Genshin Impact Wiki
Genshin Impact Wiki
Advertisement
Genshin Impact Wiki

เจ็ดผู้ทรงอำนาจของโลก หรือเรียกอย่างสั้น ๆ ว่า เจ็ดเทพ[1] เป็นเจ็ดเทพเจ้าผู้ปกครองเหนือพื้นที่เจ็ดประเทศของ Teyvat ซึ่งได้ถูกก่อตั้งขึ้นภายหลังจากการได้รับชัยชนะในสงครามเทพอสูรเมื่อ 2,000 ปีก่อน โดยเทพแต่ละตนจะมีความเกี่ยวข้องกับธาตุและอุดมคติที่แตกต่างกัน ซึ่งเหล่าเทพดังกล่าวต่างได้สร้างสภาพแวดล้อมของอาณาเขตของตน และได้กำหนดวิธีการปกครองประเทศเป็นของตนเอง

เทพแต่ละตนจะมีอุปกรณ์เวทมนตร์ภายนอกที่เรียกว่า โนซิส ซึ่งใช้เพื่อช่วยให้ตนสามารถสอดประสานกับ Celestia ได้โดยตรง[2] โดยเมื่อเปรียบเทียบกับวิชั่น วิชั่นนั้นจะเป็นเพียงอุปกรณ์เวทมนตร์ที่มีระดับขั้นต้นกว่า แม้ในปัจจุบันจะยังไม่ทราบถึงความสามารถและจุดประสงค์ของโนซิสอย่างแน่ชัด นอกเหนือจากการใช้แสดงถึงสัญลักษณ์ของความเป็นเทพเจ้า ซึ่งเทพแต่ละตนจะถูกผูกมัดกับบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์ และจะได้รับพลังอำนาจส่วนหนึ่งซึ่งเดิมเป็นของเหล่าราชาโบราณทั้งเจ็ด ให้ได้รับพลังอำนาจเหนือธาตุนั้น ๆ[3]

จากเควสต์เทพเจ้า บทที่ 4: ฉากที่ 5 - การเต้นรำของคนบาป ได้เหลือบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์เพียงหกบัลลังก์เท่านั้น เนื่องจากบัลลังก์ของเทพแห่งน้ำได้ถูกทำลายลง และพลังอำนาจแห่งเทพได้ถูกมอบคืนให้กับราชามังกรวารี ส่งผลให้จำนวนลำดับเดิมของเทพเจ้าทั้งเจ็ดได้ถูกเปลี่ยนแปลงไป[3]

ประวัติ[]

สงครามเทพอสูรได้เริ่มต้นขึ้นในช่วงเวลาที่ยังไม่ทราบโดยแน่ชัดในอดีต และได้สิ้นสุดลงเมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อน โดยในช่วงเวลาดังกล่าว เทพเจ้าและเทพอสูรจำนวนมาก ต่างต้องท่องออกไปทั่วดินแดน และต้องถูกกักขังอยู่ในการต่อสู้อันขมขื่นเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจสูงสุด ซึ่งได้ปรากฏว่าในการต่อสู้ที่เกี่ยวข้องกับสงครามเทพอสูร เป็นการต่อสู้ของฝูงชนในท้องถิ่นที่ต่างต้องดิ้นรนกันตามประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ตัวอย่างเช่น ในช่วงเวลาที่ Barbatos ได้กลายมาเป็นเทพแห่งลมคนแรกในบรรดาเทพเจ้าทั้งเจ็ด หลังจากการตายของ Decarabian เมื่อ 2,600 ปีที่แล้ว[4] ขณะที่ Morax ได้บอกเป็นนัยว่า ตนได้กลายมาเป็นเทพแห่งหินแล้ว ตั้งแต่ช่วงเวลาที่เทพเจ้าทั้งเจ็ดดั้งเดิมคนสุดท้ายได้อ้างสิทธิ์ในการเป็นเทพเจ้า จึงได้นำมาสู่จุดสิ้นสุดของสงคราม[5]

เทพเจ้าทั้งเจ็ดดั้งเดิมต่างได้ปรากฏว่ามีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างใกล้ชิดกัน โดยมีหน้าที่ร่วมกันเพื่อชี้นำทางให้กับมนุษย์ และมักจะมีการรวมตัวกันเพื่อดื่มพูดคุยกันที่ Liyue แต่เมื่อเวลาผ่านไป ห้าในเจ็ดเทพเจ้าได้เสียชีวิตลง และในบรรดาเทพเจ้าตนใหม่ต่างก็ไม่ได้เริ่มมีการทำหน้าที่ในการชี้นำมนุษย์อีกต่อไป[5]

ภัยพิบัติ[]

เมื่อ 500 ปีก่อน ได้เกิดการทำลายล้าง Khaenri'ah นำไปสู่ปัญหาเกี่ยวกับความรู้ต้องห้าม และเกิดการอาละวาดของสิ่งมีชีวิตที่ Rhinedottir สร้างขึ้น ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากพลังของ Abyss และได้ปะทุเข้าทำลายล้างโลกแห่ง Teyvat อย่างรุนแรง[6] ในเหตุการณ์ดังกล่าวได้ทำให้มีเทพเจ้าที่ต้องเสียชีวิตลง ได้แก่ ท่านหญิง Rukkhadevata ผู้ยิ่งใหญ่, Raiden Makoto และ Egeria ซึ่งต่อมาตำแหน่งของเทพเจ้าดังกล่าวได้ถูกแทนที่โดย ท่านหญิงน้อย Kusanali, Raiden Ei และ Focalors ตามลำดับ นอกจากนี้ ราชินี Tsaritsa ยังได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากจากภัยพิบัติดังกล่าว ส่งผลให้เธอมีลักษณะบุคลิกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรุนแรง

