หน้านี้อาจไม่เป็นระเบียบ, อ้างอิงได้ยาก, มีปัญหากับการจัดรูปแบบหรือเลย์เอาต์, มีข้อมูลที่คลุมเครือ, หรืออื่น ๆ
โปรดช่วยดำเนินการปรับปรุงหน้านี้หากคุณสามารถทำได้
บทความนี้เป็นการประมาณคร่าว ๆ ของไทม์ไลน์ในจักรวาล Genshin Impact ซึ่งมีการรวบรวมบันทึกทางประวัติศาสตร์ ตำนาน และเรื่องเล่า ซึ่งกำลังมีการปรับปรุงข้อมูลอยู่อย่างต่อเนื่อง จึงควรใช้วิจารณญาณประกอบในการอ่านข้อมูล
สำหรับไทม์ไลน์เฉพาะของแต่ละประเทศ สามารถดูได้ที่ประวัติศาสตร์แบ่งตามประเทศ และเลือกดูที่หน้าประวัติศาสตร์ของแต่ละประเทศตามที่ต้องการ
หมายเหตุ: เนื่องจากขนาดของบทความนี้ ซึ่งไทม์ไลน์ของแต่ละประเทศได้ถูกนำมาจากหน้าประวัติศาสตร์ของแต่ละประเทศโดยตรง ดังนั้นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหลาย ๆ ประเทศร่วมกัน อาจมีการทำซ้ำเกิดขึ้น และการอัปเดตข้อมูลดังกล่าวจะสามารถเข้าไปแก้ไขได้ที่หน้าประวัติศาสตร์เฉพาะของแต่ละประเทศเท่านั้น
บทความนี้ต้องการข้อมูลเพื่อนำมาอ้างอิงจำนวนมาก ซึ่งภายในเนื้อหายังมีส่วนหมายเหตุที่จะช่วยขยายความและเพิ่มเติมเหตุผลเพื่อสรุปภาพรวมให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถอ่านได้โดยการวางเมาส์เหนือข้อความวงเล็บหมายเหตุ (เฉพาะเดสก์ท็อป) หรือคลิกที่หมายเหตุ โดยมีตัวอย่างหมายเหตุดังนี้
- ความคลาดเคลื่อนของเนื้อเรื่อง: เมื่อข้อมูลภายในเกมมีความขัดแย้งในตัวเอง เปลี่ยนแปลงย้อนหลัง หรือขัดแย้งกับข้อมูลในมังงะ ถือเป็นความคลาดเคลื่อนของเนื้อเรื่อง ความคลาดเคลื่อนในการแปล หรือข้อมูลมีความขัดแย้งหรือทำให้เข้าใจผิดเนื่องจากความไม่ถูกต้องของการแปล ซึ่งในกรณีของความคลาดเคลื่อนของเนื้อเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลที่พบได้ทั้งในเกมและในมังงะ ข้อมูลภายในเกมจะถือว่าเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญสูงสุดเสมอ
- หมายเหตุการแปล: เมื่อข้อความในภาษาจีนซึ่งเป็นภาษาต้นฉบับ กับคำแปลในภาษาอื่น ๆ ไม่ตรงกัน หรือหากเมื่อมีข้อความในภาษาอื่นที่ชัดเจนกว่าในภาษาจีน ในกรณีของความคลาดเคลื่อนในการแปล ข้อความในภาษาจีนซึ่งเป็นภาษาต้นฉบับจะถือว่ามีความสำคัญสูงสุดเสมอ
- สมมติฐาน: เมื่อมีการขาดข้อมูล ข้อมูลมีความขัดแย้ง ข้อมูลส่วนขยายปรากฏในเนื้อเรื่องที่แตกต่างกัน เนื้อหาในเกมมีความผิดพลาดโดยจงใจ และมีความคลุมเครืออื่น ๆ บางครั้งผู้แก้ไขจึงตั้งสมมติฐานเพื่อกำหนดลำดับของเหตุการณ์หรือปริศนาบางอย่างจากเนื้อเรื่องที่ไม่ปะติดปะต่อให้เชื่อมโยงกัน ซึ่งเนื้อเรื่องและเรื่องราวใหม่ ๆ ในภายหลังอาจหักล้างหรือพิสูจน์ว่าสมมติฐานเหล่านี้ไม่ถูกต้อง หมายเหตุนี้จึงใช้เพื่อเป็นข้อสันนิษฐาน และขยายความตามเหตุผลของผู้แก้ไขในการหาข้อสรุปตามเนื้อเรื่องนั้น
หากคุณมีข้อคิดเห็นเพื่อช่วยเหลือในการพัฒนาบทความเกี่ยวกับไทม์ไลน์นี้ให้เหมาะสม สามารถแสดงความคิดเห็นและอ้างอิงถึงเหตุผลได้ที่ส่วนแสดงความคิดเห็นท้ายบทความ
โลกเก่า[]
เหตุการณ์ทั้งหมดต่างได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ยังไม่สามารถระบุให้ชัดเจนได้ในอดีต แต่สามารถระบุได้ว่าเกิดขึ้นก่อนการถือกำเนิดของ Morax เมื่อกว่า 6,000 ปีก่อน
ราชาโบราณทั้งเจ็ด[]
- มังกรและ Vishap เป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ที่ปกครองควบคุมโลก โดยมีราชาโบราณทั้งเจ็ดและราชามังกร Nibelung เป็นผู้นำ[1][2]
- สิ่งมีชีวิตธาตุทั้งหมดต่างมาจากภพแห่งแสง หรือที่รู้จักในชื่อ ภพแห่ง Vishap[3][4]
- ราชาโบราณทั้งเจ็ดต่างมีอำนาจเป็นผู้ถือครองหนึ่งในพลังธาตุทั้งเจ็ด และกลายมาเป็นมังกรที่ทรงพลังที่สุดในแต่ละพลังธาตุของตน[5][6] โลกจึงมีการแบ่งแยกออกไปตามมังกรแต่ละตน และสภาพดินแดนต่างถูกเปลี่ยนให้มีลักษณะคล้ายกับพลังธาตุของราชามังกรผู้ปกครองดินแดน[7]
- ใน Sumeru — Apep ได้ถือครองพลังธาตุไม้ เธอได้ปกครองดินแดนและเลี้ยงสิ่งมีชีวิตโบราณที่เก่าแก่ที่สุดอย่าง สิ่งมีชีวิตธาตุไม้[8]
- มังกรวารี ได้ถือครองพลังธาตุน้ำ และยังเป็นผู้ปกครองเหนือทะเลบรรพกาล จึงถือเป็น "เทพแห่งชีวิต" ดั้งเดิม ซึ่งทุกสิ่งมีชีวิตจากโลก ล้วนสามารถสืบย้อนต้นกำเนิดมาจากทะเลบรรพกาลได้ ด้วยเหตุนั้นทะเลดังกล่าวจึงถูกขนานนามว่าเป็น "น้ำแห่งการก่อกำเนิด"[9] ชีวิตที่อยู่ภายในทะเลบรรพกาลจึงมีลักษณะเป็นกลุ่มจิตวิญญาณร่วมกัน มากกว่าที่จะเป็นรูปร่างปัจเจกชีวิต[10]
บัลลังก์นิรันดร์บนสวรรค์[]
- กฎแห่งสวรรค์ (หรือที่รู้จักในชื่อ "ราชาองค์แรก" หรือ "บัลลังก์นิรันดร์บนสวรรค์") ได้ปรากฏตัวขึ้นบนโลก[7]
- Phanes ผู้ถูกระบุว่าเป็นราชาองค์แรก ได้ถือกำเนิดขึ้นจากไข่ โดยเกิดขึ้นมาในรูปร่างที่ไม่สามารถระบุเพศได้ โดยเพื่อที่จะสร้างโลก เขาจึงได้ทุบเปลือกไข่ให้แตก เพื่อนำมาใช้ในการสร้างพรมแดนระหว่าง "จักรวาล" และ "พิภพเล็ก ๆ ของโลก" จากนั้นเขาจึงได้ประกาศตนเป็นราชาที่แท้จริงและอ้างสิทธิ์เป็นสวรรค์จากบัลลังก์นิรันดร์ของตน
- ราชาองค์แรกได้เข้าต่อสู้กับราชาโบราณทั้งเจ็ด และได้สร้างเงาที่มีแสงสว่างขึ้นมา เป็นจำนวนสี่เงาของตนเอง เพื่อต่อสู้กับเหล่ามังกร ซึ่งเขาได้รับชัยชนะและได้สร้างโลกขึ้นมาใหม่[7]
- Istaroth เทพเจ้าแห่งกาลเวลาและสายลม คาดว่าจะเป็นหนึ่งในเงาทั้งสี่นั้น[7][สมมติฐาน 1]
- 40 ปีภายหลังจากที่กฎแห่งสวรรค์ปรากฏตัว — ราชาองค์แรกกับเงาทั้งสี่ได้รับชัยชนะเหนือราชาโบราณทั้งเจ็ด และโลกได้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของสวรรค์ ในขณะที่บรรดาผู้ใต้ปกครองเดิมของราชาโบราณทั้งเจ็ดได้หลบหนีออกสู่มหาสมุทร หลังจากนั้นราชาองค์แรกจึงได้เริ่มการสร้างสวรรค์และโลก เพื่อก่อร่างสร้างเหล่ามนุษย์และสิ่งต่าง ๆ ขึ้นภายหลังจากนั้น [7]
- เรื่องราวบทเพลงแห่งไข่มุก ― เมื่อถึงจุดหนึ่ง ได้มีอาณาจักรที่ถูกก่อตั้งขึ้นบนสวรรค์ โดยมีราชาและทายาทสองคน ทายาทคนแรกได้รับมอบหมายให้ออกเดินทางไปค้นหา "ไข่มุกแห่งการสร้าง" จากอาณาจักรแห่งความมืด แต่เธอกลับถูกหลอก และความทรงจำของเธอได้เปลี่ยนไป เธอได้เชื่อว่าตนเองเป็นราชินีของอาณาจักรแห่งความมืด ทำให้ทายาทคนที่สองได้ถูกส่งออกไปทำภารกิจเดียวกัน แต่ยังไม่เป็นที่ทราบว่า เขาจะได้ทำสำเร็จหรือไม่[11]
ยุคแรกสุด[]
- 400 ปีภายหลังจากที่ราชาองค์แรกปรากฏตัว — ราชาองค์แรกได้เสร็จสิ้นการเตรียมการโลกไว้เพื่อการอยู่อาศัยของมนุษย์ จากนั้นเขาและเงาร่างหนึ่งจึงได้สร้างทุก ๆ สิ่งมีชีวิตขึ้น และมนุษย์ได้สร้างพันธสัญญาไว้กับราชาองค์แรก ราชาองค์แรกจึงได้มี "แผนอันศักดิ์สิทธิ์" ไว้สำหรับเหล่ามนุษย์ ซึ่งยุคนี้ได้ถูกเรียกว่า "การเปิดเรืออาร์ค" ต่อมาเหล่ามนุษย์ได้ดูแลผืนแผ่นดินและเจริญรุ่งเรือง นำไปสู่ยุคที่เรียกว่า "ปีแห่งงานรื่นเริง"[7]
- เกิดอารยธรรมที่เป็นหนึ่งเดียวกันแผ่ขยายออกไปทั่วโลก โดยมีพื้นที่ของ Enkanomiya เป็นส่วนหนึ่งของอารยธรรมนั้น[3]
- Seelie ซึ่งครั้งหนึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีรูปร่างสวยงาม คล้ายคลึงมนุษย์ และมีสติปัญญาอันสูงส่ง ได้อาศัยอยู่ทั่วโลกและได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ชี้ทางให้กับเหล่ามนุษย์ เหล่า Seelie ได้สร้างอารยธรรมอันยิ่งใหญ่และเจริญรุ่งเรือง พร้อมกับสร้างพระราชวังขนาดใหญ่ขึ้น[12][13][หมายเหตุการแปล 1]
พี่น้องดวงจันทร์และ Seelie[]
