วส่งตัวเขาให้กับผู้พิทักษ์ของชนเผ่า นับตั้งแต่นั้นมา เธอก็เพิ่มศาสตร์ลับในการปิดผนึกเพิ่มขึ้นอีกชั้น
แต่เธอก็ไม่เคยปฏิเสธคำพูดของหัวขโมยคนนั้นแต่อย่างใด เพราะบนชั้นหนังสือของเธอมีช่องลับอยู่จริง ๆ
สิ่งที่ถูกเก็บไว้ในนั้นไม่ใช่ผลงานที่กำลังเป็นที่นิยม หรือหนังสือเลิกตีพิมพ์ที่หายาก แต่เป็นไลท์โนเวลเล่มหนึ่ง ที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงใน Inazuma เลย... นั่นคือ "ตำนานบทใหม่แห่ง Kitsune ทั้งหก"
นี่คือไลท์โนเวลที่ Citlali ชอบที่สุดงั้นเหรอ? ก็พูดยากอยู่นะ เหตุผลที่ Citlali เก็บมันไว้ที่นี่ อาจจะเป็นเพราะประโยคแรกที่เธออ่านเจอตอนเปิดไลท์โนเวลเล่มนี้ก็ได้
"เรื่องราวของความทรงจำมักเชื่อมโยงกับช่วงเวลาแห่งการได้รับและการสูญเสีย"
เรื่องราวของตัวละคร 3
ความประทับใจ Lv. 4 •
แสงรุ้งที่ถูกลิขิตให้มอดไหม้
เพื่อน ๆ ของ Citlali มักจะต้องเจอกับปัญหายุ่งยากในวันเกิดของเธอเสมอ... ว่าแต่สรุปเธออายุเท่าไหร่แล้วนะ?
เพราะมองจากภายนอกแล้ว แทบจะดูไม่ออกเลย
จากคำพูดที่ Citlali ชอบพูดอยู่บ่อยครั้งแล้ว คำตอบของคำถามนี้ ดูเหมือนจะเป็นสองร้อยปี แต่ถ้าว่าตามคำพูดของผู้อาวุโสในเผ่าจ้าวแห่งลมราตรีแล้วละก็ อายุของ Citlali คงจะไม่ใช่แค่สองร้อยปีแน่ ๆ เพราะเธอรู้เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นก่อนสองร้อยปี
"หรือเป็นเพราะตอนเด็ก ๆ คุณยายเองก็เคยถูก Saurian รับไปเลี้ยงเหมือนกัน?" Chasca เคยคาดเดาเช่นนี้ เพราะตอนเด็ก ๆ Chasca เคยถูก Qucusaurus รับไปเลี้ยง จนเธอไม่รู้วันอายุที่แท้จริงของตัวเอง
"จะสองร้อยปี หรือสองร้อยกว่าปี ยังไงคุณยายก็ยังเป็นคุณยายอยู่ดีนั่นแหละ" Ororon จะตอบกลับเช่นนี้เมื่อถูกทุกคนถาม ในฐานะคนที่ถูก Citlali เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กนั้น Ororon สามารถรับรู้ถึง "ความคลุมเครือ" ของอายุขัยบนตัวเธอได้ดีที่สุด
แต่ Xilonen ไม่ชอบคำตอบนี้เลย เพราะทุกคนยังต้องสั่งทำเค้กวันเกิด ซึ่งตัวเลขที่ไม่ชัดเจน มีแต่จะสร้างปัญหาให้กับทางร้าน สำหรับเธอแล้ว ความชัดเจนของความต้องการเป็นจรรยาบรรณขั้นพื้นฐานที่สุดของลูกค้าเลย
"ฮ่าฮ่า! แค่สองร้อยปี ก็ทำให้พวกเจ้าต้องกลุ้มใจขนาดนี้เลยเหรอ ถ้าพวกเจ้ารู้ว่ามังกรศักดิ์สิทธิ์อย่างข้าอยู่มานานเท่าไหร่แล้วละก็..." Ajaw จอมทำลายบรรยากาศ ถูก Kinich ผู้ว่องไวตีกระเด็นไปในพริบตา