เทพเจ้าทั้งเจ็ดได้ถูกเรียกตัวไปยัง Tunigi Hollow ซึ่งเป็นสถานที่ปนเปื้อนไปด้วยความรู้ต้องห้ามและมีสัตว์ประหลาดปรากฏอยู่อย่างร้ายแรงที่สุด โดยในระหว่างการต่อสู้ Egeria ได้ถูกสังหารลง และร่างของเธอได้กลายสภาพมาเป็นสระน้ำเรียกว่า หยาดอมฤต[7] โดยเพื่อยังคงรักษาความบริสุทธิ์ของน้ำไว้และยึดโยงเทพเจ้าเอาไว้กับดินแดนมนุษย์ ท่านหญิง Rukkhadevata ผู้ยิ่งใหญ่จึงได้ปลูก Harvisptokhm ซึ่งทำหน้าที่เป็นผนึกไว้เหนือห้วงทมิฬ เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งชั่วร้ายสามารถแพร่กระจายออกไปได้ไกลจากหยาดอมฤตได้อีก[8] โดยบรรดา Oceanid ที่เคยรับใช้อดีตเทพแห่งน้ำ แต่ไม่ลงรอยกับ Focalors[9] ได้เดินทางไปยัง Harvisptokhm เพื่อตามหาเจ้านายของตน แต่เมื่อเห็นว่าสถานะปัจจุบันของเธอไม่ได้เป็นไปตามที่คาดเอาไว้[10] บรรดา Oceanid จึงตัดสินใจที่จะเดินทางกระจัดกระจายออกไปยังทั่วทวีปและทั่วโลก[11]

ในช่วงเวลานี้ นักเดินทางและฝาแฝดได้ลงมายัง Teyvat แต่เมื่อได้เห็นถึงความวุ่นวาย จึงพยายามที่จะหลบหนีออกจากโลกนี้ แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับเทพเจ้านิรนาม แม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้พบกับเทพเจ้าทั้งเจ็ดในช่วงเวลานี้ แต่เหล่าเทพเจ้าต่างก็ได้รับรู้ถึงการเดินทางเข้ามาและได้เฝ้ารอการมาถึงของนักเดินทาง[12]

เมื่อประมาณ 400 ปีก่อน[13] Ei ได้เสร็จสิ้นการวิจัยเกี่ยวกับการสร้างหุ่นเชิดเสมือนจริง ซึ่งได้ถูกเรียกว่า "โชกุน" เพื่อใช้บังคับควบคุมต่อมุมมองเกี่ยวกับความเป็นนิรันดร์เหนือ Inazuma ในขณะที่ตนเองได้กลับเข้าไปอยู่ในดินแดนแห่งใจที่บริสุทธิ์[14] ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชกุนจึงได้เป็นผู้ที่ปกครอง Inazuma แทน แม้ว่าต่อมา Ei จะล้มเหลวในการสร้างหุ่นเชิดให้เข้ากันได้กับโนซิส จึงได้มอบโนซิสไว้ให้กับ Yae Miko เป็นผู้รักษาแทน แต่หุ่นโชกุนก็ยังสามารถทำงานได้ออกมาอย่างน่าเกรงขามในฐานะเทพเจ้า แม้จะไม่ได้มีโนซิสก็ตาม

พลังและความสามารถ[]

ต้นกำเนิดพลังอำนาจของเทพเจ้า มีที่มาประกอบจากสามแหล่งหลักด้วยกัน ได้แก่ หนึ่งจากการขึ้นมาเป็นผู้นำในดินแดนพื้นที่ของตน[1] สองจากความเชื่อและความศรัทธาของประชาชนของตน และสามจากพลังส่วนหนึ่งซึ่งเป็นชิ้นส่วนพลังธาตุที่ราชาองค์แรกได้ขโมยมาจากเหล่าราชาโบราณทั้งเจ็ด[15] โดย Barbatos ได้ปฏิเสธที่จะปกครอง Mondstadt โดยตรง และได้ออกจาก Mondstadt ไปเป็นระยะเวลานานในอดีต เขาจึงกล่าวว่าตนเองเป็นเทพเจ้าที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาเทพเจ้าทั้งเจ็ด ในขณะที่ท่านหญิงน้อย Kusanali ผู้ถูกคุมขังอยู่ใน Sanctuary of Surasthana และได้ถูกละเลยจากเหล่านักปราชญ์ ตั้งแต่เธอได้เกิดขึ้นมาเมื่อ 500 ปีก่อน เป็นเรื่องที่อาจอธิบายว่า เพราะเหตุใดพลังในการต่อสู้ของ Nahida จึงมีพลังที่อ่อนแอกว่านักเดินทาง เนื่องจากเธอไม่ได้รับพลังอำนาจจากความยึดถือศรัทธาของประชาชนในดินแดนของเธอ

เทพเจ้าทั้งเจ็ดถูกมองว่าต่างมีข้อมูลส่วนตัวกันสำหรับเทพ ซึ่งผู้คนทั่วไปไม่สามารถรู้ถึงหรือมองว่าเป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้นมาเท่านั้น ซึ่งทั้ง Venti และ Zhongli ต่างเป็นผู้ที่รับรู้ถึงการมีอยู่ของโลกอื่น เช่นเดียวกับที่รู้ว่านักเดินทางมีพลังที่สามารถเดินทางข้ามผ่านไปยังโลกต่าง ๆ ได้

การควบคุมธาตุ[]

เทพเจ้าแต่ละตนต่างมีหน้าที่ในการปกครองพลังธาตุของตนเอง และใช้พลังธาตุนั้นในการสร้างภูมิประเทศและภูมิอากาศบนดินแดนที่ตนปกครอง ความสามารถดังกล่าวนี้อาจเป็นสิ่งที่เทพอสูรทุกตน ซึ่งนอกเหนือจากเทพเจ้าทั้งเจ็ดก็สามารถกระทำได้ แต่นับตั้งแต่การสิ้นสุดของสงครามเทพอสูรเป็นต้นมา ได้เหลือเทพเจ้าเพียงเจ็ดตนเท่านั้นที่มีอำนาจในการควบคุมพลังธาตุต่าง ๆ ได้