- มีดวงจันทร์เกิดขึ้นทั้งสามดวง ซึ่งทั้งสามเป็นพี่น้องกันโดยมีชื่อว่า Aria, Sonnet และ Canon โดยทั้งสามได้อาศัยอยู่ภายในราชวังแห่งดวงจันทร์ และมีการสับเปลี่ยนตำแหน่งกันสามครั้งต่อเดือน เพื่อนั่งรถม้าสีเงินไปรอบสวรรค์ [14][15]
มหาสงคราม[]
- ? ปีก่อน — บุคคลที่รู้จักในนาม ราชาองค์ที่สอง หรือบัลลังก์ที่สองของสวรรค์ ได้ปรากฏตัวขึ้น ทำให้เกิดสงครามระหว่างราชาองค์แรกและราชาองค์ที่สอง ส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ฟ้าถล่มและดินทลาย[7][16]
- Enkanomiya ได้ตกลงไปในมหาสมุทรระหว่างเกิดภัยพิบัติ และได้ถูกตัดขาดจากโลกพื้นผิวภายนอก[7]
- ภายหลังสงคราม — ผู้ใดก็ตามที่จะได้รับชัยชนะและสามารถเข้ายึดครองสวรรค์ได้ ได้ถูกต้องห้ามมิให้รู้ถึงประวัติศาสตร์ที่มาของสงครามครั้งนี้[16]
- >6000 ปีก่อน — Morax เทพเจ้าผู้ครองพลังอำนาจแห่งหินได้ถือกำเนิดขึ้น[17]
- ~6000 ปีก่อน (เมื่อ Morax ยังเด็ก)[18] อาจเกิดขึ้นพร้อมกับเหตุการณ์ของราชาองค์ที่สอง — อารยธรรม Seelie ได้ถึงจุดจบลงอย่างกะทันหัน หลังจากที่บรรพบุรุษของ Seelie ตนหนึ่ง ได้ตกหลุมรักกับนักเดินทางคนหนึ่งจากแดนไกล ทำให้ผลจากคำสาปที่ถูกมอบไว้กับ Seelie ซึ่งจะถูกสาปให้โดนฉกฉวยซึ่งสติปัญญาและพละกำลังของ Seelie ทั้งหมดไป เมื่อ Seelie ตนใดตนหนึ่งได้ตกหลุมรักเข้ากับมนุษย์ หลังจากนั้นในสามสิบวันหลังจากที่ทั้งสองได้สัญญาว่าจะกลับมาพบกันที่ราชวังแห่งดวงจันทร์ ภัยพิบัติก็ได้เกิดขึ้นบนโลก ทั้งสองได้พยายามหลีกหนีจากภัยพิบัติ แต่ในท้ายที่สุดก็ไม่อาจหลีกหนีพ้น และได้ถูกสาปให้พรากจากกันชั่วนิรันดร์และยังได้ถูกสาปให้ความทรงจำทั้งหมดของทั้งสองเลือนหายไป[12][13]
- พี่น้องดวงจันทร์ทั้งสาม Aria, Sonnet และ Canon ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในหายนะที่เกิดขึ้นกับบรรพบุรุษของ Seelie และนักเดินทางจากแดนไกล และได้ไว้อาลัยให้กับชะตากรรมของทั้งสอง แต่โดยไม่ทราบสาเหตุ รถม้าสีเงินของพวกเขาได้ถูก "พลิกคว่ำ" และ "โถงแห่งดวงดาว" ได้ถูกทำลาย ในที่สุดพี่น้องทั้งสามจึงได้เปิดฉากฆ่ากันเอง และทิ้งไว้เพียงศพร่างหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันได้กลายมาเป็นดวงจันทร์อันโดดเดี่ยว[14][19]
- หมาป่าใน Teyvat ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับพี่น้องดวงจันทร์ทั้งสาม ได้ไว้อาลัยด้วยความโศกเศร้าให้กับชะตากรรมของพี่น้องดวงจันทร์[14]
- อารยธรรมที่สาบสูญได้สร้าง Spiral Abyss ซึ่งจะมีความเกี่ยวข้องเป็นอย่างมากกับดวงจันทร์และพี่น้องดวงจันทร์ทั้งสาม[20]
- ราชรถดวงตะวันได้ตกลงไปในทางทิศตะวันตก ซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่ Dunyu Ruins ทำให้เกิด The Chasm ขึ้น อันเป็นพื้นที่เหมืองซึ่งเจริญรุ่งเรืองที่ได้ค้ำจุนพื้นที่ Dunyu มาเป็นเวลานับพันปี จนกระทั่งได้เกิดภัยพิบัติขึ้นเมื่อ 500 ปีก่อน[21] ต่อมาชนในพื้นที่ได้ทำการซ่อมแซมราชรถนี้ และในท้ายที่สุดราชรถดังกล่าวก็ได้กลับคืนสู่ท้องฟ้าอีกครั้ง[18]
- ในตำนานเรื่องเล่าอีกเวอร์ชันหนึ่ง ราชรถดวงตะวันนั้น ไม่ใช่รถม้า แต่เป็นดวงดาวที่ตกลงไปในพื้นที่ซึ่งปัจจุบันถูกเรียกว่า The Chasm และได้กลับคืนสู่สวรรค์ด้วยตัวของมันเองในช่วงสงครามเทพอสูร[21]
- ภายหลังจากที่ภัยพิบัติได้เกิดขึ้น Seelie ผู้ใจสลายตนนั้น ก็ได้โศกเศร้าจนเหี่ยวเฉาลงกลายเป็นร่างเล็ก ๆ คล้ายกับวิญญาณตามที่ได้ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน Seelie ทั้งหมดได้ถูกสาปให้ลืมเลือนอดีต และได้ตามหาความทรงจำที่หลงเหลืออยู่โดยการพาเหล่านักเดินทางไปยังที่อยู่อาศัยเดิมของตนที่แท่นของ Seelie[12]
- แท่นของ Seelie ใน Enkanomiya ต่างมีสภาพที่ดีกว่าแท่นที่มีอยู่ใน Teyvat อย่างชัดเจน ซึ่งอาจแสดงให้เห็นว่าอารยธรรมของ Seelie นั้น ได้สิ้นสุดลงในเวลาที่ไล่เลี่ยกันกับ เมื่อ Enkanomiya ได้จมลงสู่มหาสมุทร และด้วยเหตุนี้ แท่นของ Seelie ที่มีอยู่ใน Enkanomiya จึงได้เผชิญกับสภาพอากาศที่น้อยกว่าแท่นที่มีอยู่ใน Teyvat
- นอกจากนี้ไม่ใช่ Seelie ทุกตนที่จะเกิดการเหี่ยวเฉา จนหดร่างเล็กลงและกลายมาเป็นร่างคล้ายวิญญาณเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมี Seelie เพียงบางตนที่ยังคงรักษารูปร่างแบบมนุษย์เอาไว้ได้ โดยภายหลังจากการล่มสลายของอารยธรรม Seelie ราชาหมาป่าตัวหนึ่ง (ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็น Andrius) ได้พบกับร่างที่หลงเหลืออยู่ของ Seelie ตนหนึ่ง ซึ่งยังไม่ได้เหี่ยวเฉาไป และได้กลายมาเป็นเพื่อนกับเธอ[13] ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า เธออาจเป็น "เทพเจ้าโบราณ" ที่ Andrius ได้รับพลังที่คล้ายกับเทพเจ้านั้นมาเป็นของตน[22]
- หนึ่งในเหล่าผู้รอดชีวิตจากเผ่าพันธุ์ของ Seelie นั้น มีแนวโน้มว่า Seelie ตนนั้น อาจจะได้กลายมาเป็นเทพแห่งมวลบุปผา ผู้ที่ต่อมาจะได้กลายมาเป็นเพื่อนกับท่านหญิง Rukkhadevata ผู้ยิ่งใหญ่ และราชา Deshret[23][24][สมมติฐาน 2]
Sumeru[]
- หนึ่งในเผ่าพันธุ์ Seelie ดั้งเดิมตนหนึ่ง มีแนวโน้มว่าต่อมาจะได้กลายมาเป็นเทพแห่งมวลบุปผา ผู้ซึ่งรอดชีวิตหลังจากการล่มสลายของอารยธรรม Seelie[23][25]
Fontaine[]
Fontaine/ประวัติศาสตร์
Oceanid[]
Fontaine/ประวัติศาสตร์
ยุคผู้ส่งสาสน์ของสวรรค์[]
หมายเหตุ: แม้จะยังไม่ชัดเจนว่า Celestia และผู้ส่งสาสน์ของสวรรค์ได้มีตัวตนขึ้นมาตั้งแต่เมื่อใด แต่อาจสันนิษฐานได้ว่า ผู้ส่งสาสน์ของสวรรค์ได้เริ่มปรากฏตัวขึ้นภายหลังจากเหตุการณ์ของบัลลังก์ที่สองของสวรรค์และการล่มสลายลงของอารยธรรม Seelie ซึ่งอารยธรรมใน Enkanomiya ก็ได้ล่มสลายลงในระหว่างเหตุการณ์ความขัดแย้งของบัลลังก์ที่สองของสวรรค์ ซึ่งได้ถูกกล่าวว่าอารยธรรมดังกล่าวพึ่งได้รับอิทธิพลเพียงเล็กน้อยมาจากผู้ส่งสาสน์ของสวรรค์ และอิทธิพลส่วนใหญ่มีแนวโน้มว่าจะมาจาก Orobashi[3][13]
- ? ปีก่อน — โลกได้ถูกปกคลุมไปด้วยธาตุต่าง ๆ — น้ำแข็ง, ไฟ และธาตุอื่น ๆ โดยไม่มีที่สิ้นสุด ผู้ส่งสาสน์ของเทพเจ้าได้ทำให้โลกมีความเหมาะสมต่อการอยู่อาศัยของมนุษย์และต่างก็ได้อยู่ร่วมกันกับเหล่ามนุษย์ ในขณะที่มนุษย์เองก็สามารถเข้าสื่อสารกับ Celestia ได้โดยตรง และต้น Irminsul ซึ่งได้เชื่อมต่อกับกระแสพลังภายในโลก ก็ได้เริ่มมีความสำคัญในพิธีกรรมของเหล่าอารยธรรมโบราณ
- ว่ากันว่า: มีช่วงเวลายุคหนึ่ง ที่คนบนพื้นดินยังสามารถฟังการชี้นำจากเกาะสวรรค์ได้โดยตรง ผู้ส่งสาสน์ของเทพเจ้าเดินอยู่ท่ามกลางผู้คนที่ไร้เดียงสา[26][27] ในเวลานั้นลมหายใจของทุกสิ่งอ่อนแอลง และโลกถูกแช่แข็งตลอดไป[26] ในเวลานั้นน้ำแข็งที่เป็นนิรันดร์เริ่มละลาย และไฟก็ได้ลุกโชนขึ้น[27] [...] ในเวลานั้นกองไฟเก่าได้มอดดับลง และสายฝนได้หลั่งลงมา[28] [...] ในเวลานั้นแม่น้ำและทะเลเหือดแห้ง และท้องฟ้าก็เริ่มคำราม[29]
- ธรรมชาติของโลกที่ Celestia ได้สร้างขึ้น ได้หมุนวนจนกลายมาเป็นวัฏจักร ซึ่งเหล่ามวลมนุษย์จะได้รับความเจริญรุ่งเรืองภายใต้พรของ Celestia ไปจนถึงจุดที่สิ้นสุด และภายหลังจากนั้น โลกก็จะได้รับการฟื้นฟูและเริ่มต้นใหม่กลับไปเป็นวัฏจักรเดิมอีกครั้ง[26] แต่เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่เหล่ามวลมนุษย์ไม่ควรจะได้รับการหยั่งรู้ถึง และเมื่อผู้คนได้เกิดความสงสัยว่าความเจริญรุ่งเรืองนี้จะยังคงอยู่ไปได้นานเท่าใด ทำให้ผู้ส่งสาสน์ของสวรรค์ได้แต่คงนิ่งเงียบไว้เท่านั้น[27][28]