"ถ้างั้นก็ยึดเอาอายุสองร้อยปีนี่แหละมั้ย! ที่คุณยายมักจะบอกว่าตัวเองอายุสองร้อยปี ก็คงเหมือนกับพวกพี่สาวคนสวยที่ชอบบอกว่าตัวเองอายุสิบแปดตลอดกาลนั่นแหละ เพราะแบบนี้มันทำให้รู้สึกว่ายังเด็กอยู่ไงล่ะ!" คำแนะนำของ Mualani ทำให้ทุกคนครุ่นคิดกันสักพัก แต่สุดท้ายก็ถูกปฏิเสธอยู่ดี ไม่ว่ายังไง เพราะการใช้คำว่า "อายุสองร้อยปีตลอดกาล" มาสื่อว่าตัวเองยังเด็กอยู่ มันก็ดูจะเกินจริงไปหน่อยนะ
ในขณะที่คนอื่น ๆ รู้สึกจนปัญญาอยู่นั้น Iansan ที่คล่องแคล่วว่องไวมากที่สุด ก็ได้เชิญ Mavuika มา เพื่อหวังว่าจะได้เบาะแสจากความทรงจำที่สืบทอดมาจากเพลิงศักดิ์สิทธิ์ แต่ Mavuika ก็ไม่สามารถให้คำตอบที่แน่ชัดเกี่ยวกับอายุของ Citlali ได้ ในความทรงจำของเทพแห่งไฟรุ่นก่อน ๆ Citlali ก็ล้วนแต่ใช้ชีวิตอย่างสันโดษมาโดยตลอดแล้ว ดังนั้น จึงยากที่จะคาดเดาอายุของ Citlali จากความทรงจำเหล่านี้ได้
ทุกคนวุ่นวายกันอยู่นานมาก เพราะถ้าถาม Citlali ตรง ๆ คงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีแน่ ชาแมนผู้ยิ่งใหญ่ที่หลักแหลมคนนี้ จะมองเจตนาของพวกเขาออกทันที และทำให้เซอร์ไพรส์ของงานเลี้ยงฉลองวันเกิดต้องสูญเปล่าแน่นอน
สุดท้าย ทุกคนก็เลือกที่จะตัดปัญหาที่ยุ่งยากนี้ไปก่อน แล้วหันมาหารือการออกแบบเค้กที่ไม่ต้องระบุอายุแทน
ในคืนวันเกิด หลังจากใช้เสียงเคาะประตูเพื่อล่อให้ Citlali ออกมาแล้ว ทุกคนก็โชว์เค้กและของขวัญต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ในที่สุดงานฉลองวันเกิด ที่วางแผนมาอย่างยาวนาน ก็ถูกจัดขึ้นได้สำเร็จ
บางทีอาจเป็นเพราะปฏิเสธทุกคนไม่ลง คืนนั้น Citlali จึงดื่มเหล้าไปมากมาย ในขณะที่เธอเมาแอ๋อยู่นั้น ก็ได้มีคนช่างสงสัย เอ่ยถามคำถามที่กวนใจทุกคนอยู่นานขึ้นมา
"ฉันอายุเท่าไหร่แล้วงั้นเหรอ? เอิ๊ก! ฉันจะเล่าเรื่องน่าสนใจ ให้พวกเธอฟังสักหน่อยละกัน บนโลกนี้ คนที่อายุยืนยาวมาก ๆ ไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวหรอกนะ... พวกเขาน่าจะเป็นแบบนี้กันหมดแหละ ทีแรกก็คงจะสามารถนับอายุตัวเองได้ แต่พอยิ่งมีอายุยืนยาวขึ้นเรื่อย ๆ ก็ยิ่งขี้เกียจวุ่นวาย และค่อย ๆ เลิกสนใจตัวเลขที่แน่ชัดไปแล้ว... เอิ๊ก! แต่ฉันอะนะ ไม่เหมือนคนอื่นเขา... ตอนแรกฉันก็ไม่ได้สนใจอายุอานามอะไรนั่นหรอก แต่หลังจากเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น ฉันก็เพิ่งจะมาสังเกตว่าฉันเริ่มแก่ลงเรื่อย ๆ แล้ว... ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฉันก็เริ่มนับอายุตัวเอง และตอนนี้ก็ครบสองร้อยปีพอดีแล้วล่ะ... เอิ๊ก!"