แตกต่างจากมนุษย์ซึ่งต้องอาศัยการประสานพลังกับวิชั่นในการใช้พลังธาตุ เหล่าเทพในปัจจุบันจะมีความเกี่ยวข้องกับธาตุของพวกเขาก่อนที่จะกลายเป็นเทพ: เช่น เดิมที Barbatos เป็นภูติลมที่ขึ้นสู่ความเป็นเทพเจ้า ในบันทึกทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับ Morax เรียกเขาว่า "เทพแห่งหินผา" นานก่อนที่เขาจะกลายมาเป็น เทพแห่งหิน และ Ei (ตัวแทนของ Makoto) เป็น "ร่างอวตารของเทพสายฟ้า" และอวตารของ Buer ซึ่งคือ Rukkhadevata และ Nahida ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้พิทักษ์ดูแลรักษาต้นไม้แห่ง Irminsul โดย Nahida ถูกสร้างขึ้นโดยใช้กิ่งของ Irminsul เพื่อยืนยันความสัมพันธ์ระหว่าง Irminsul และธาตุไม้

แม้ผู้คนใน Teyvat มักเชื่อว่าเจ็ดเทพให้วิชั่นผู้คน แต่แท้จริงพวกเขาไม่สามารถควบคุมการให้วิชั่นได้ และอาจไม่ทราบถึงสถานการณ์ต่างๆ หรือสิ่งที่เกิดขึ้นจากวิชั่น อย่างไรก็ตาม ภายในดินแดนแห่งใจที่บริสุทธิ์ Ei สามารถใช้เอฟเฟกต์ "คำสั่งล่าวิชั่น" เพื่อปิดผนึกสกิลธาตุและท่าไม้ตายของตัวละครทั้งหมดยกเว้นนักเดินทาง แต่เนื่องจากดินแดนแห่งใจที่บริสุทธิ์เป็นมิติส่วนตัวของ Ei จึงไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะระบุได้ว่าเอฟเฟกต์นี้ทำงานอย่างไร หรือ Ei สามารถออกคำสั่งนี้ได้ทุกที่หรือไม่

โนซิส[]

ถึงแม้ "โนซิส" ซึ่งช่วยสอดประสานเหล่าเทพกับ Celestia และบ่งบอกความเป็นเจ็ดเทพ แต่พวกเขาดูจะไม่พึ่งพลังนั้นมากนัก และจุดประสงค์และความสามารถที่แท้จริงยังคงเป็นปริศนา แต่ก็เห็นได้ชัดว่าโนซิสมอบพลังมหาศาลให้กับเจ็ดเทพ และ "อำนาจ" ในการปกป้องภูมิภาคของพวกเขาและ Zhongli ยังเคยระบุว่าความสามารถในการสร้างเหรียญ Mora เป็นสิ่งที่ "ต้องใช้พลังของเทพแห่งหิน" นอกจากนี้ การใช้พลังของโนซิสไม่ได้จำกัดเฉพาะเทพที่เกี่ยวข้อง เนื่องจาก Nahida ยังใช้พลังของโนซิสธาตุไฟฟ้าเพื่อช่วยในการรักษา Irminsul

บัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์[]

Qiqi JP 700k Twitter Icon
หน้าเพจนี้ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
หากคุณมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ โปรดคลิกที่นี่เพื่อแก้ไขและเพิ่มข้อมูล

(รอการเพิ่มเติม)

การสร้างร่างมนุษย์[]

เจ็ดเทพสามารถสร้างร่างคล้ายมนุษย์โดยใช้พลังจากการเป็นเจ็ดเทพ และนำไปใช้ชีวิตในหลายๆ เหตุการณ์ (สันนิษฐานว่ามาจากการใช้โนซิส) ร่างมนุษย์ของ Venti เป็นการใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเขาได้ค้นพบครั้งแรกหลังจากก้าวขึ้นสู่ความเป็นเทพเจ้าในฐานะเทพแห่งลม ร่างกายของ Zhongli คาดว่าถูกสร้างขึ้นด้วยวิธีนี้เช่นกัน จากที่เขาเคยกล่าวว่า "ร่างกายของเขาไม่เหมือนกับมนุษย์ทั่วไป"

แม้ว่าทวยเทพจะเป็นอมตะ แต่ร่างกายภาพที่สร้างด้วยพลังของเจ็ดเทพก็มีอายุขัยที่จำกัดและสามารถ "ถูกฆ่า" ได้ และสติสัมปชัญญะอาจจางหายไปได้เช่นกัน ภายในเนื้อเรื่อง หลังจากเจ็ดเทพดั้งเดิม 5 องค์เสียชีวิตและถูกแทนที่ Ei ได้ครุ่นคิดหาวิธีเอาชนะอายุขัยทางกาย และสำเร็จกับการสร้างหุ่นเชิดสังเคราะห์ที่มองไม่ออก ซึ่งเธอใช้ในการสร้าง Scaramouche และ Raiden Shogun หลังมอบโนซิสให้กับ Yae Miko เพื่อความปลอดภัย Ei ได้ทิ้งร่างตนเองไป แม้โชกุนจะเตือนว่าจะหันหลังกลับไม่ได้ถ้าเสียร่างไปแล้วก็ตาม ทำให้ในปัจจุบัน Ei ต้องใช้ร่างของหุ่นเชิดแทนตัวเธอเองภายนอกดินแดนแห่งใจที่บริสุทธิ์