- เพื่อที่จะได้รับคำตอบนี้จาก Celestia ผู้คนจึงได้แต่งตัวหัวหน้านักบวชขึ้น และให้เป็นผู้สวมมงกุฎซึ่งทำมาจากกิ่งไม้ของต้น Irminsul เพื่อมุ่งหน้าไปยังส่วนลึกของโลก และได้บรรลุถึงความเป็นจริงนั้น[27][28]
- หัวหน้านักบวชทุกคนที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่ง ได้มอบมงกุฎกิ่งไม้ Irminsul ของตนให้กับโลกในบริเวณโถงใต้ดิน และเมื่อเวลาผ่านไป จึงได้เกิดเป็นกองภูเขาที่มีมงกุฎกิ่งไม้สีขาวมากมาย ซึ่งสะสมรวมกันอยู่ใต้ต้นไม้ที่เหี่ยวเฉา[26]
- ? ปีก่อน — อารยธรรมหนึ่งซึ่งเปี่ยมไปด้วยปัญญาและได้เติบโตขึ้นมาด้วยความทะเยอทะยาน ได้ท้าทายอำนาจของเทพเจ้าและพยายามที่จะเข้าไปภายในสวนของเทพเจ้า จึงทำให้ผู้ส่งสาสน์ของสวรรค์โกรธ หัวหน้านักบวชผู้สวมมงกุฎกิ่งไม้ Irminsul จึงได้ออกเดินทางไปยังส่วนลึกของโลกเพื่อพยายามทำให้ผู้คนของอารยธรรมนั้นพึงพอใจ[28]
Sal Vindagnyr (Dragonspine)[]
Mondstadt/ประวัติศาสตร์
Enkanomiya[]
Inazuma/ประวัติศาสตร์
Khaenri'ah[]
Khaenri'ah/ประวัติศาสตร์
ก่อนสงครามเทพอสูร[]
Mondstadt[]
Mondstadt ยุคเก่า[]
Mondstadt/ประวัติศาสตร์
Liyue[]
Guili Assembly[]
Liyue/ประวัติศาสตร์
อารยธรรม Lisha[]
Liyue/ประวัติศาสตร์
ในพื้นที่อื่น ๆ ของ Liyue[]
Liyue/ประวัติศาสตร์
Inazuma[]
Inazuma/ประวัติศาสตร์
เกาะ Tsurumi[]
Inazuma/ประวัติศาสตร์
Sumeru[]
หมายเหตุ: ยังไม่ชัดเจนว่าอารยธรรมของเทพราชาทั้งสาม ทั้งการล่มสลาย และช่วงระยะเวลาของนครรัฐมนุษย์ต่าง ๆ ได้ดำรงอยู่ในช่วงใดเมื่อ "หลายพันปีก่อน" ดังนั้นจึงได้จัดไว้ชั่วคราวว่า อารยธรรมเหล่านั้นได้อยู่ในช่วงยุคก่อนสงครามเทพอสูร
- ท่านหญิง Rukkhadevata ผู้ยิ่งใหญ่ ในฐานะที่เป็นอวตารของต้น Irminsul ได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อนานมาแล้วในช่วงเวลาหนึ่งในอดีต[30][สมมติฐาน 3]
- ตามตำนาน ราชา Deshret เป็น "บุตรที่สวรรค์ทำหล่นไว้"[31] แต่เขาได้ถือกำเนิดขึ้นก่อนการล่มสลายของอารยธรรม Seelie และพี่น้องดวงจันทร์ทั้งสาม โดยได้รู้เรื่องราวของพวกเขาจากหญิงที่ไม่ถูกระบุชื่อ (อาจเป็น เทพแห่งมวลบุปผา หรือท่านหญิง Rukkhadevata ผู้ยิ่งใหญ่)[32][ความคลาดเคลื่อนของเนื้อเรื่อง 1]
ในสถานที่ที่ยังไม่แน่ชัดใน Teyvat[]
- ? ปีก่อน — Beast of Thunder ได้กดขี่และใช้มนุษย์เป็นทาสด้วยสายฟ้าและได้นำหายนะมาสู่แผ่นดิน Thundersoother ผู้ที่ครอบครัวได้ถูกสังหารลงเพื่อพิธีการสังเวยบางอย่าง จึงได้ไปที่รังของ Beast of Thunder ซึ่งอยู่ใกล้หรืออยู่ภายในภูเขาไฟ ต่อมาเขาจึงได้เข้าต่อสู้และตัดหัว Beast of Thunder ได้สำเร็จ และได้รับมงกุฎซึ่งได้มาจากความสำเร็จของเขา แต่กลับได้ใช้ชีวิตในช่วงเวลาสุดท้ายอย่างโดดเดี่ยว[33]
- ? ปีก่อน — บ้านเกิดของนักรบคลั่งได้ถูกเปลวไฟเผาไหม้ในระหว่างการต่อสู้ของเหล่าเทพและมนุษย์ คาดว่าเขาจะเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวและได้กลายมาเป็นนักรบที่ทรงพลัง หน้ากากเหล็กของนักรบได้ถูกไฟเผาและติดอยู่บนใบหน้าเมื่อบ้านเกิดของตนได้ล่มสลายไป นักรบจึงได้เกิดความคลั่งและต้องการที่จะแก้แค้นกับ Celestia ต่อมาเขาได้เริ่มออกอาละวาด โดยเข้าต่อสู้กับมนุษย์, สัตว์ประหลาด และเทพเจ้า ในช่วงหนึ่งเขาได้เข้าต่อสู้กับสัตว์ประหลาดยักษ์เพียงตัวเดียว โดยได้ใช้เวลาหลายปีก่อนที่จะสังหารมันได้สำเร็จ แต้ในท้ายที่สุด เขาก็ได้เสียชีวิตลง ไม่ว่าจากการต่อสู้หรือหลังจากการเอาชนะศัตรูคนสุดท้ายไป[34]
สงครามเทพอสูร (?–2000 ปีก่อน)[]
หมายเหตุ: "สงครามเทพอสูร" คือความขัดแย้งต่าง ๆ ที่ได้กระจัดกระจายตัวกันไปทั่ว Teyvat เพื่อตัดสินว่าใครจะได้กลายมาเป็นหนึ่งในเทพเจ้าทั้งเจ็ด ตัวอย่างเช่น ใน Liyue ได้เกิดสงครามเทพอสูรซึ่งเกิดการปะทะกันระหว่างเทพเจ้ามากมาย รวมถึง Morax, Guizhong, Havria, Osial และอื่น ๆ แต่ใน Mondstadt ได้เกิดความขัดแย้งที่เป็นที่รู้จักกันเพียงอย่างเดียว คือการต่อสู้กันระหว่าง Andrius และ Decarabian
- ? ปีก่อน — บัลลังก์ทั้งเจ็ดใน Celestia ได้เปิดขึ้น ทำให้เหล่าเทพเจ้าต้องพัวพันกับการต่อสู้อันขมขื่นเพื่อแย่งชิงมาซึ่งอำนาจสูงสุด[35]
- เทพเจ้าหลายตนได้เข้าต่อสู้ด้วยอุดมคติเพื่อให้มนุษยชาติได้เจริญรุ่งเรือง "เกิดขึ้นจากความมุ่งร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ พวกเขาคืออุดมคติที่ยังไม่สามารถทำให้เป็นจริง มันเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการใช้ชีวิตที่มีความสุข พวกมันลึกเท่ามหาสมุทรและซ้อนทับกันราวกับชั้นหิน แต่ไม่ได้มาเงียบ ๆ ตอนกลางคืนแน่"[36]
- ในช่วงสงครามเทพอสูร การต่อสู้ระหว่างเหล่าเทพเจ้าเป็นเพียงหนึ่งในสาเหตุของความขัดแย้งใน Teyvat; สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ก็ได้พยายามที่จะขยายอาณาเขตของตน โดยใช้ประโยชน์จากความโกลาหลเพื่อที่จะรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่[37]
Mondstadt[]
The Age of Kings[]
Mondstadt/ประวัติศาสตร์
Haar Islands (Golden Apple Archipelago)[]
Golden Apple Archipelago/ประวัติศาสตร์
Liyue[]
การล่มสลายของ Guili Assembly[]
Liyue/ประวัติศาสตร์
Inazuma[]
Inazuma/ประวัติศาสตร์
เกาะ Tsurumi[]
Inazuma/ประวัติศาสตร์
Sumeru[]
- เทพแห่งมวลบุปผา, ท่านหญิง Rukkhadevata ผู้ยิ่งใหญ่ และราชา Deshret ได้กลายมาเป็นเพื่อนกัน และได้รับการขนานนามว่าเป็นเทพราชาแห่ง Sumeru[23][25][40]
- ในช่วงเวลาหนึ่ง เทพแห่งมวลบุปผาได้ทำนายถึงการมาถึงของภัยพิบัติ เธอจึงได้สร้างชิ้นส่วนแห่งควาเรนาห์ขึ้น และได้ฝากมันเอาไว้ให้กับท่านหญิง Rukkhadevata ผู้ยิ่งใหญ่[41]
- ท่านหญิง Rukkhadevata ผู้ยิ่งใหญ่ ได้เปลี่ยนชิ้นส่วนแห่งควาเรนาห์ให้กลายมาเป็นวิหคศักดิ์สิทธิ์ ซีเมิร์ก และเธอได้มอบหมายให้ซีเมิร์ก "ปกป้องพรมแดนระหว่างความเป็นและความตาย"[41]
Ay-Khanoum[]
- เทพแห่งมวลบุปผา, ราชา Deshret และ ท่านหญิง Rukkhadevata ผู้ยิ่งใหญ่ — ผู้เป็นสามเทพราชาแห่ง Sumeru — ได้ร่วมกันสร้าง Ay-Khanoum "เมืองแห่งทวิอัฒจันทร์" ซึ่งมีความหมายว่า "เมืองแห่งธิดาจันทรา" ในภาษาของญินโบราณ[42][43]
- เทพแห่งมวลบุปผาถูกกล่าวว่ามี "ความสัมพันธ์ฉันมิตร" กับเหล่าญิน[43]
ป่าแห่งธรรมะ[]
หมายเหตุ: เหตุการณ์ในส่วนนี้ได้ถูกสันนิษฐานว่า อาจเกิดขึ้นพร้อมกับอารยธรรมของราชา Deshret และ Gurabad
อารยธรรมของราชา Deshret[]
Gurabad[]
ยุคนครรัฐ[]
Fontaine[]
Fontaine/History
Khaenri'ah[]
Khaenri'ah/ประวัติศาสตร์
หลังสงครามเทพอสูร[]
- 2000 ปีก่อน — สงครามเทพอสูรได้สิ้นสุดลง เมื่อมีการอ้างสิทธิ์ในบัลลังก์สุดท้ายบน Celestia ทำให้ตำแหน่งเทพของเทพเจ้าทั้งเจ็ดดั้งเดิมทั้งหมดได้รับการยืนยัน[44][45] เทพเจ้าผู้พ่ายแพ้ซึ่งปฏิเสธที่จะอยู่ภายใต้การปกครองของเทพเจ้าทั้งเจ็ด ได้หลบหนีออกไปยังเกาะต่าง ๆ ใน Dark Sea และกลายมาเป็นเทพปีศาจ[46]
- 2000–500 ปีก่อน — ในช่วง 1500 ปีที่ผ่านมา เทพดั้งเดิมแห่งน้ำแข็ง, ไม้, ไฟฟ้า, น้ำ และไฟ ได้เสียชีวิตลง คงเหลือเพียง Barbatos และ Morax เท่านั้นที่ยังคงมีชีวิตอยู่[44][47][17] ซึ่งไม่ทราบว่าตำแหน่งเหล่านั้นได้ถูกเปลี่ยนมาแล้วเป็นจำนวนกี่ครั้ง แต่ต่อมา ตำแหน่งดังกล่าวได้มีผู้เข้าแทนที่ ได้แก่ Tsaritsa, ท่านหญิงน้อย Kusanali, Ei, Focalors และ Murata ตามลำดับ โดยท่านหญิงน้อย Kusanali เป็นเทพที่มีอายุน้อยที่สุด ที่ได้ถือกำเนิดขึ้นมา ภายหลังจากการเกิดภัยพิบัติเมื่อ 500 ปีก่อน[17]