ในที่สุดทุกคนก็เข้าใจที่มาของคำพูดที่ว่า "สองร้อยปี" ของเธอแล้ว แต่นั่นก็ทำให้เกิดคำถามใหม่ขึ้นว่า เพราะเหตุผลอะไรกันแน่นะ ที่ทำให้คนที่ดูเยาว์วัยมาตลอดสองร้อยปีอย่าง Citlali เพิ่งมารู้สึกตัวว่า กาลเวลาผ่านมาอย่างยาวนานแล้ว?
แต่ทุกคนก็ยังคงเก็บความสงสัยของตัวเองไว้ เพราะพวกเขาเห็น Citlali จ้องมองท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างเหม่อลอย... ซึ่งนั่นหมายความว่าเธอหลับไปแล้ว
เรื่องราวของตัวละคร 4
ความประทับใจ Lv. 5 •
ความจริงของสงครามเจ็ดสีสัน
สาวน้อยชื่อ Huitzilin เป็นเพื่อนร่วมชั้นของ Citlali ส่วน Iktomisaurus ที่ชื่อว่า เจ้าอุ้งเล็บก็เป็นคู่หู Saurian ของเธอ เมื่อ Huitzilin ตั้งท่าเตรียมตัวสำหรับต่อสู้ เจ้าอุ้งเล็บก็จะกระโดดโลดเต้นอยู่ข้าง ๆ อย่างกระตือรือร้น เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเธอ
"เธอคืออัจฉริยะที่พวกผู้อาวุโสพูดถึงกันงั้นเหรอ? งั้นมาประลองกันสักตั้งเถอะ!"
"...ประสาทรึไง?"
การประลองครั้งแรกระหว่างทั้งสองคนเริ่มขึ้นอย่างกะทันหัน และสิ้นสุดลงด้วยความพ่ายแพ้อย่างน่าเวทนาของ Huitzilin หลังจากนั้นไม่นาน Huitzilin ก็มักจะมาปรากฏตัวที่หน้าบ้านของ Citlali พร้อมกับเจ้าอุ้งเล็บเป็นครั้งคราว ในช่วงแรก ๆ Huitzilin จะมาท้าทายพร้อมกับคำพูดอันดุเดือด แต่หลังจากนั้น นอกเหนือจากการท้าทายแล้ว Huitzilin ก็ยังพกขนมติดไม้ติดมือมาอีกมากมาย และภายหลังจากนั้นอีก Huitzilin ก็ได้นำเหล้าที่ขโมยมาจากพวกผู้ใหญ่มาด้วย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคุณภาพของเหล้าที่ดีเกินไป หรือเพราะเธอยอมรับความจริงที่ว่า ไม่สามารถทำให้ Huitzilin ยอมแพ้ได้ เลยทำให้ Citlali ไม่ต่อต้านการมาเยือนของ Huitzilin อีกต่อไป
และแล้วเวลายี่สิบปีก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
จนกระทั่งวันหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายก็เสมอกันเป็นครั้งแรก ในที่สุด Citlali ก็ตอบรับคำเชิญของ Huitzilin และร่วมแบ่งปันเหล้าชั้นดีและขนมเลิศรสภายใต้แสงจันทร์ด้วยกัน
"เวลาที่ได้รับฉายาชาแมนผู้ยิ่งใหญ่ก็เป็นวันเดียวกัน... ดูเหมือนว่าจะตัดสินไม่ได้เลยสินะว่าใครเก่งกว่าใคร"
"เสมอกันได้ก็ถือว่าไม่เลวแล้วล่ะ ในฐานะคู่ต่อสู้ของฉัน เธอน่าจะพอใจแล้วนะ? บางทีต่อไปเธออาจจะไม่ต้องมารบกวนฉันอีกแล้ว..."