ร่างมนุษย์ที่สร้างขึ้นจากพลังของ Archon มีจุดอ่อนที่สำคัญอีกประการหนึ่ง: ร่างนั้นไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีการธรรมดา และวิธีการรักษาของผู้ถือวิชั่นได้ ในเนื้อเรื่อง Venti จึงได้ใช้ สัญลักษณ์ของฮีโร่แห่ง Mondstadt สองครั้งเพื่อรักษาตนเอง; ครั้งแรกคือการล้างเวทมนตร์ จาก Abyss ทีทำพิษตนผ่านทาง Dvalin แต่นักเดินทางเผลอขัดพวกเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ และครั้งที่สองคือการฟื้นตัวหลังโดน Signora ขโมยโนซิส คุณสมบัติของต้นไม้นี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่อาจมีความเกี่ยวพันกับ Celestia: โดยตามตำนาน ต้นไม้แห่งนี้เติบโตจากจุดที่ Venessa ขึ้นสู่ Celestia

สมาชิก[]

ประเทศ ภาพ ชื่อส่วนตัว ชื่อโกเอติก ชื่อเรียกอื่น ๆ อุดมคติ เวลาขึ้นปกครอง
(ปีก่อน)
สถานะ[A]
Anemo
Mondstadt
Venti Icon
Venti Barbatos ไม่มี อิสรภาพ 2,600 มีชีวิตอยู่
Geo
Liyue
Zhongli Icon
Zhongli Morax Rex Lapis, ราชาแห่งหิน, ลอร์ดแห่งหิน พันธสัญญา 2,000+[16][B] มีชีวิตอยู่
Electro
Inazuma
Raiden Shogun Icon Ei Beelzebul[17][C] Raiden Shogun นิรันดร์ 500[D] มีชีวิตอยู่
Raiden Makoto Icon Makoto Baal[17][C] 2,000+ เสียชีวิต
Dendro
Sumeru
Nahida Icon Nahida Buer[15] ท่านหญิงน้อย Kusanali ปัญญา 500[18]
2,000+[19][E]
มีชีวิตอยู่
Rukkhadevata Icon ไม่ทราบ ไม่ทราบ ท่านหญิง Rukkhadevata ผู้ยิ่งใหญ่ 2,000+[20] เสียชีวิต[18]
ถูกลบออก[19]
Hydro
Fontaine[F]
Focalors Icon ไม่ทราบ[G][H] Focalors ราชินีแห่งผืนน้ำ แผ่นดิน ประชาชน และกฎหมาย ความยุติธรรม[I] 500[7] เสียชีวิต
Egeria Icon Egeria[21] ไม่ทราบ จ้าวแห่งหยาดอมฤต[22][23] 2,000+ เสียชีวิต[9]
Pyro
Natlan
Mavuika Icon Mavuika Haborym[24][J] Kiongozi[25] สงคราม < 100[K][26]
500[27][L]
มีชีวิตอยู่
Unknown Icon Xumucul[28] 1,000+[28] เสียชีวิต[29][M]
Unknown Icon Cochanina[30] 1,000+[28] เสียชีวิต[29][M]
Unknown Icon Ndenge[28] 1,000+[28] เสียชีวิต[29][M]
Unknown Icon ไม่ทราบ, ผู้กล้าที่มีตาสีแดง[31] 2,000+ เสียชีวิต[32]
Xbalanque Icon Xbalanque 2,000+ เสียชีวิต[33]
Cryo
Snezhnaya
Unknown Icon ไม่ทราบ ไม่ทราบ จักรพรรดินีน้ำแข็ง, ราชินี Tsaritsa ไม่ทราบ[N] 500[O] มีชีวิตอยู่
Unknown Icon ไม่ทราบ ไม่ทราบ ไม่ทราบ ไม่ทราบ 2,000+ เสียชีวิต
หมายเหตุ
  1. แม้ว่าเทพเจ้าที่ยังมีชีวิตอยู่ทั้งหมดในตารางนี้จะยังคงถือครองบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์ของตนเองอยู่ แต่เนื่องจากความคลุมเครือในเรื่องของการพิจารณาว่า การเป็นเทพเจ้าทั้งเจ็ดนั้นจำเป็นต้องมีโนซิสครอบครองอยู่หรือไม่ คอลัมน์นี้จึงได้ใช้การจำแนกเพียง มีชีวิตอยู่, เสียชีวิต, ถูกลบออก และ ไม่ทราบ เท่านั้น สำหรับสถานะ ถูกลบออก จะใช้เฉพาะกับผู้ที่ถูกลบออกจาก Irminsul เท่านั้น
  2. แม้ว่า Morax จะมีอายุมามากกว่า 6,000 ปี แต่ก็พึ่งได้รับการเคารพให้เป็นเทพแห่งหินหลังจากที่ได้รับตำแหน่งหนึ่งในเทพเจ้าทั้งเจ็ด ซึ่งไม่ทราบโดยแน่ชัดว่าได้เกิดขึ้นเมื่อใด แม้ว่าในเรื่องราวของตัวละคร 5 ของ Zhongli จะระบุว่า เขาไม่ใช่คนสุดท้ายที่ได้ขึ้นสู่ตำแหน่งเทพเจ้าในเวลานั้น
  3. 3.0 3.1 แม้ว่าชื่อ Baal จะถูกใช้เพื่อเรียกรวม ๆ ถึงทั้ง Makoto และ Ei เหมือนเป็นคนเดียวกัน แต่ในเควสต์ความปรารถนา ได้เปิดเผยว่าชื่อ Baal เป็นชื่อของ Makoto และไม่ได้เป็นชื่อของ Ei ดังนั้น Baal จึงถือเป็นชื่อของ Makoto เท่านั้น
  4. แม้ว่า Makoto และ Ei จะเป็นผู้ชนะในสงครามเทพอสูรมาด้วยกัน แต่ Ei ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นหนึ่งในเทพเจ้าทั้งเจ็ดดั้งเดิม โดยเมื่ออ้างอิงตามทฤษฎีประหลาดของ Chouken Shinkageuchi หลังจากที่ทั้งสองได้ชนะในสงครามเทพอสูร Ei ได้สละร่างกายของตนเพื่อให้ Makoto สามารถขึ้นสู่ตำแหน่งเทพแห่งสายฟ้าได้ ซึ่งในภายหลัง Makoto ก็ได้เรียกวิญญาณของ Ei กลับคืน และสร้างร่างกายของเธอให้กลับขึ้นมาใหม่