- เทพเจ้าทั้งเจ็ดดั้งเดิมต่างได้สาบานตนว่าจะทำหน้าที่ในการชี้นำมนุษย์อันเป็นความรับผิดชอบอันศักดิ์สิทธิ์ แต่ในปัจจุบัน หน้าที่ดังกล่าวไม่ได้กลายมาเป็นความรับผิดชอบของเทพเจ้าตนใหม่อีกต่อไป[47]
Mondstadt[]
ยุคขุนนางของ Mondstadt (2600–1000 ปีก่อน)[]
ก่อนยุคขุนนาง (2600–1600 ปีก่อน)[]
Mondstadt/ประวัติศาสตร์
หลังยุคขุนนาง (1600–1000 ปีก่อน)[]
Mondstadt/ประวัติศาสตร์
Mondstadt Reborn (1000–500 ปีก่อน)[]
Mondstadt/ประวัติศาสตร์
Liyue[]
Liyue/ประวัติศาสตร์
Inazuma[]
Inazuma/ประวัติศาสตร์
Fontaine[]
Fontaine/ประวัติศาสตร์
Natlan[]
- 2000 ปีก่อน ― ภายหลังจากที่สงครามเทพอสูรได้สิ้นสุดลง — Xbalanque ซึ่งเป็นมนุษย์ได้อ้างสิทธิ์ในบัลลังก์บน Celestia และขึ้นเป็นเทพเจ้าทั้งเจ็ด โดยได้เป็นเทพแห่งไฟคนแรก และได้ใช้บัลลังก์เทพดังกล่าวเพื่อยืมพลังจาก Ronova และสร้างกฎของ Natlan ขึ้นมา ทำให้ชาว Natlan ทั่วไปสามารถขึ้นมาเป็นเทพแห่งไฟได้[48]
- >1000 ปีก่อน ― ด้วยเหตุการณ์บางอย่าง เผ่าของ Vennessa — ผู้เป็นบุตรแห่ง Natlan — ได้ออกจาก Natlan และเร่ร่อนไปตามทุ่งหญ้าหลายชั่วอายุคน จนพวกเขาได้ถูกไล่ล่าจากมังกรร้ายเออร์ซ่า เมื่อ 1010 ปีก่อน[49] (ดูเพิ่มเติมที่ส่วนของ Vennessa)
- ? ปีก่อน ― Cochanina อดีตเทพแห่งไฟ ได้ขับไล่ราชาภูเขาไฟซึ่งยึดครองภูเขาไฟใหญ่ Tollan ให้ออกไปจากเผ่า "เหล่าวารี" แต่ราชาภูเขาไฟยังคงรอดชีวิตจากกระแสน้ำและกลับมายังชายฝั่งได้[50]
ก่อนภัยพิบัติ (>500 ปีก่อน)[]
Mondstadt[]
Mondstadt/ประวัติศาสตร์
Liyue[]
Liyue/ประวัติศาสตร์
Inazuma[]
Inazuma/ประวัติศาสตร์
Fontaine[]
Fontaine/ประวัติศาสตร์
Khaenri'ah[]
Khaenri'ah/ประวัติศาสตร์
ภัยพิบัติ (500 ปีก่อน)[]
- สัตว์ประหลาดจาก Abyss ได้บุกมายังโลกเบื้องบนของ Teyvat ทำให้เกิดหายนะกระจัดกระจายออกไปอย่างกว้างขวาง[51]
- อาณาจักร Khaenri'ah ได้ถูกทำลายลงโดยกฏแห่งสวรรค์[55] ทำให้เกิดการล่มสลายของราชวงศ์ Black Sun และอารยธรรมทั้งหมด[52] การล่มสลายของ Khaenri'ah จึงทำให้เกิดผลกระทบเป็นระลอกคลื่นอย่างรุนแรงตามมา[56]
- เทพเจ้าทั้งเจ็ดได้เข้ามาพัวพันในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ Khaenri'ah เนื่องมาจากการรุกรานโลกแห่ง Teyvat ของ Abyss[55][สมมติฐาน 4]
- Aether และ Lumine ได้ตกลงมายังโลกแห่ง Teyvat ขณะกำลังเดินทางก้าวข้ามผ่านโลกต่าง ๆ หลังจากที่โลกบ้านเกิดของตัวเองได้ถูกทำลายลง[57] ทั้งสองได้พุ่งชนเข้ากับพื้นดิน และได้หมดสติลงจากผลกระทบของ "อุกกาบาต" ของตัวเอง
- ฝาแฝดของนักเดินทาง ได้ตื่นขึ้นก่อน และได้เริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับโลกแห่ง Teyvat ต่อมาฝาแฝดได้พบเข้ากับเหตุการณ์ภัยพิบัติ[58] ที่เหล่าทวยเทพกำลังทำลาย Khaenri'ah ฝาแฝดจึงรีบกลับไปในจุดที่ตัวเองตกลงมา เพื่อรีบปลุกให้นักเดินทางตื่นขึ้น และพาไปดูเหตุการณ์การทำลายล้างที่เกิดขึ้นใน Khaenri'ah[59][60]
- เนื่องจากการเดินทางของฝาแฝดกับ Dainsleif ได้เกิดขึ้นภายหลังจากที่เหตุการณ์ภัยพิบัติได้เกิดขึ้นไปแล้ว จึงสันนิษฐานว่า ทั้งสองฝาแฝดพึ่งได้สำรวจ Teyvat ไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก่อนที่จะได้เผชิญเข้ากับเหตุการณ์ภัยพิบัติ[61][62][สมมติฐาน 5]
- ก่อนที่จะได้พบกับเทพเจ้านิรนาม Lumine ได้เหน็บดอก Inteyvat ไว้ที่ผมของเธอ[63][64]
- หากเลือก Aether เป็นนักเดินทาง Lumine จะเป็นคนที่เก็บดอกไม้นี้มาจาก Khaenri'ah เอง หากเลือก Lumine เป็นนักเดินทาง Aether จะเป็นผู้มอบดอกไม้นี้ให้กับเธอหลังจากที่เขาได้รีบกลับมาจาก Khaenri'ah เพื่อมาปลุกเธอ
- ฝาแฝดทั้งสองต่างพยายามที่จะออกไปจากโลกนี้ทันที แต่ได้ถูกเทพเจ้านิรนามเข้ามาขัดขวางไว้ ฝาแฝดทั้งสองจึงได้เข้าต่อสู้กับเทพเจ้านิรนาม ทำให้มีปีกและดาบพิเศษของพวกเขาปรากฏขึ้น และได้พยายามเป็นครั้งสุดท้ายในการออกไปจากโลกนี้ แต่ทั้งสองได้พ่ายแพ้ลง เมื่อเทพเจ้านิรนามได้กักขังฝาแฝดของนักเดินทางไว้ในในลูกบาศก์ จากนั้นนักเดินทางที่พยายามเข้าไปช่วยพี่น้องของตัวเอง ได้ถูกร่ายผนึกและต้องหลับใหลอยู่ในลูกบาศก์ จนกระทั่งได้ตื่นขึ้นมาในอีก 500 ปีข้างหน้า[59][63]
- ฝาแฝดของนักเดินทาง ได้ตื่นขึ้นก่อน และได้เริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับโลกแห่ง Teyvat ต่อมาฝาแฝดได้พบเข้ากับเหตุการณ์ภัยพิบัติ[58] ที่เหล่าทวยเทพกำลังทำลาย Khaenri'ah ฝาแฝดจึงรีบกลับไปในจุดที่ตัวเองตกลงมา เพื่อรีบปลุกให้นักเดินทางตื่นขึ้น และพาไปดูเหตุการณ์การทำลายล้างที่เกิดขึ้นใน Khaenri'ah[59][60]
Mondstadt[]
Mondstadt/ประวัติศาสตร์
Liyue[]
Liyue/ประวัติศาสตร์
Inazuma[]
Inazuma/ประวัติศาสตร์
Sumeru[]
- 500 ปีก่อน ― ท่านหญิง Rukkhadevata ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้เป็นเทพแห่งไม้องค์ก่อน ได้หายตัวไปในช่วงระหว่างการเกิดภัยพิบัติ[65][66]
- ราชาแห่งพงไพร Viaghara ได้เสียชีวิตลงในระหว่างการปกป้องป่า โดยในปัจจุบันได้มีผู้สืบทอดตำแหน่งนี้เป็นเหล่าสมิงเครายาว[67]
แดนจองจำแห่งผืนทราย[]
Fontaine[]
Fontaine/ประวัติศาสตร์
Natlan[]
- 500 ปีก่อน ― เทพเจ้าและผู้กล้าของชนเผ่าต่าง ๆ ได้วางแผนการใหญ่ในการช่วยเหลือ Natlan ที่ต้องใช้เวลายาวนานถึงห้าร้อยปี
- บุคคลในประวัติศาสตร์ที่มีชื่อว่า Tenoch ซึ่งเป็นที่รู้จักจากกระบองออบซิเดียนขนาดใหญ่ของเขา ได้เดินทางตามหาพันธมิตรและรวบรวมเผ่าทั้งหกของ Natlan เพื่อเข้าต่อสู้และปกป้อง Natlan จาก Abyss[69] และเขาพร้อมกับนักรบจำนวนมากได้เสียชีวิตลง โดยเขาได้สูญเสียนามโบราณไป ทำให้ไม่สามารถฟื้นคืนชีพในพิธีศังสกานท์คืนวิญญาณได้[48]
- ผู้กล้าและ Saurian จากเผ่า "บุตรแห่งเสียงสะท้อน" ได้ร่วมกันต่อสู้กับ Abyss โดยได้แกะสลักโฟลจิสตันแข็งเป็นตะปูหินขนาดใหญ่เรียกว่า "เข็มร้อยเงา" และหาวิธีใช้งาน "จารึกเรืองรอง" เพื่อผนึก Abyss ไว้ที่ใต้ดิน[70]
- Traore ผู้อาวุโสของเผ่าบุตรแห่งเสียงสะท้อน กับ Zephaniah และ Irizar ทหารสองนายจาก Khaenri'ah ได้ร่วมกันกับเผ่าบุตรแห่งเสียงสะท้อน เข้าต่อต้าน Abyss[71]
- Sundjatta หัวหน้าเผ่าบุตรแห่งเสียงสะท้อนและคู่หู Saurian ได้ติดตาม Tenoch[69] เพื่อเดินทางออกไปปราบอสูรยักษ์สีดำที่เกาะโดดเดี่ยวทางทิศตะวันตกของ Natlan[70][72]
- Burkina ผู้กล้าผู้มีนามโบราณ "
Malipo " จากเผ่า "พงศ์พิดานพฤกษา" และ Kongamato นักรบ Yumkasaurus (ปัจจุบัน คือ ราชาแห่งขุนเขา Yumkasaurus จอมตะกละ) ได้เข้าต่อสู้กับ Abyss จนได้รับชัยชนะ แต่จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ Burkina ได้เสียชีวิตลงและราชาแห่งขุนเขา Kongamato ได้ถูกปนเปื้อนจาก Abyss ทำให้มีอายุขัยยืนยาวกว่าปกติ และมีชีวิตมาจนถึงปัจจุบัน[73]
Khaenri'ah[]
Khaenri'ah/ประวัติศาสตร์
หลังภัยพิบัติ (500–100 ปีก่อน)[]
- จำนวนและกิจกรรมของ Hilichurl ใน Teyvat มีการเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นอย่างมาก[74] ซึ่งอาจแสดงให้เห็นว่า Hilichurl บางตัวอาจเคยเป็นชาว Khaenri'ah ที่ถูกเปลี่ยนร่างให้กลายมาเป็น Hilichurl ซึ่งเป็นการลงโทษมาจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้น