"ยังไงก็ต้องมาอยู่แล้วสิ! ถึงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ แต่พวกเราก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งยี่สิบปีแล้วนะ"
ท่ามกลางราตรีอันพร่ามัว Citlali ที่เมากรึ่มได้จ้องมองไปทาง Huitzilin ทันใดนั้นเธอก็สังเกตเห็นว่า สาวน้อยที่บุ่มบ่ามในตอนนั้น ได้กลายเป็นชาแมนผู้ยิ่งใหญ่ที่สง่างามแล้ว ส่วนเจ้าอุ้งเล็บเองก็ตัวสูงใหญ่กว่าพวกเธอ และมีท่วงท่าอันน่าเกรงขามที่ Iktomisaurus ตัวเต็มวัยเท่านั้นจึงจะมีได้
"นั่นสิเนอะ มิตรภาพยี่สิบปี..."
รายละเอียดมากมายที่ซ่อนอยู่ในช่วงเวลาอันรีบเร่งนั้น หลั่งไหลเข้ามาในจิตใจของเธอ Citlali สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นมากมายของสิ่งที่เรียกว่ามิตรภาพ แต่ก็ยังรู้สึกถึงวิกฤติอันแผ่วเบาที่ชวนให้สับสนเช่นกัน
วันเวลาผันผ่าน และอีกยี่สิบปีก็ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว
วันหนึ่ง หลังจากเอาชนะผู้ท้าทายได้อีกครั้ง Citlali กำลังจะลบกราฟฟิตี้ที่อีกฝ่ายวาดเขียนไว้เหมือนเช่นเคย กระทั่งฝีเท้าที่คุ้นเคยดังขึ้นขัดจังหวะการกระทำของเธอ
"เพื่อนรัก ไม่ได้มาดื่มกับฉันตั้งนานแล้วนะ โกรธฉันอยู่เหรอ?"
"ถ้าอยากจะสู้ก็มาเองสิ ทำไมต้องใช้ให้เจ้าพวกไร้ประโยชน์พวกนี้มาก่อกวนฉันด้วย?"
"เพราะ... ฉันถึงวัยที่ต้องรับลูกศิษย์แล้วไงล่ะ"
จู่ ๆ Citlali ก็ตระหนักได้ถึงบางอย่าง เธอหันกลับมา เพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันมาหลายวันนั้น ไม่รู้ว่าเริ่มมีรอยเหี่ยวย่นปรากฏบนใบหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่ ความสง่างามของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ส่วน Huitzilin เองก็คล้ายจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ซับซ้อนในแววตาของ Citlali เธอพยายามทำอะไรบางอย่าง จึงชี้ไปยังทุ่งที่อยู่ไม่ไกลนัก ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นช่วงดอกไม้ผลิบาน
"ไม่ว่าดอกไม้ป่าของ Natlan จะบานสะพรั่งแค่ไหน มันก็ย่อมเหี่ยวเฉาในยามหน้าแล้งอยู่ดี แต่พวกเราไม่เคยรู้สึกกังวลกับเรื่องนี้เลย เพราะยังไงปีหน้า ที่นี่ก็จะยังมีทุ่งดอกไม้อยู่เสมอ ไม่ใช่เหรอ?"
"ดอกไม้ที่พวกเราเห็นอยู่ตอนนี้ จะมีดอกไหนบ้างที่จะปรากฏในทุ่งดอกไม้ของปีหน้า? สุดท้ายแล้วมันก็ไม่มีอะไรหลงเหลือเลยไม่ใช่เหรอ?"
"...มันต้องมีอะไรหลงเหลือบ้างสิ เพื่อนรัก ขอเวลาฉันอีกหน่อย ฉันว่าฉันให้คำตอบเธอได้แน่"
สุดท้าย Huitzilin ก็ไม่สามารถทำให้ความรู้สึกในดวงตาของ Citlali สงบลงได้ และในที่สุด Citlali ก็รู้ถึงที่มาของความรู้สึกราวกับวิกฤติอันแผ่วเบานั้นแล้ว คืนนั้น ดาวบอกเหตุได้ร่วงหล่นจากท้องฟ้า ทำให้ Citlali นอนไม่หลับตลอดทั้งคืน
เฉกเช่นต้นไม้ใบหญ้าโรยรา Huitzilin ไม่ได้รอจนถึงยี่สิบปีถัดไป
...