  5. ในปัจจุบัน ท่านหญิงน้อย Kusanali ได้ถูกเชื่อว่าเป็นเทพแห่งพฤกษาองค์แรกมาตั้งแต่ต้น เนื่องจากการมีอยู่ของท่านหญิง Rukkhadevata ผู้ยิ่งใหญ่ได้ถูกลบออกไปจาก Irminsul
  6. บัลลังก์ของเทพแห่งน้ำได้ถูกทำลายลงไปพร้อมกับ Focalors ในช่วงระหว่างเควสต์เทพเจ้า บทที่ 4 จึงทำให้ในปัจจุบันไม่ได้มีเทพแห่งน้ำอีกต่อไป
  7. Furina ไม่ถือว่าเป็นหนึ่งในเทพเจ้าทั้งเจ็ด เนื่องจากเธอไม่ได้ครอบครองพลังแห่งความเป็นเทพเจ้าโดยสมบูรณ์มาจาก Focalors และเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาโดยสมบูรณ์เท่านั้น ซึ่งในบทสนทนาระหว่าง Focalors กับ Furina ที่ปรากฏในเควสต์เทพเจ้า ละครแห่งคลื่นดำและน้ำค้างขาว ที่ Focalors ได้มอบหมายให้ Furina ได้แสดงให้ตนเองเป็นเหมือนกับเทพเจ้า โดยไม่ได้ให้เป็นหรือพยายามที่จะเป็นเทพเจ้าจริง ๆ แม้ว่างานของ Furina จะเป็นงานที่มีความจำเป็นและสำคัญมาก แต่ Focalors เองก็ไม่ได้บอกข้อมูลใด ๆ ให้กับ Furina เลย เพื่อให้ Furina สามารถแสดงเป็นเทพเจ้าให้ได้น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังไม่ได้อธิบายสถานการณ์ความเป็นจริงและมอบพลังใด ๆ ให้กับ Furina เพื่อให้สามารถอ้างถึงความเป็นเทพแห่งน้ำได้เลย
  8. ภายหลังจากที่ Focalors ได้แยกความเป็นเทพและความทรงจำของเธอออกจากร่างกาย Focalors ได้ตั้งชื่อร่างกายมนุษย์ที่เธอหลงเหลือไว้ว่า "Furina" ซึ่งยังไม่ทราบที่มาของชื่อดังกล่าวอย่างแน่ชัด แต่ในสายตาของ Focalors ได้มองว่า Furina เป็นเหมือนกับมนุษย์ที่แท้จริง และเป็นมนุษย์ในอุดมคติที่ Focalors ปรารถนาที่จะเป็น
  9. ในเควสต์การเต้นรำของคนบาป Focalors ระบุว่า ความยุติธรรมของ Egeria คือ "การดำรงอยู่" และความยุติธรรมของ Focalors เองคือ "การดำรงอยู่ต่อไป" เทพทั้งสองจึงถือเป็นเทพแห่งความยุติธรรมเหมือนกัน
  10. อาวุธ: A Thousand Blazing Suns
    ในนามแห่ง "Haborym" ชีวิตได้กลายเป็นเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีวันมอดดับ และกฎจะถูกหล่อหลอมเป็นบัลลังก์เทพที่ลุกโชนตลอดกาล
    ในคำอธิบายของอาวุธได้บ่งบอกว่า Xbalanque ได้เคยถือครองชื่อว่า Haborym ซึ่งหมายความว่าเทพแห่งไฟองค์อื่น ๆ ก็เคยได้ถือครองชื่อนี้เช่นเดียวกัน
  11. Kachina กล่าวว่า Mavuika "เอาชนะได้อย่างขาดลอย" ในพิธีจาริกเพลิงศักดิ์สิทธิ์หวนคืน ซึ่งทำให้เธอได้กลายมาเป็นเทพเจ้าของ Natlan อีกครั้ง แม้ว่า Kachina จะไม่ทราบมาก่อนว่า Mavuika ได้เคยเป็นเทพแห่งไฟมาแล้วเมื่อ 500 ปีก่อน
  12. Mavuika ได้ขึ้นสู่ตำแหน่งเทพเจ้าในช่วงเหตุการณ์ภัยพิบัติ แต่เธอก็ได้ใส่ชีวิตของตนเองเอาไว้ในเพลิงศักดิ์สิทธิ์ เพื่อที่จะฟื้นคืนชีพกลับขึ้นมาอีกครั้งในอีก 500 ปีข้างหน้า โดยเธอได้กล่าวว่า ชีวิตของเธอขึ้นอยู่กับการลุกไหม้ของเพลิงศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งหมายความว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ตราบเท่าที่เพลิงศักดิ์สิทธิ์ยังคงลุกไหม้อยู่
  13. 13.0 13.1 13.2 เนื่องจากตำแหน่งเทพแห่งไฟได้ถูกสืบทอดโดยมนุษย์ผู้ที่ผ่านการชนะในพิธีจาริกเพลิงศักดิ์สิทธิ์หวนคืน ซึ่งพวกเขาต่างตกอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของอายุขัย แม้ว่าเทพแห่งไฟบางคนอาจมีอายุที่ยืนยาวกว่ามนุษย์ทั่วไป แต่สามารถสันนิษฐานได้ว่า เทพแห่งไฟคนก่อนหน้าทั้งหมดที่ได้รู้จักในปัจจุบันต่างได้เสียชีวิตลงทั้งหมดแล้ว เนื่องจากพวกเขามีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่ผ่านไปกว่าสองถึงสามศตวรรษแล้ว
  14. ในบท Teyvat ตัวอย่างเควสต์หลัก - "รอยเท้า" Dainsleif ได้กล่าวเป็นนัยว่า อุดมคติดั้งเดิมของ Tsaritsa คือ "ความรัก" ซึ่งเขาได้พูดในลักษณะที่เป็นอุดมคติในอดีตไปแล้ว ขณะที่ Zhongli ได้หลีกเลี่ยงที่จะกล่าวถึงอุดมคติของเธอในช่วงเควสต์ ตัวเมือง ทำให้ยังไม่สามารถยืนยันได้โดยชัดเจน
  15. ราชินี Tsaritsa อาจเป็นเทพแห่งน้ำแข็งเมื่อ 500 ปีก่อน โดยพิจารณาจากคำอธิบายของ Venti ในเควสต์ จุดสิ้นสุดของจุดจบ