- <500 ปีก่อน — ฝาแฝดของนักเดินทาง ได้ตื่นขึ้นก่อน(อีกครั้ง) หลังจากได้ถูกกักขังโดยเทพเจ้านิรนาม
- ฝาแฝดได้ใช้เวลาออกเดินทางไปสักพักกับ Dainsleif จนกระทั่งพวกเขาได้พบกับ Eide (ชื่อจริงคือ Chlothar Alberich) ใน Sumeru ที่กำลังพยายามรักษา Caribert ลูกชายของเขาที่ได้กลายเป็น Hilichurl
- ภายหลังจากที่ Chlothar ได้เห็นปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นจากสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาด (ซึ่งคือ Vedrfolnir "
The Visionary " พี่ชายของ Dainsleif และหนึ่งใน "มหาบาปทั้งห้า" แห่ง Khaenri'ah) Chlothar จึงได้ประกาศการก่อตั้ง Abyss Order - ไม่นานภายหลังจากการก่อตั้ง Abyss Order ฝาแฝดได้แยกทางกับ Dainsleif เพื่อ "ตามหาความจริงของโลกใบนี้"[62][75]
- 100 ปีหลังจาก Abyss Order ได้ถูกก่อตั้ง ฝาแฝดของนักเดินทางได้ขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำของ Abyss Order[76][77]
- 13 กันยายน ภายหลังจากเหตุการณ์ภัยพิบัติ — Rhinedottir ได้สร้าง Albedo ขึ้น เขาได้เกิดภายหลังจากการล่มสลายของ Khaenri'ah และไม่อาจได้ทันอยู่เห็นประเทศนี้มาก่อน[53]
Mondstadt[]
Mondstadt/ประวัติศาสตร์
Liyue[]
Liyue/ประวัติศาสตร์
Inazuma[]
Inazuma/ประวัติศาสตร์
Sumeru[]
- 27 ธันวาคม <500 ปีก่อน ― ภายหลังจากเหตุการณ์ภัยพิบัติ ท่านหญิงน้อย Kusanali ได้ถือกำเนิดขึ้น และได้ขึ้นสู่ตำแหน่งเทพแห่งไม้แทนที่ ท่านหญิง Rukkhadevata ผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งได้หายตัวไปในระหว่างการเกิดความโกลาหลของภัยพิบัติ[17]
- ภายหลังจากเหตุการณ์ในเควสต์ Akasha ปลุกปั่น เปลวเพลิงลุกโชน ความทรงจำเกี่ยวกับท่านหญิง Rukkhadevata ผู้ยิ่งใหญ่ ได้ถูกลบออกจาก Teyvat ทุกคนจึงเชื่อว่าท่านหญิงน้อย Kusanali เป็นเทพเจ้าทั้งเจ็ดดั้งเดิมมาโดยตลอด รวมไปถึงตัวเธอเองก็เข้าใจเช่นนั้น และเธอยังได้สูญเสียความทรงจำและความรู้ทั้งหมดที่มีเกี่ยวกับเหตุการณ์ภัยพิบัติ ที่ได้ส่งผลให้เธอต้องถูกจองจำโดยเหล่านักปราชญ์
- >400 ปีก่อน ― วิหารแห่งความเงียบงัน ซึ่งเป็นองค์กรที่มาจากทะเลทรายและมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับความรู้ในยุคของราชา Deshret ได้แยกตัวออกไปจากป่าฝนเนื่องจากความไม่ไว้วางใจต่อเหล่านักปราชญ์ โดยได้กลับไปอยู่ในพื้นที่ทะเลทราย และได้ตั้งรกรากอยู่ภายในวิหารใต้ดินขนาดใหญ่ใน Thamud Oasis[78]
- เมื่อวิหารแห่งความเงียบงันได้แยกตัวออกไป ทางสถาบันจึงได้พยายามปกปิดการแยกตัวของพวกเขา และได้จัดตั้งองค์กรขึ้นมาใหม่เป็นฉากบังหน้า เพื่อทำหน้าที่รับผิดชอบในการควบคุมข้อมูลและเอกสารที่ไม่ควรเผยแพร่ในวงกว้าง
- 200 ปีก่อน ― นักวิชาการที่อัจฉริยะมากที่สุดคนหนึ่งของสถาบัน Sumeru (ก่อนหน้า Lisa) ได้สำเร็จการศึกษา[79]
- 20 สิงหาคม >120 ปีก่อน ― Faruzan เกิด
- >100 ปีก่อน ― Faruzan ได้ติดอยู่ในโบราณสถานที่เกี่ยวข้องกับอารยธรรมของราชา Deshret และไม่สามารถออกมาจากที่นั่นได้ จนกระทั่งเวลาได้ผ่านพ้นไป เป็นเวลาหนึ่งศตวรรษต่อมา
Fontaine[]
Fontaine/ประวัติศาสตร์
Snezhnaya[]
- ราชินี Tsaritsa ได้ตัดความสัมพันธ์กับ Barbatos ภายหลังจากเหตุการณ์ภัยพิบัติ[80]
- ? ปีก่อน — Pierro ได้กลายมาเป็นผู้บริหารคนแรกของ The Eleven Harbingers แห่ง Fatui[81]
อดีตไม่นานมานี้ (<100 ปีก่อน)[]
หมายเหตุ: หัวข้อย่อยด้านล่างนี้ได้จัดเรียงตามลำดับเวลา โดยประมาณตามอายุที่ปรากฏของตัวละคร
Mondstadt[]
Mondstadt/ประวัติศาสตร์
Liyue[]
Liyue/ประวัติศาสตร์
Inazuma[]
Inazuma/ประวัติศาสตร์
Sumeru[]
- 20 ปีก่อน ― พ่อของ Kaveh ซึ่งเป็นนักวิชาการจากภาควิชาอิลลูมิเนชั่นนิสม์ (คณะ Rtawahist) และเป็นเจ้าหน้าที่ของสถาบัน ได้เข้าร่วมการแข่งขันศึกชิงภาควิชาเจ้าปัญญา เพื่อที่จะชนะ และเอามงกุฎเจ้าปัญญามาให้กับลูกชายของเขา ต่อมาหลังจากที่เขาได้เข้าร่วมการแข่งขันได้ไม่นาน เขาได้พบกับ Sachin และได้รับอิทธิพลจากคำพูดของเขา เขาจึงได้เดินทางกลับบ้าน และบอกกับครอบครัวว่าตนกำลังจะเดินทางออกไปที่ทะเลทรายเพื่อไปยังหมู่บ้าน Aaru ในการช่วยเหลือชาวบ้านในด้านการเงินและด้านการแพทย์ ในท้ายที่สุด เขาก็ได้พบกับกองคาราวานที่ติดอยู่ในหลุมทรายดูด และเขาก็ได้เสียชีวิตลงขณะที่กำลังเข้าช่วยเหลือพวกเขาเอาไว้ ซึ่งต่อมาครอบครัวของเขาก็ได้ทราบข่าวการเสียชีวิตเป็นเวลาไม่นานภายหลังจากนั้น
- เมื่อ Kaveh ได้ถึงวัยเข้าเรียน เขาได้เริ่มเข้าเรียนในภาควิชาเทคโนโลยี (คณะ Kshahrewar) ภายหลังจากที่เขาได้ผ่านการสอบเข้าเรียน[82][สมมติฐาน 6]
- ? ปีก่อน[สมมติฐาน 7] ― ชายหนุ่มคนหนึ่งได้เข้าเรียนที่สถาบัน Sumeru โดยได้คาดหวังว่าจะได้ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการสร้าง "มนุษย์ที่ถูกปรับแต่ง" แต่เขาต่างได้ถูกเพื่อนและเหล่าอาจารย์พากันไม่ยอมรับในความคิดดังกล่าว Pierro จึงได้เข้าติดตามเขา เมื่อเขาได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับ "ความนอกรีต" นี้ และภายหลังจากนั้น ชายหนุ่มคนดังกล่าวจึงได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมอยู่ใน Fatui ในฐานะผู้บริหาร โดยมีนามว่า Il Dottore[83]
- 8 พฤษภาคม เมื่อ ? ปีก่อน ― Collei ได้เกิดที่ Sumeru[84] โดยได้เกิดมาพร้อมกับโรค Eleazar เธอจึงได้ถูกส่งตัวไปรักษากับหมอดูที่มีชื่อว่า Barnabas[85] โดยที่พ่อแม่ของเธอไม่รู้ว่า Barnabas นั้นเป็นสายลับของ Fatui ต่อมา Collei จึงได้กลายมาเป็นตัวทดลองของ Fatui สำหรับการทดลองเกี่ยวกับเศษที่หลงเหลือของเทพเจ้า[86][87]
- ? ปีก่อน ― Lisa ได้จบการศึกษาจากภาควิชาทฤษฎีธาตุ (คณะ Spantamad)[88] โดยใช้เวลาเพียงสองปีในการเข้าศึกษา ต่อมาเธอได้รู้สึกขัดแย้งกับบรรยากาศของสถาบัน จึงได้ออกเดินทางกลับไปยัง Mondstadt และได้เข้าร่วมกับกองอัศวินแห่ง Favonius[89]
- ? ปีก่อน ― 100 ปีหลังจากที่ Faruzan ได้ติดอยู่ในโบราณสถานของทะเลทราย ในที่สุดเธอก็ได้สามารถออกมาจากที่นั่นได้ และเธอก็ได้ถูกพบตัวในป่า Sumeru พร้อมกับได้มีวิชั่นปรากฏอยู่ที่ข้างตัวของเธอ[90]
- ? ปีก่อน ― Cyno ได้เริ่มเข้าเรียนในภาควิชาทฤษฎีธาตุ (คณะ Spantamad) โดยมี Cyrus เป็นอาจารย์ ซึ่งเขายังเป็นอาจารย์ของ Lisa อีกด้วย[91]
- ? ปีก่อน ― Faranak แม่ของ Kaveh ได้ย้ายไปอยู่ที่ Fontaine เพื่อไปทำงานในพื้นที่นั้น และต่อมา Kaveh ได้พบกันกับ Alhaitham ทำให้ต่อมาทั้งสองได้กลายมาเป็นเพื่อนกัน[82][92]
- Kaveh และ Alhaitham ได้เริ่มทำโครงการร่วมกันในหัวข้อ "การถอดรหัสแปลความจากอักษรรูนโบราณ และการออกแบบสถาปัตยกรรมในโบราณสถานของอารยธรรมยุคราชา Deshret" ซึ่งการมีส่วนร่วมของพวกเขา ได้มีส่วนช่วยในการสนับสนุนการวิจัยทางวิชาการและการพัฒนาทางด้านภาษาและสถาปัตยกรรมเป็นอย่างมาก
- ต่อมา Kaveh และ Alhaitham ได้เกิดความขัดแย้งกัน จนทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองต้องสิ้นสุดลง ทั้งสองได้ปะทะกันในวารสารทางวิชาการเป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งต่างได้วิจารณ์ในมุมมองของกันและกัน และยังทำให้โครงการที่พวกเขาได้ร่วมมือกันต้องหยุดชะงักลง เนื่องมาจากการขาดวิสัยทัศน์ร่วมกันของผู้ร่วมทำโครงการ