หลายปีต่อมา ขณะที่ Citlali กำลังล้างกราฟฟิตี้บนกำแพงอยู่นั้น เธอก็นึกถึงเด็กสาวคนนั้น คนที่มาท้าประลองกับเธอในยามบ่าย พร้อมกับ Iktomisaurus ที่ยังเยาว์วัย
ความทรงจำมากมายพรั่งพรูเข้ามาในใจ ราวกับวันวานที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ แต่แล้วมันก็หายวับไปอย่างรวดเร็ว และกระจัดกระจายไปยังอดีตอันไกลโพ้น แม้แต่ความรู้สึกที่ Huitzilin ไม่สามารถปลอบประโลมได้ ก็ถูกลบหายไปตามกาลเวลาที่ยาวนาน จนเหลือเพียงเสียงทอดถอนใจเบา ๆ
"จะว่าไป สุดท้ายเธอก็ไม่ได้ให้คำตอบฉันเลยนะ"
แม้จะบ่นแบบนี้ แต่ Citlali ก็ไม่ได้โทษ Huitzilin เลย เพราะเธอรู้ว่าคำถามนี้ไม่มีคำตอบอยู่แล้ว หลังจากดอกไม้บาน และร่วงโรยไปครั้งแล้วครั้งแล้ว ดอกไม้ที่เธอจดจำได้ก็ไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว แม้แต่ดอกไม้ที่สดใสที่สุด ก็ยังถูกฝังอยู่ใต้เนินทรายแห่งกาลเวลา
เรื่องราวของตัวละคร 5
ความประทับใจ Lv. 6 •
ความจริงของสงครามเจ็ดสีสัน
"พวกเราต่างก็เป็นนก ที่ล่องลอยอยู่ในกาลเวลา ฉันอ้อยอิ่งอยู่ท่ามกลางพุ่มดอกไม้แห่งความทรงจำ เพื่อตามหาสีสัน ที่จะร่วมเดินทางเคียงข้างฉัน"
ทุกครั้งที่ทำสิ่งทอพิเศษที่บันทึกเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ Citlali มักจะนึกถึงคำพูดเหล่านี้ที่ Huitzilin เคยพูดไว้ ในตอนที่ Huitzilin สอนศาสตร์ลับในการสร้างสิ่งทอชนิดนี้ให้กับ Citlali เธอจะเริ่มต้นด้วยประโยคนี้ จากนั้นก็พา Citlali เข้าสู่มิติความทรงจำที่เต็มไปด้วยสีสัน เธอเป็นเหมือนจิตรกรผู้ชำนาญ ที่นำความทรงจำมาทำเป็นสี และวาดลงบนผืนผ้าขนาดใหญ่
หลังจากเรียนรู้ศาสตร์ลับนี้แล้ว Citlali ก็เริ่มเลียนแบบ Huitzilin บางทีเธอจะเก็บสีส้มมาจากคบเพลิงที่เหล่านักรบชูขึ้น เพื่อประดับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ หรือไม่ก็เด็ดกลีบสีม่วงอ่อนจากช่อดอกไม้หน้าหลุมฝังศพ เพื่อรำลึกถึงการจากไปของผู้กล้าทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้ สิ่งทอที่บันทึกประวัติศาสตร์ต่าง ๆ บนพื้นผิวจึงถูกสร้างขึ้นมา และประเพณีของชนเผ่าจ้าวแห่งลมราตรีก็ได้รับการสืบทอดต่อไป
Citlali เข้าใจอยู่แล้วว่า ผู้สืบทอดศาสตร์ลับนี้ จะต้องแบกรับภารกิจนี้ ดังนั้นเมื่อนักเดินทางผมบลอนด์คนนั้นมาหาเธอ เธอจึงเข้าใจว่า ตัวเองไม่สามารถปฏิเสธคำเชิญของอีกฝ่ายได้ ครั้งนี้เธอได้เลือก "สีทอง" ของนักเดินทาง เพื่อใช้เป็นแสงสว่าง ที่ส่องประกายในห้วงเหว (Abyss) และเพื่อเป็นจุดสิ้นสุดของการต่อสู้ในครั้งนี้ เธอย้อมสีให้กับสิ่งทอทั้งหมดอย่างพิถีพิถัน และความทรงจำช่วงนั้น ก็ดูเหมือนจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาด้วยมือของเธอ
"เพียงเท่านี้ พวกเขาก็จะไม่ถูกฝังอยู่ใต้ลายลักษณ์อักษรที่กองพะเนินแล้ว"
จู่ ๆ ก็ได้ยินนักเดินทางที่อยู่ข้าง ๆ พูดประโยคนี้ออกมา ความรู้สึกบางอย่างที่ถูกกาลเวลากัดกร่อนไปนานแล้ว ก็พลุ่งพล่านขึ้นมาในหัวใจของ Citlali อย่างฉับพลัน เธอนึกถึงประโยคนั้นของ Huitzilin และทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่า Huitzilin ได้รักษาคำสัญญานั้นไว้จริง ๆ
เมื่อดอกไม้เหี่ยวเฉาในหน้าแล้ง เมื่อทุกอย่างถูกฝังกลบไปกับเนินทราย แล้วจะหลงเหลือสิ่งใดอยู่กันแน่?