ตัวแทน[]

เทพเจ้าบางตนในเทพเจ้าทั้งเจ็ด ได้ทำงานผ่านตัวแทนของตนที่ไม่ได้เป็นเทพเจ้า แต่ผู้คนใน Teyvat ต่างเข้าใจว่าตัวแทนเหล่านั้นคือหนึ่งในเทพเจ้าทั้งเจ็ด ซึ่งมีดังต่อไปนี้

ประเทศ ตัวแทน เทพเจ้า เริ่มต้น
(ปีก่อน)[a]
สิ้นสุด
(ปีก่อน)[a]
Electro
Inazuma
Raiden Shogun Icon
Ei
Raiden Makoto Icon
Makoto
2,000+[b] 500[c]
Raiden Shogun Icon
โชกุน
Raiden Shogun Icon
Ei
400[13][14] ยังดำเนินอยู่[d]
Hydro
Fontaine
Furina Icon
Furina
Focalors Icon
Focalors
500 การเต้นรำของคนบาป[e]
หมายเหตุ
  1. 1.0 1.1 เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของเวลาในเนื้อเรื่องของ Genshin Impact ตัวเลขที่ระบุจะถูกปัดเศษให้ใกล้เคียงกับเวลาหลักศตวรรษให้ได้มากที่สุด
  2. Makoto และ Ei ได้ปกครองร่วมกัน และได้ปรากฏตัวเป็นเทพแห่งสายฟ้าเพียงคนเดียวต่อชาว Inazuma โดย Ei ได้ทำหน้าที่เป็น Kagemusha (เงาตัวแทน) ของ Makoto
  3. ในขณะที่ชาว Inazuma ยังไม่ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงของตำแหน่งเทพเจ้า Ei จึงได้เข้ามาเป็นเทพแห่งสายฟ้าด้วยตนเอง ภายหลังจากการเสียชีวิตของ Makoto ในช่วงเหตุการณ์ภัยพิบัติ ซึ่งเป็นการสิ้นสุดบทบาทของเธอในฐานะผู้ที่ไม่ได้เป็นเทพเจ้าทั้งเจ็ด
  4. แม้ว่าโชกุนและ Ei จะเริ่มปกครอง Inazuma ร่วมกันภายหลังจากเหตุการณ์ในเควสต์ ซากุระโชนแสง แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ถึงการมีอยู่ของโชกุนที่เป็นตัวแทนแยกจาก Ei
  5. ภายหลังจากที่ตัวตนของ Furina ได้ถูกเปิดเผยไปพร้อมกับการประหารชีวิตของ Focalors — Furina ได้สละตำแหน่งเทพแห่งน้ำเพื่อไปใช้ชีวิตในฐานะชาว Fontaine ธรรมดา

เกร็ดข้อมูล[]

  • เมื่อใช้สกิลธาตุและท่าไม้ตาย ปลายผมของตัวละครที่เป็นเทพเจ้าจะเปล่งแสงไปตามสีของธาตุ
  • แม้ว่าเทพเจ้าทั้งเจ็ดดั้งเดิมจะเหลือเพียงสองคน คือ Barbatos และ Morax แต่ Beelzebul เทพแห่งสายฟ้าคนปัจจุบัน ได้เป็นผู้ที่ประสบกับสงครามเทพอสูรมาด้วยเช่นกัน โดยมีพี่สาวของเธอ — Baal เป็นผู้ครองตำแหน่งเทพแห่งสายฟ้าดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าเทพเจ้าตนอื่น ๆ ในปัจจุบัน ได้มีบทบาทในช่วงสงครามเทพอสูรหรือไม่

นิรุกติศาสตร์[]