- ? ปีก่อน ― ปราชญ์ทั้งหกเริ่มมีมุมมองแนวคิดที่รุนแรงว่า ศิลปะคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ ทำให้สังคมเริ่มมีแนวคิดคล้อยตาม ส่งผลให้ผู้คนในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับศิลปะใน Sumeru ได้ถูกละเลยและถูกมองข้ามไป[93]
Fontaine[]
Fontaine/ประวัติศาสตร์
ในสถานที่ที่ยังไม่แน่ชัด[]
- Ajax ในวัย 14 ปี (ต่อมาเป็นที่รู้จักในชื่อ Tartaglia หรือ Childe) ได้หนีออกจากบ้านเพราะความเบื่อหน่าย และได้ตกลงไปใน Abyss เขาได้พบกับนักดาบหญิง ผู้มีชื่อว่า Skirk[94] เธอได้สอนให้เขารู้วิธีการเดินท่องไปใน Abyss และได้ฝึกฝนความสามารถในการต่อสู้ท่ามกลางธรรมชาติที่วุ่นวายปั่นป่วนของเขา ต่อมาหลังจากที่เขาได้อยู่ที่นั่นมาเป็นเวลาสามเดือน เขาได้กลับมายัง Teyvat ที่เวลาในโลกพึ่งผ่านไปเพียงแค่สามวัน หลังจากวันที่เขาได้หายตัวไป[95]
- ต่อมา Ajax ได้นำความขัดแย้งที่เขาเองได้ก่อขึ้นไว้เข้ามามากมาย ทำให้พ่อของเขาจำต้องส่งมอบเขาให้กับ Fatui และเพราะความสามารถในการต่อสู้ของเขา จึงได้ดึงดูดความสนใจของ Pulcinella ผู้บริหารลำดับที่ 5 ทำให้ Ajax จึงได้ถูกแต่งตั้งอย่างเป็นทางการให้เข้าร่วมอยู่ใน Fatui[96] จนเขาได้ไต่เต้าขึ้นมา และได้กลายมาเป็นผู้บริหารที่มีอายุน้อยที่สุดในบรรดาเหล่าผู้บริหารทั้งหมด[97][98]
- นักเดินทางได้ตื่นขึ้นหลังจากการต่อสู้กับเทพเจ้านิรนาม และได้พบว่าสภาพในปัจจุบันของ Teyvat นั้นได้ต่างไปจากเดิม เขาได้เร่ร่อนด้วยตัวคนเดียวอยู่ช่วงหนึ่ง จนกระทั่งได้พบกันกับ Paimon[99]
- 2 เดือนก่อน ― นักเดินทางได้พบกับ Paimon หลังจากที่ได้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้จากการจมน้ำด้วยการตกปลาขึ้นมา[63] หลังจากนั้นเธอได้สอนภาษาทั่วไปของ Teyvat ให้กับนักเดินทาง และได้แนะนำให้นักเดินทางตามหาเทพเจ้าทั้งเจ็ด โดยหวังว่าเทพเจ้าเหล่านั้นจะมีเบาะแสเกี่ยวกับฝาแฝดที่หายตัวไป
จุดเริ่มต้นการเดินทาง[]
- ปัจจุบัน― รอยเท้าของผู้พเนจร
- คนแปลกหน้าผู้มากับสายลม (อารัมภบท: ฉากที่ 1)
- ขุมทรัพย์โจรสลัด (เควสต์ระดับตำนานของ Kaeya: ฉากที่ 1)
- สายลม, ความกล้าและปีก (เควสต์ระดับตำนานของ Amber: ฉากที่ 1)
- งานแสนยุ่งเหยิง (เควสต์ระดับตำนานของ Lisa: ฉากที่ 1)
- การท่องเที่ยวทำอาหารใน Mondstadt (เควสต์ระดับตำนานของ Xiangling: ฉากที่ 1)
- นักดาบหนอนหนังสือ (เควสต์ระดับตำนานของ Xingqiu: ฉากที่ 1)
- เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ไม่มีน้ำตา (อารัมภบท: ฉากที่ 2)
- รายงานการสังเกตนักเดินทาง (เควสต์ระดับตำนานของ Albedo: ฉากที่ 1)
- บทเพลงแห่งมังกรและอิสรภาพ (อารัมภบท: ฉากที่ 3)
- หลักฐานการไม่อยู่ของ Darknight Hero (เควสต์ระดับตำนานของ Diluc: ฉากที่ 1)
- ความหมายของ Lupical (เควสต์ระดับตำนานของ Razor: ฉากที่ 1)
- สมบัติที่แท้จริง (เควสต์ระดับตำนานของ Klee: ฉากที่ 1)
- นอกเหนือออกไปจากท้องฟ้าของโลกแห่งนี้ (เควสต์ระดับตำนานของ Mona: ฉากที่ 1)
- วันหยุดของหัวหน้ากองอัศวิน (เควสต์ระดับตำนานของ Jean: ฉากที่ 1)
- หากติดอยู่ในที่ที่ไร้ลม (เควสต์ระดับตำนานของ Venti: ฉากที่ 1)
- ฟองคลื่นไม่หวนคืนสู่ทะเล (เควสต์ระดับตำนานของ Eula: ฉากที่ 1)
- สรรพสิ่งแห่งดินแดนหิน (บทที่ 1: ฉากที่ 1)
- ผีเสื้อกระดาษพิทักษ์ฝัน (เควสต์ระดับตำนานของ Xiao: ฉากที่ 1)
- ลาก่อน เทพโบราณ (บทที่ 1: ฉากที่ 2)
- แต่แล้วผีเสื้อกลับบินหนีไป (เควสต์ระดับตำนานของ Hu Tao: ฉากที่ 1)
- ดาราใหม่ฉายแสง (บทที่ 1: ฉากที่ 3)
- ดาราดับแสงที่รอวันกลับ (เวอร์ชัน 1.1)
- ชอล์กขาวและมังกรดำ (เวอร์ชัน 1.2)
- เทศกาล Lantern Rite (เวอร์ชัน 1.3)
- ผู้เฝ้าดูความเป็นไป - Dainsleif (บทที่ 1: ฉากที่ 4 - บทนำ)
- เสียงกระซิบจากดอกไม้ (เวอร์ชัน 1.4)
- เราจะได้พบกันในที่สุด (บทที่ 1: ฉากที่ 5)
- แผ่นควบคุมพลังงาน - การริเริ่ม (เวอร์ชัน 1.5)
- หินพิศวง (เควสต์ระดับตำนานของ Zhongli: ฉากที่ 2)
- ซัมเมอร์หรรษากับเกาะมหัศจรรย์ (เวอร์ชัน 1.6)
- สายลมแห่งฤดูใบไม้ร่วง (บทที่ 2: อารัมภบท)
- เทพเจ้าผู้เป็นนิรันดร์ที่ไม่สั่นคลอน (บทที่ 2: ฉากที่ 1)
- เรื่องราวของนกกระเรียน และกระต่ายขาว (เควสต์ระดับตำนานของ Kamisato Ayaka: ฉากที่ 1)
- ดั่งฝันดั่งไฟฟ้าที่เหนือกาลเวลา (เควสต์ระดับตำนานของ Yoimiya: ฉากที่ 1)
- ไร้พะวงปลงคะนึง (บทที่ 2: ฉากที่ 2)
- ตามรอยสายฟ้า (เวอร์ชัน 2.0)
- พันมือร้อยเนตรในโลกหล้า (บทที่ 2: ฉากที่ 3)
- ภาพสะท้อนแดนมนุษย์ (เควสต์ระดับตำนานของ Raiden Shogun: ฉากที่ 1)
- ความฝันของนักรบ กับผืนหญ้าในฤดูใบไม้ผลิ (เควสต์ระดับตำนานของ Sangonomiya Kokomi: ฉากที่ 1)
- จิตวิญญาณแห่งทองคำ (เควสต์ระดับตำนานของ Arataki Itto: ฉากที่ 1)
- แสงนวลเคล้าจันทร์ (เวอร์ชัน 2.1)
- ทหารผู้กล้าแห่งแดนพิศวง (เวอร์ชัน 2.2)
- ฝุ่นธุลีและเงาแห่งหิมะ (เวอร์ชัน 2.3)
- แสงสีสันแต่งแต้มท้องนภา (เวอร์ชัน 2.4)
- สังเวยเส้นทางสามภพ (เวอร์ชัน 2.5)
- ความฝันอันแสนสั้น (เควสต์ระดับตำนานของ Raiden Shogun: ฉากที่ 2)
- การถวาย Narukami อันยิ่งใหญ่ (เควสต์ระดับตำนานของ Yae Miko: ฉากที่ 1)
- สีสันวิจิตรแห่งสวนสีม่วง (เวอร์ชัน 2.6)
- ใบอาโอกิริที่ร่วงหล่น (เควสต์ระดับตำนานของ Kamisato Ayato: ฉากที่ 1)
- บทสวดสงบวิญญาณสะท้อนก้องหุบเหวลึก (บทที่ 2: ฉากที่ 4)
- ร่องรอยพิศวงบนเส้นทางอันตราย (บทสลับฉาก: ฉากที่ 2)
- ทลายแผนชิงรุกฆาต (เควสต์ระดับตำนานของ Yelan: ฉากที่ 1)
- บทกวีคิมหันต์ กับการเดินทาง ณ ทะเลแสนไกล (เวอร์ชัน 2.8)
- ถนนเปล่าเปลี่ยวของผู้ที่ถูกลืม (เควสต์ระดับตำนานของ Kaedehara Kazuha: ฉากที่ 1)
- ข้ามผ่านม่านหมอกควันและผืนป่าอันมืดมิด (บทที่ 3: ฉากที่ 1)
- สลักใจวัยเดียงสา (เวอร์ชัน 3.0)
- พันนวาระนำพารุ่งอรุณ (บทที่ 3: ฉากที่ 2)
- นิมิต มายา และการลวงหลอก (บทที่ 3: ฉากที่ 3)
- ราชันมงกุฎแดงและโหราจารย์ทั้งสาม (บทที่ 3: ฉากที่ 4)
- ห้วงทรายในความเงียบงัน (เควสต์ระดับตำนานของ Cyno: ฉากที่ 1)
- บทเพลงสั่นไหวในใบแก้ว (เวอร์ชัน 3.1)
- Akasha ปลุกปั่น เปลวเพลิงลุกโชน (บทที่ 3: ฉากที่ 5)
- ความอบอุ่นที่หลงเหลือ (เควสต์ระดับตำนานของ Nahida: ฉากที่ 1)
- ชุมนุมลวงตา (เควสต์ระดับตำนานของ Alhaitham: ฉากที่ 1)
- "โลหิตราชสีห์" (เควสต์ระดับตำนานของ Dehya: ฉากที่ 1)
- พระวิหารที่ล่มสลาย (บทสลับฉาก: ฉากที่ 3)
- การแข่งขันสุดยอดเห็ดอัจฉริยะ (เวอร์ชัน 3.2)
- งานประชันความกล้า Akitsu (เวอร์ชัน 3.3)
- ลำนำเพลงบรรเลงก้องราตรี (เวอร์ชัน 3.4)
- Caribert (บทที่ 3: ฉากที่ 6)
- พรจากสายลมและดอกไม้ (เวอร์ชัน 3.5)
- นิทรรศการกรรมบถบ่วงปัญญา (เวอร์ชัน 3.6)
- หวนคืนบ้านเกิด (เควสต์ระดับตำนานของ Nahida: ฉากที่ 2)
- ดูเอล! สุดยอดนักอัญเชิญ! (เวอร์ชัน 3.7)
- การเดินทางไขว่คว้าดวงดาว (เควสต์ระดับตำนานของ Yoimiya: ฉากที่ 2)
- ฤดูร้อน! สวนสนุก? แดนมายาลับ! (เวอร์ชัน 3.8)
- ศึกปราการจักรกล (เวอร์ชัน 4.0)
- บทนำแห่งน้ำค้างขาวและคลื่นดำ (บทที่ 4: ฉากที่ 1)
- ไร้เหตุผลที่ฝนปราย (บทที่ 4: ฉากที่ 2)
- หัวขโมยที่ถูกลืม (เควสต์ระดับตำนานของ Lyney: ฉากที่ 1)
- ลำนำแห่งธารา (เวอร์ชัน 4.1)