"มันคือสีสันจากความทรงจำไงล่ะ"
นี่คือคำตอบที่ Huitzilin ได้ให้มาตั้งแต่แรก และเป็นคำตอบที่ Citlali สามารถตอบกลับเมื่อต้องเผชิญกับคำถามของนักเดินทางคนนั้นเช่นกัน Citlali รู้ว่า คำตอบนี้จะดึงให้เธอไปเผชิญกับคำสัญญาที่ใช้เวลาเนิ่นนานอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอกลับมุ่งมั่นมากขึ้นแล้ว
เธอมอบโทเคนที่เตรียมไว้นานแล้วให้กับนักเดินทางคนนั้น และได้เล่าความปรารถนาตลอดช่วงชีวิตที่ยาวนานของตัวเองเป็นครั้งแรก
"...ฉันอยากให้ความทรงจำของเธอ มีสีของฉันด้วยเหมือนกัน"
เหล่า Tzitzimitl
ความประทับใจ Lv. 4
"ตัวแรกมีชื่อว่า Citlalin ดวงดาวแห่งความชั่วร้ายจากทางเหนือ!"
"ส่วนตัวที่สองชื่อว่า Itzpapa มาจากสัญญาณร้ายจากทางใต้!"
เมื่อมีคนพูดถึงตุ๊กตาสองตัวที่อยู่ข้างกาย Citlali ซึ่งมีชื่อว่า "เหล่า Tzitzimitl" นั้น ชาวเผ่าจ้าวแห่งลมราตรีทั้งหลาย ก็มักจะตอบกลับด้วยคำเตือนแบบนี้ เพื่อให้ผู้ที่ชอบพูดเองเออเองสงบปากทันที และหลีกเลี่ยงการถูกสาปแช่งที่แสนชั่วร้าย ในข่าวลือกล่าวว่า พวกมันมีจิตสำนึกของปีศาจบางอย่างอยู่ในร่างกาย มีเพียงความโกรธของคุณยาย Itztli เท่านั้นที่จะสยบให้พวกมันยอมจำนนได้ ดังนั้นชื่อของตุ๊กตาสองตัวนี้ จึงถูกเรียกขานไปพร้อมกับชื่อของคุณยาย Itztli และกลายเป็นคำสาปบางอย่าง ที่สามารถทำให้เด็กน้อยหยุดร้องไห้ได้
แต่ถ้ามีโอกาสได้สังเกตตุ๊กตาสองตัวนี้ใกล้ ๆ แล้ว ผู้คนก็จะพบว่า พฤติกรรมของพวกมันเหมือนกับสิ่งมีชีวิตตัวน้อยที่น่ารักมากกว่าปีศาจ แม้ว่า Citlali จะชอบใช้พวกมันโจมตีศัตรู แต่วิธีการโจมตีนี้กลับทำให้ศัตรูรู้สึกหวาดกลัวน้อยกว่ากำปั้นของเธอเองซะอีก
อันที่จริง ในตัวของตุ๊กตาทั้งสองตัวนี้ มีดวงดาวที่ชั่วร้ายถูกผนึกเอาไว้จริง ๆ แต่จิตสำนึกของพวกมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งนี้เลย ตอนที่ Citlali สร้างพวกมันขึ้นมา เธอใช้ซากกระดูกของสิ่งมีชีวิตตัวน้อยที่ตายตามธรรมชาติ และวิญญาณที่หลงเหลืออยู่ในซากกระดูกนี้ ก็ถูกกระตุ้นให้ตื่นขึ้นในร่างของตุ๊กตา จนทำให้พวกมันมีจิตสำนึกขึ้นมา เจ้าตัวน้อยสองตัวที่คอยเกาะติดคนนั้นไม่สามารถนำคำสาปใด ๆ มาให้ใครได้หรอก มันมีแต่จะสร้างความประทับใจให้กับคน คล้ายกับสัตว์เลี้ยงมากกว่า