  • เทพเจ้าหลายตนมีชื่อตามศาสตร์เวทมนตร์โกเอติก ซึ่งมีที่มาจากหนึ่งใน 72 ปีศาจที่พบในคัมภีร์อาร์สโกเอเทีย — หนึ่งในคัมภีร์ของกุญแจย่อยของซาโลมอน โดยเทพเจ้าทั้งเจ็ดต่างมีชื่อที่คล้ายคลึงกับชื่อปีศาจในคัมภีร์อาร์สโกเอเทีย
    • Barbatos เป็นหนึ่งในดยุกแห่งนรก
    • Morax เป็นเอิร์ลผู้ยิ่งใหญ่และประมุขแห่งนรก
    • Baal เป็นราชาองค์แรกแห่งนรก
      • แม้ว่าชื่อ Beelzebul ซึ่งเป็นชื่อจริง ๆ ของ Ei จะไม่ได้มีปรากฏในคัมภีร์อาร์สโกเอเทีย แต่ก็ยังคงมีความเกี่ยวข้องกับ Baal ซึ่ง Ei ยังคงใช้ชื่อนี้ของ Makoto ปกครองในนามเทพเจ้าต่อไปภายใต้ชื่อ "Baal"
    • Buer เป็นประมุขผู้ยิ่งใหญ่แห่งนรก
    • Haborym เป็นอีกชื่อหนึ่งของ Aym ผู้เป็นดยุกผู้ยิ่งใหญ่แห่งนรก
    • ชื่อของ Focalors ต่างจากเทพเจ้าตนอื่น โดยที่ไม่ได้ยกชื่อขึ้นมาใช้ตรง ๆ แต่เพิ่มตัว "s" ต่อท้ายเข้ามาอีก ซึ่งมีที่มาจาก Focalor ดยุกผู้ยิ่งใหญ่แห่งนรก

แกลเลอรี[]

ชื่อในภาษาอื่น[]

เจ็ดผู้ทรงอำนาจของโลก

ภาษาชื่ออย่างเป็นทางการความหมายที่แท้จริง
ไทยเจ็ดผู้ทรงอำนาจของโลก
อังกฤษThe Seven Archons
เดอะ เซเวน อาร์คอนส์
เจ็ดผู้ปกครอง
จีน
(ตัวย่อ)
尘世七执政
เฉินชื่อ ชี จื๋อเจิ้ง
(Chénshì Qī Zhízhèng)
เจ็ดผู้ปกครองโลกมนุษย์
จีน
(ตัวเต็ม)
塵世七執政
เฉินชื่อ ชี จื๋อเจิ้ง
(Chénshì Qī Zhízhèng)
ญี่ปุ่น (ぞく)
โซกูเซ โนะ ชิจิ-ชิซเซ
(Zokusei no Shichi-shissei)[34]
เจ็ดผู้ปกครองโลกมนุษย์
เกาหลี7 집정관집정관
อิลกบ-มย็อง-อึย ชิบจ็องกวัน
(Ilgop-myeong-ui Jipjeonggwan)
เจ็ดผู้ปกครอง
สเปนLos Siete Arcontes
โลส ซิเอเต อาร์กอนเตส
เจ็ดผู้ปกครอง
ฝรั่งเศสSept Patriarches
แซ็ต ปาทรียาร์ช
เจ็ดสังฆราช
รัสเซียСемеро Архонтов
เซเมโร อาร์ฮอนตอฟ
(Semero Arkhontov)
เจ็ดผู้ปกครอง
เวียดนามBảy vịvị chấp chínhchấp chính trần thếtrần thế
บั๋ย วิ เจิ๊ป จี๊ญ เจิ่น เท้
เจ็ดผู้ปกครองโลกมนุษย์[※][※]
เยอรมันDie sieben Archonten
ดี ซีเบิน อาร์ค็อนเทิน
เจ็ดผู้ปกครอง
อินโดนีเซียThe Seven Archon
อังกฤษ: เดอะ เซเวน อาร์คอนส์
เจ็ดผู้ปกครอง
โปรตุเกสOs Sete Arcontesเจ็ดผู้ปกครอง
ตุรกีYedi Hükümdarเจ็ดผู้ปกครอง
อิตาลีSette Archon
เซตเต อาร์กอน
เจ็ดผู้ปกครอง

เทพทั้งเจ็ด / เทพเจ้าทั้งเจ็ด

ภาษาชื่ออย่างเป็นทางการความหมายที่แท้จริง
ไทยเทพทั้งเจ็ด / เทพเจ้าทั้งเจ็ด
อังกฤษThe Seven
เดอะ เซเวน
ทั้งเจ็ด
จีน
(ตัวย่อ)
七神
ชีเฉิน
(Qīshén)
เจ็ดเทพเจ้า
จีน
(ตัวเต็ม)
七神
ชีเฉิน
(Qīshén)
ญี่ปุ่น (しち)
ชิจิ-ชิน
(Shichi-shin)[34]
เจ็ดเทพเจ้า
เกาหลี일곱
อิลกบ-ชิน
(Ilgop-sin)
เจ็ดเทพเจ้า
สเปนLos Siete
โลส ซิเอเต
ทั้งเจ็ด
ฝรั่งเศสLes Sept / Sept Archons
เล แซ็ต / แซ็ต อาร์ชง
ทั้งเจ็ด / เจ็ดผู้ปกครอง
รัสเซียСемеро
เซเมโร
(Semero)
ทั้งเจ็ด
เวียดนามBảy vịvị ThầnThần
บั๋ย วิ เถิ่น
เจ็ดเทพเจ้า
เยอรมันDie Sieben
ดี ซีเบิน
ทั้งเจ็ด
อินโดนีเซียThe Seven
อังกฤษ: เดอะ เซเวน
ทั้งเจ็ด
โปรตุเกสOs Seteทั้งเจ็ด
ตุรกีYedilerทั้งเจ็ด
อิตาลีI Sette
อี เซตเต
ทั้งเจ็ด

ประวัติการเปลี่ยนแปลง[]

เปิดตัวในเวอร์ชัน 1.0

อ้างอิง[]