- มุ่งสู่ดวงดาวใต้สมุทร (บทที่ 4: ฉากที่ 3)
- ช่วงเวลาสุดท้ายก่อนคำพยากรณ์จะถือกำเนิด (บทที่ 4: ฉากที่ 4)
- แผลเป็นที่หลงเหลือจากอดีต (เควสต์ระดับตำนานของ Neuvillette: ฉากที่ 1)
- การเกิดใหม่ในดินแดนแห่งความเคียดแค้น (เควสต์ระดับตำนานของ Wriothesley: ฉากที่ 1)
- การผจญภัยสุดมหัศจรรย์ของ Thelxie (เวอร์ชัน 4.2)
- การเต้นรำของคนบาป (บทที่ 4: ฉากที่ 5)
- "ธิดาแห่งสายน้ำ" (เควสต์ระดับตำนานของ Furina: ฉากที่ 1)
- กุหลาบและศัสตรา (เวอร์ชัน 4.3)
- ร่วมฟันฝ่ากระแสคลื่น (เควสต์ระดับตำนานของ Navia: ฉากที่ 1)
- สายลมวสันต์ผลิบาน (เวอร์ชัน 4.4)
- แสงจันทร์พันลี้ (เควสต์ระดับตำนานของ Xianyun: ฉากที่ 1)
- โพชั่นพารวย (เวอร์ชัน 4.5)
- เมื่อพวกเขาเอ่ยถึงราตรีนี้ (เควสต์ระดับตำนานของ Chiori: ฉากที่ 1)
- ทัวร์ชีวิตร็อกสีรุ้งของ Arataki (เวอร์ชัน 4.6)
- เมื่อเตาเพลิงดับมอด (เควสต์ระดับตำนานของ Arlecchino: ฉากที่ 1)
- การจำลองเสริมความปลอดภัย (เวอร์ชัน 4.7)
- นิทานก่อนนอน (บทที่ 4: ฉากที่ 6)
- ราตรีไร้เสียง (เควสต์ระดับตำนานของ Clorinde: ฉากที่ 1)
- คนแปลกหน้าผู้มากับสายลม (อารัมภบท: ฉากที่ 1)
หมายเหตุ[]
ความคลาดเคลื่อนของเนื้อเรื่อง[]
- ↑ ใน เรื่องราวของ Al-Ahmar ได้แสดงให้เห็นว่าครั้งหนึ่งราชา Deshret อาจเคยอาศัยอยู่บน Celestia มาก่อน แต่ใน เรื่องราวของเด็กเลี้ยงแกะกับขวดวิเศษ (ได้ระบุว่าเขาพึ่งได้เรียนรู้เรื่องราวของพี่น้องดวงจันทร์มาจากญิน) หรือในคำอธิบายอาวุธ Staff of the Scarlet Sands (ซึ่งเล่ามาจากมุมมองของราชา Deshret และได้กล่าวว่า "เธอ" — ซึ่งอาจเป็นเทพแห่งมวลบุปผาหรือท่านหญิง Rukkhadevata ผู้ยิ่งใหญ่ — เป็นผู้เล่าเรื่องราวให้เขาฟัง) ด้วยความแตกต่างกันนี้ จึงยังทำให้ไม่ได้รับการยืนยันในเรื่องดังกล่าวอย่างชัดเจน
หมายเหตุการแปล[]
- ↑ ในข้อความต้นฉบับภาษาจีนของหนังสือ เรื่องราวของลูกค้าขี้เมา (ตอนที่ 3) ในประโยคที่ว่า "ดินแดนรกร้างในตำนานนั้นเป็นดินแดนที่ไม่มีเทพเจ้า ที่นั่นมีเพียงร่องรอยของเหล่าภูตผี ที่ถูกทิ้งไว้โดยเทพอสูรโบราณ และราชวังอันว่างเปล่าของเหล่า Seelie ในอดีต" ซึ่งการใช้คำว่า "เทพเจ้า" ได้หมายถึงเทพเจ้าทั้งเจ็ด และคำว่า "เทพอสูรโบราณ" ได้หมายถึง เทพเจ้าผู้กำเนิดก่อนการมีเทพเจ้าทั้งเจ็ด ดังนั้นจึงสามารถสันนิษฐานได้ว่า อารยธรรมของ Seelie และการขยายอารยธรรมของมนุษย์โบราณ ได้แผ่ขยายออกไปทั่วทั้งโลก ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ในระดับพื้นผิวของทวีป Teyvat เท่านั้น ที่เทพเจ้าทั้งเจ็ดได้ปกครองอยู่ ณ ขณะนี้
สมมติฐาน[]
- ↑ ใน "อดีตของตะวันและจันทรา" ผู้เขียนอ้างว่าในช่วง "ปีแรกแห่งความมืดมิด" ราชาองค์แรกและเงาเรืองแสง "ทั้งสาม" ไม่อาจได้ยินเสียงคร่ำครวญของผู้คน ปล่อยให้อีกเงาหนึ่งอยู่โดยไม่คำนึง และใน "ปีที่สามแห่งความมืดมิด" ผู้เขียนเรียก Istaroth ว่าเป็น "ผู้เดียวที่ไม่เคยทอดทิ้งพวกเรา" ทำให้เธอน่าจะเป็นเงาเดียวที่พวกเขา(เชื่อว่า)ได้รับรู้เสียงคร่ำครวญของพวกเขา
- ↑ ในคำอธิบายของ Staff of the Scarlet Sands ได้เล่าเรื่องราวหนึ่งซึ่งเป็นคำพูดมาจากมุมมองของราชา Deshret โดยคำว่า "เธอ" ที่เขาได้กล่าวถึงนั้น ไม่ได้มีการระบุโดยชัดเจนว่าได้ใช้กับใคร แต่จากการตีความนั้น "เธอ" ในที่นี้ควรจะหมายถึง เทพแห่งมวลบุปผา ซึ่งจะสามารถยืนยันได้ จากคำบอกเล่าของ Arama ในเควสต์ เพื่อพวกเด็ก ๆ ในอดีต
- ↑ เมื่อ Sal Vindagnyr ซึ่งเป็นหนึ่งในอารยธรรมในยุคทูตสวรรค์ได้ล่มสลายลง หลังจากที่ต้นไม้สีขาวโบราณ (ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะมีความคล้ายคลึงหรือเป็นกิ่งก้านสาขาของต้น Irminsul) ได้ถูกทำลายลงโดย "กรงเล็บแห่งความหนาว" (Skyfrost Nail) จึงอาจสันนิษฐานได้ว่า ต้น Irminsul อาจจะมีอยู่จริงในยุคนั้น อย่างไรก็ตาม ข้อมูลนี้ไม่ได้ระบุว่า ท่านหญิง Rukkhadevata ผู้ยิ่งใหญ่ ได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อใด
- ↑ ในคลิป ธีมวิดีโอตัวละคร Raiden Shogun - "ฝันร้าย" และ ธีมวิดีโอ Genshin Impact - "ฝันที่สัญญากับผู้คน" ซึ่งได้บรรยายเหตุการณ์ต่าง ๆ ตามลำดับเวลา โดยการเสียชีวิตของ Kitsune Saiguu จากการโจมตีของ Abyss ได้ถูกแสดงให้เห็นก่อนการตายของ Makoto ซึ่งเห็นเป็นภาพ Khaenri'ah จึงสันนิษฐานได้ว่า Abyss ได้เข้าโจมตี Teyvat ก่อนที่เทพเจ้าทั้งเจ็ดจะเข้าไปพัวพันกับ Khaenri'ah แต่ก็ไม่ได้ลบความเป็นไปได้ที่เทพเจ้าใน Celestia จะเป็นผู้เริ่มเข้าโจมตี Khaenri'ah ก่อน
- ↑ เมื่อฝาแฝดของนักเดินทางได้มาพบกับเหตุการณ์ภัยพิบัติ แสดงว่าทั้งสองอาจจะได้เดินทางรอบโลกมาแล้วอย่างน้อยสักช่วงหนึ่งก่อน แต่เมื่อปรากฏว่า ฝาแฝดพึ่งจะเริ่มออกเดินทางรอบ Teyvat ไปกับ Dainsleif หลังจากเหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งนั้น จึงหมายความว่า ฝาแฝดทั้งสองพึ่งจะเคยสำรวจดินแดนนั้นไปแล้วเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ทำให้ภายหลังต้องออกมาเดินทางด้วยตัวเอง แต่ในกรณีหลังนี้ ยังไม่ได้มีข้อมูลยืนยันระบุไว้ ในที่ใด ๆ ของเนื้อเรื่อง
- ↑ ในเรื่องราวของตัวละคร 2 ของ Kaveh ได้อธิบายว่า เมื่อเขาได้ถึงวัยเข้าเรียนและได้เริ่มเรียนที่สถาบัน ได้เป็นช่วงเวลาช่วงเดียวกันกับที่พ่อของเขาได้เสียชีวิตลง ซึ่งได้รับการยืนยันแล้วว่าได้เสียชีวิตไปเมื่อ 20 ปีก่อนจากเรื่องราวในกิจกรรมนิทรรศการกรรมบถบ่วงปัญญา จากการที่เรื่องราวได้ใช้ถ้อยคำอย่างคลุมเครือนี้ จึงอาจบอกได้ว่า Kaveh นั้น อาจได้ถึงวัยเข้าเรียนแล้ว ในช่วงหลายเดือนถึงหนึ่งปีให้หลัง จากวันที่พ่อของเขาได้เสียชีวิตลง
- ↑ Il Dottore ได้เคยเข้าเรียนที่สถาบัน Sumeru ในช่วงเวลาหนึ่งในอดีต แต่ยังไม่สามารถระบุช่วงเวลาดังกล่าวให้ชัดเจนได้ ซึ่งการมีอยู่ของ "ชิ้นส่วน" ของเขา ทำให้อายุที่แท้จริงของเขายังคงเป็นปริศนา จนกว่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติม วิกินี้จึงได้ถือว่า เขาได้เข้าเรียนที่สถาบัน Sumeru ภายในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา
อ้างอิง[]
- ↑ บันทึก, สิ่งมีชีวิต, ศัตรูและมอนสเตอร์, สัตว์อสูรลึกลับ: Primordial Bathysmal Vishap
- ↑ หากลืมเลือนตัวตนแห่งตน ในเควสต์ระดับตำนานของ Nahida บทแห่งจ้าวปัญญา: ฉากที่ 2 - หวนคืนบ้านเกิด
- ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 เควสต์โลก บันทึกสนธยาแห่ง Byakuyakoku: บททดสอบแห่งถ้ำมังกรและงู
- ↑ 4.0 4.1 หนังสือ: คอลเลกชัน Byakuyakoku, เล่มที่ 4 - บันทึกการทดลอง Bathysmal Vishap
- ↑ กิจกรรม เควสต์ระดับตำนาน สังเวยเส้นทางสามภพ - คืนก่อนวันสำคัญ ในสังเวยเส้นทางสามภพ: ปัดเป่าหมอกใต้ทะเลลึก
- ↑ เควสต์เทพเจ้า ก้าวย่างแห่งหายนะ ในบทที่ 4: ฉากที่ 4 - ช่วงเวลาสุดท้ายก่อนคำพยากรณ์จะถือกำเนิด
- ↑ 7.0 7.1 7.2 7.3 7.4 7.5 7.6 7.7 7.8 หนังสือ: คอลเลกชัน Byakuyakoku, เล่มที่ 2 - อดีตของตะวันและจันทรา
- ↑ เควสต์ระดับตำนานของ Nahida บทแห่งจ้าวปัญญา: ฉากที่ 2 - หวนคืนบ้านเกิด
- ↑ เรื่องราวของตัวละคร Neuvillette: เพลงกล่อมเด็กของ Fontaine
- ↑ เครื่องร่อนเวหา: Wings of Merciful, Wrathful Waters
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อGnostic Chorus
- ↑ 12.0 12.1 12.2 หนังสือ: บันทึกอันน่าทึ่งของ Jueyun ตอนที่ 4 - วิญญาณแห่งภูเขา