Citlali ไม่ค่อยอธิบายเรื่องนี้กับคนอื่นเท่าไหร่นัก เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นอาวุธแล้ว ยังไงก็ควรจะน่ากลัวหน่อยดีกว่า
วิชั่น
ความประทับใจ Lv. 6
Citlali ไม่ได้รับนามโบราณใด ๆ แม้แต่หลังจากที่เธอได้เป็นชาแมนผู้ยิ่งใหญ่แล้วก็ตาม
แม้ว่าเธอจะเป็นผู้สนับสนุนหลักของจ้าวแห่งลมราตรีอย่างไม่ต้องสงสัย หรือแม้ว่าหลายสิ่งหลายอย่างใน Natlan จะต้องอาศัยความช่วยเหลือจากเธอ เพื่อให้ดำเนินการต่อไปได้ แต่ก็ไม่มีนามของผู้กล้าคนใด ที่ตอบสนองกับเธอเลย
ผู้คนต่างพากันเสียดาย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ตั้งแต่ผ่านวัยเจ็ดสิบปีมาได้ Citlali ก็ไม่ค่อยออกจากบ้านเท่าไหร่ ดูเหมือนเธอจะไม่ได้มีความกระตือรือร้นต่อโลกใบนี้อีกต่อไปแล้ว และเธอจะจัดการเฉพาะเรื่องที่จำเป็นต้องให้เธอออกโรงจัดการเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าความเฉยชาเช่นนี้ ไม่เป็นที่โปรดปรานของผู้กล้าคนใดทั้งนั้น
แต่จุดที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้สังเกตเห็นคือ Citlali ยังคงกระตือรือร้นต่อบางอย่างเสมอ... นั่นก็คือการสร้างสิ่งทอพิเศษ เพื่อใช้สำหรับบันทึกเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์
ทุกครั้งที่ทำสิ่งทอนี้ขึ้นมา เข็มนาฬิกาแห่งกาลเวลา จะหมุนผ่านไปหลายทศวรรษ จนผ่านพ้นชีวิตของคนรุ่นหนึ่งไป แต่เธอกลับยังคงยืนหยัดอยู่เสมอ บางทีอาจเป็นเพราะ นี่เป็นความปรารถนาสุดท้ายของสหายเก่า หรือบางทีอาจเป็นเพราะกระบวนการสร้างสิ่งทอนี้ ทำให้เธอสามารถอยู่ห่างจากฝูงชนได้ เธอไม่เคยคาดหวังว่าจะได้เห็นจุดสิ้นสุดของภารกิจนี้ และไม่เคยพยายามให้ความมุ่งมั่นนี้ได้รับการตอบรับเช่นกัน
เธอเชื่อว่า "มันก็เป็นแค่วิธีฆ่าเวลาอย่างหนึ่งเท่านั้น"
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก ที่ในคืนนั้นบรรพบุรุษใช้ควันราตรีหลากสีในสายหมอกเรียกเธอ
"คิดว่าฉันจะสืบทอดนามโบราณของคุณรึไง?"