  1. 1.0 1.1 เควสต์เทพเจ้า อารัมภบท ฉากที่ 3 - บทเพลงแห่งมังกรและอิสรภาพ ส่วนที่ 1: Abyss Mage
  2. เควสต์เทพเจ้า อารัมภบท ฉากที่ 3 - บทเพลงแห่งมังกรและอิสรภาพ ส่วนที่ 8: จุดสิ้นสุดของจุดจบ
  3. 3.0 3.1 เควสต์เทพเจ้า บทที่ 4 ฉากที่ 5 - การเต้นรำของคนบาป ส่วนที่ 5: ละครแห่งคลื่นดำและน้ำค้างขาว
  4. เรื่องราวของตัวละคร Venti: เรื่องราวของตัวละคร 3
  5. 5.0 5.1 เรื่องราวของตัวละคร Zhongli: เรื่องราวของตัวละคร 5
  6. หนังสือ: สายลมในป่าเขา
  7. 7.0 7.1 อาร์ติแฟกต์ Vourukasha's Glow: Vibrant Pinion
    นายเก่าแห่งอาณาจักรแห่งน้ำสิ้นชีพในกลียุค และร่างได้กลายเป็นทะเลแห่งหยาดอมฤต [...]
  8. เควสต์โลก ควาเรนาห์แห่งความดีชั่ว ส่วนที่ 1: ท้องฟ้าอันสดใสในครั้งนั้น
  9. 9.0 9.1 กิจกรรม ความปรารถนาแห่งน้ำบริสุทธิ์ เควสต์โลก: สายธารแห่งชีวิต (II)
  10. เควสต์โลก เปลวเพลิงอันมืดมน: เปลวเพลิงอันมืดมน
  11. บันทึก สิ่งมีชีวิต ศัตรูและมอนสเตอร์ สิ่งมีชีวิตธาตุ: Rhodeia of Loch
  12. แผนที่ซึ่งสามารถโต้ตอบได้: Statue of The Seven
  13. 13.0 13.1 เควสต์เทพเจ้า บทสลับฉาก ฉากที่ 3 - พระวิหารที่ล่มสลาย ส่วนที่ 1: ปักษาราตรีร่วงหล่นก่อนม่านปิดฉาก
  14. 14.0 14.1 เรื่องราวของตัวละคร ผู้พเนจร: เรื่องราวของตัวละคร 2
  15. 15.0 15.1 เควสต์เทพเจ้า บทที่ 3 ฉากที่ 5 - Akasha ปลุกปั่น เปลวเพลิงลุกโชน ส่วนที่ 4: จุดหมายของนาวาแห่งจิตสำนึก
  16. เรื่องราวของตัวละคร Zhongli: ผลิตภัณฑ์ที่มาจากทะเล
  17. 17.0 17.1 เควสต์เทพเจ้า บทที่ 2 ฉากที่ 3 - พันมือร้อยเนตรในโลกหล้า ส่วนที่ 9: ความปรารถนา
  18. 18.0 18.1 เควสต์เทพเจ้า บทที่ 1 ฉากที่ 3 - ดาราใหม่ฉายแสง ส่วนที่ 3: กลิ่นของความเดียวดาย
  19. 19.0 19.1 เควสต์เทพเจ้า บทที่ 3 ฉากที่ 5 - Akasha ปลุกปั่น เปลวเพลิงลุกโชน ส่วนที่ 5: จงดื่มแด่ชัยชนะ
  20. เควสต์เทพเจ้า บทที่ 3 ฉากที่ 1 - ข้ามผ่านม่านหมอกควันและผืนป่าอันมืดมิด ส่วนที่ 2: พักสังเกตอาการ
  21. เควสต์เทพเจ้า บทที่ 4 ฉากที่ 4 - ช่วงเวลาสุดท้ายก่อนคำพยากรณ์จะถือกำเนิด ส่วนที่ 3: ผู้กุมความลับและเขตหวงห้าม
  22. อาวุธ: Splendor of Tranquil Waters
  23. หนังสือ: บทเพลงแห่ง Erinnyes
  24. เควสต์เทพเจ้า บทที่ 5 ฉากที่ 4: แสงรุ้งที่ถูกลิขิตให้มอดไหม้ ส่วนที่ 4: ความสิ้นหวังลอยเหนือฟากฟ้า
  25. เควสต์ระดับตำนานของ Mavuika บทแห่งเพลิงสุริยันไร้พ่าย: ฉากที่ 1 - ดั่งสุริยันอันเจิดจ้า ส่วนที่ 3: จงสดับฟัง ผู้หวนคืน
    Xbalanque: "Kiongozi (ผู้นำ)" หมายถึงผู้นำ มันเคยเป็นนามโบราณของฉัน มันสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น จนมาถึงเธอในที่สุด และด้วยพลังที่สั่งสมมา เธอจะต้องสามารถเอาชนะทุกสิ่งที่ขวางหน้าได้แน่
  26. เสียงพากย์ของ Kachina: เกี่ยวกับท่านเทพแห่งไฟ...
  27. เควสต์เทพเจ้า บทที่ 5 ฉากที่ 2 - ศิลาดำใต้ผืนหินผาขาว ส่วนที่ 5: อดีตและอนาคต
  28. 28.0 28.1 28.2 28.3 28.4 ไอเทมเควสต์: ออบซิเดียนนามโบราณ
  29. 29.0 29.1 29.2 เควสต์เทพเจ้า บทที่ 5 ฉากที่ 1 - ดอกไม้ผลิบานบนเส้นทางแผดเผา ส่วนที่ 1: Natlan! การเดินทางครั้งใหม่
  30. อาวุธ: Surf's Up
  31. อาวุธ: Astral Vulture's Crimson Plumage
  32. อาร์ติแฟกต์ Unfinished Reverie: Crownless Crown
  33. เควสต์เทพเจ้า บทที่ 5 ฉากที่ 2 - ศิลาดำใต้ผืนหินผาขาว ส่วนที่ 3: เสียงสะท้อนของชีวิต
  34. 34.0 34.1 เควสต์เทพเจ้า อารัมภบท ฉากที่ 3 - บทเพลงแห่งมังกรและอิสรภาพ ส่วนที่ 1: Abyss Mage (เสียงพากย์ภาษาญี่ปุ่น)

หน้าอื่น ๆ[]

Advertisement