- ↑ 13.0 13.1 13.2 13.3 หนังสือ: เรื่องราวของลูกค้าขี้เมา ตอนที่ 3
- ↑ 14.0 14.1 14.2 หนังสือ: ป่าไผ่ใต้แสงจันทร์ยามค่ำคืน ตอนที่ 3
- ↑ หนังสือ: ความฝันที่แตกสลาย ตอนที่ 3
- ↑ 16.0 16.1 16.2 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ3 Martial Trials
- ↑ 17.0 17.1 17.2 17.3 17.4 เควสต์เทพเจ้า บทที่ 1 ฉากที่ 3 - ดาราใหม่ฉายแสง ส่วนที่ 3: กลิ่นของความเดียวดาย
- ↑ 18.0 18.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อSolar Relic
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อStaff of the Scarlet Sands
- ↑ คำอธิบายทางการ: Spiral Abyss
- ↑ 21.0 21.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อROJ6
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อLupus Boreas
- ↑ 23.0 23.1 23.2 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อFor the Children of the Past
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อStaff of the Scarlet Sands2
- ↑ 25.0 25.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อScroll of Streaming Song
- ↑ 26.0 26.1 26.2 26.3 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อPTS
- ↑ 27.0 27.1 27.2 27.3 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อPFI
- ↑ 28.0 28.1 28.2 28.3 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อPFD
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อPFW
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อBoat
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อTLAA
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อSotSS
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อThundersoother
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อBerserker
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อTLTF
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อDivine Body from Guyun
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อThat Which Rises From the Sea
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อPiece of Aerosiderite
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อSerpent Spine
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อGilded Dreams
- ↑ 41.0 41.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อVourukasha's Glow
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อShepherd
- ↑ 43.0 43.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อOAM
- ↑ 44.0 44.1 44.2 เควสต์เทพเจ้า บทที่ 1 ฉากที่ 3 - ดาราใหม่ฉายแสง ส่วนที่ 2: ความเสมอภาค
- ↑ เรื่องราวตัวละครของ Zhongli: เรื่องราวของตัวละคร 5
- ↑ วัสดุเลื่อนขั้นอาวุธ: Bit of Aerosiderite
- ↑ 47.0 47.1 47.2 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อZhongli 5
- ↑ 48.0 48.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อEoL
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อMNG - P
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อSurf's Up
- ↑ 51.0 51.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อChunk of Aerosiderite
- ↑ 52.0 52.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อBAF1
- ↑ 53.0 53.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อSnowy
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อCleansing Light
- ↑ 55.0 55.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อPromise of a People's Dream
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อOfficial Site
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อSword of Descension
- ↑ 59.0 59.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อTraveler 1
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อAHWOA - traveler wakes up
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อIn the Depths, an Unexpected Reunion
- ↑ 62.0 62.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อA Toast to Victory
- ↑ 63.0 63.1 63.2 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อAQ0-0
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อAQ2-4-3
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อVV
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อThe Folio of Foliage
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อPaF
- ↑ 69.0 69.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อTalking Stick
- ↑ 70.0 70.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อBtCR
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อPttS
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อTVLatSP
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อAHR
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อHilichurl
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อBough Keeper: Dainsleif
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อWhen the Wind Dies Down
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อA Soul Set Apart
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อCynoSQ1
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อLisa Details
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อEnding Note
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อTartaglia Delusion
- ↑ 82.0 82.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อKaveh 2
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อWise Doctor's Pinion
- ↑ บทนำทางการของ Collei: การเติบโตคือการเอาชนะเรื่องราวในอดีต
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อCHAP11
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อCHAP3
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อCHAP12
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อLayla About Lisa
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อLisa 4
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อFaruzan Vision
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อCyno About Lisa
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อKaveh 5
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อKaveh 3
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อTartaglia About Skirk
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อTartaglia 4
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อTartaglia 5
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อTartaglia Details
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อTartaglia 1
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อTravelerCS2
หน้าอื่นๆ[]
|