"ไม่ช้าก็เร็ว เธอจะต้องสืบทอดนามโบราณของฉัน เธอแค่ยังไม่รู้เหตุผลก็เท่านั้น"
"โปรดรับข้อความของฉันไว้ก่อนเถอะ แล้วคำถามในอนาคตของเธอ ก็จะได้รับคำตอบจากมันเช่นกัน"
ควันราตรีเปลี่ยนสีสันไปมา และส่งสารในภาษาที่มีเพียง Citlali เท่านั้นที่สามารถตีความได้
"พวกเราต่างเป็นเหมือนนก ที่ล่องลอยอยู่ในกาลเวลา"
"ฉันเดินทางไปทั่วป่าไม้เขียวขจี ล่องลอยไปตามเกลียวคลื่นสีคราม โบยบินไปตามลาวาสีแดงเพลิง เก็บแร่ทองคำอร่าม และไล่ล่าขนนกสีชมพู"
"จนกระทั่งเมื่อราตรีมาเยือน ฉันแต่งแต้มท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วยกราฟฟิตี้"
"ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันวาด จะถูกมอบให้โลกของสหายเก่า"
"นี่เคยเป็นชื่อของฉัน และจะเป็นชื่อของเธอเช่นกัน"
"Ukumbuko, 'ความทรงจำ'"
หลังจากแสดงข้อความนี้แล้ว ควันราตรีที่อยู่ในสายหมอกก็ลอยไปทางด้านหลังของ Citlali ไปยังสิ่งทอที่เพิ่งจะผ่านการลงสี และกลายเป็นสีที่แปลกประหลาดอย่างหนึ่ง ที่ส่องสว่างให้กับภาพทั้งหมด
เมื่อมองดูสิ่งทอที่อยู่ตรงหน้า จู่ ๆ Citlali ก็นึกถึงค่ำคืนที่สหายเก่าจากไป
"หน้าที่ที่เขามอบหมายให้ฉัน ก็เคยเป็นหน้าที่ของคุณเหมือนกัน ใช่มั้ย?"
"ใช่ แต่สำหรับเธอแล้ว ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่แค่หน้าที่นะ"
เมื่อ Citlali ตามสีสันนั้นไป ทันใดนั้นวิชั่นที่ส่องประกายแวววาว ก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเธอ
"มันเหมือนจะเป็น 'ความปรารถนา' ของเธอด้วย"
เควสต์และกิจกรรม[]
การกล่าวถึงตัวละคร[]
เรื่องราวของตัวละคร
ตัวละคร | เรื่องราว |
---|---|
เสียงพากย์ตัวละคร
ตัวละคร | เสียงพากย์ |
---|---|
| |
| |
| |
| |
| |
| |
|
เกร็ดข้อมูล[]
นิรุกติศาสตร์[]
- Citlali มาจากคำในภาษานาวัตล์ ซึ่ง "citlalli" มีความหมายว่า "ดวงดาว"
ชื่อในภาษาอื่น[]
ฉายาตัวละคร: ออบซิเดียนดาราผ่อง[]
ภาษา | ชื่ออย่างเป็นทางการ | ความหมายที่แท้จริง |
---|---|---|
ไทย | ออบซิเดียนดาราผ่อง | — |
อังกฤษ | Obsidian Opalstar | — |
จีน (ตัวย่อ) | 白星黑曜 Báixīng Hēiyào | |
จีน (ตัวเต็ม) | 白星黑曜 Báixīng Hēiyào | |
ญี่ปุ่น | 白星黒曜 | |
เกาหลี | 흰별을 품은 흑요석 Huinbyeor-eul Pumeun Heugyoseok | |
สเปน | La Estrella de Obsidiana | The Obsidian Star |
ฝรั่งเศส | Étoile opaline d'obsidienne | Opal Star of Obsidian |
รัสเซีย | Чёрный отблеск белой звезды | Black Gleam of White Star |
เวียดนาม | Tinh Tú Obsidian | Obsidian Star |
เยอรมัน | Sternenobsidian | |
อินโดนีเซีย | Obsidian Opalstar | — |
โปรตุเกส | Obsidiana da Estrela Branca | |
ตุรกี | Obsidiyen Opal Yıldızı | |
อิตาลี | Fulgistella d'ossidiana | Obsidian Brightstar[• 1] |
- ↑ <it-ref-plain>: Fulgistella is a portmanteau of fulgido "bright" and stella "star".
อ้างอิง[]
หน้าอื่น ๆ[]
|